เมื่อวานนี้ (1 กันยายน) จิรายุ ห่วงทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจประเด็นเรื่องการปฏิรูปตำรวจว่า ตนรู้จักแวดวงสีกากีดี เพราะตั้งแต่เกิดตนก็อยู่วงการสีกากีมาตั้งแต่เกิด เนื่องจาก พ่อ น้า และอาเป็นตำรวจ ปัญหาของตำรวจที่เกิดขึ้นท่านไม่ต้องไปโทษใคร นั่นมาจากผู้นำสูงสุดของประเทศที่ไม่ได้มีความสนใจใส่ใจที่จะแก้ปัญหาตำรวจอย่างจริงจัง จึงเป็นที่มาของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ทำผิด 5 บาป
บาปที่ 1 คือ ขโมยความสุข การกินดีอยู่ดี หลอกประชาชนว่าจะคืนความสุข จะทำตามสัญญา
บาปที่ 2 คือ มีพฤติกรรมค้าความตายบนคราบน้ำตาของประชาชน
บาปที่ 3 คือ นายกรัฐมนตรีพรากลูกพรากเมียผู้อื่นด้วยความตาย เป็นบาปที่น่าตกใจ หลายคนสิ้นเนื้อประดาตัวเพราะแนวคิดของนายกรัฐมนตรี
บาปที่ 4 คือ ท่านโกหกพี่น้องประชาชนว่าจะปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง แต่ท่านกลับไม่ทำ เพราะท่านอยากอยู่ยาว
บาปที่ 5 คือ มึนเมา มัวมันในอำนาจ ปล่อยข้าราชการชั่วทุจริตซ้ำเติมประชาชนยุคโควิด
“สำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเห็นได้ว่านายกรัฐมนตรีควบหลายเก้าอี้ ถ่างขาจนขาแทบฉีก คนเดียวจะไปรับผิดชอบอะไรเยอะ แต่ท่านนายกรัฐมนตรีก็รวบตนเองเอามาทำเองหมด ถ่างขาแทบฉีกจนเกิดปัญหาที่ตามม ไม่ว่าจะเป็นเด็กนาย เด็กใคร จนตำรวจชั้นผู้น้อยจะต้องคิดว่าหากไม่ใช่เด็กนาย ไม่ใช่เด็กพ่อบ้าน ไม่ใช่เด็กผู้บังคับการจังหวัด เด็กผู้บังคับการภาค ฝันไปเถอะว่าจะได้เก้าอี้ดีๆ” จิรายุ กล่าว
จิรายุ ยังได้เปิดรายงานพิเศษตัวแปรของตำรวจในการยืนยงคงกระพัน และมีตำแหน่งหน้าที่ดีๆ นั้นต้องผ่านมรสุมอะไรมาบ้าง ซึ่งเนื้อหาภายในรายงานพิเศษเป็นการสะท้อนถึงการทำงาน ปัญหาและอุปสรรคในวงการสีกากี
จากนั้นจิรายุได้อภิปรายต่อว่า ตนได้เคยพูดถึงเรื่องบ่อนการพนันเมื่อปีที่ผ่านมาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ทั้ง 5 เสือ
เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาคดีบ่อนการพนันของ สมชาย จุติกิติ์เดชา หรือ หลงจู๊ ที่จังหวัดชลบุรี ถามเหตุใดจึงปล่อยให้มีการพนัน ส่วยจราจร และสารพัดคดีอีกมากมายในพื้นที่นั้นเป็นเพราะเงิน ซึ่งผู้กำกับไม่ได้เป็นผู้เก็บเงินเพียงคนเดียว อาจมีการส่งต่อไปยังรองผู้การ ผู้บังคับการ หรือผู้บัญชาการภาค ถ้านายกรัฐมนตรีไม่ยอมปฏิรูปตำรวจก็จะมีลักษณะดังกล่าว และลักษณะเช่นที่จังหวัดนครสวรรค์เกิดขึ้นต่อไป เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้มีการย้ายผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งเหตุผลที่ย้ายผู้กำกับการนั้นเนื่องจากที่แม่สอดเป็นทำเลทอง ทั้งแรงงานต่างด้าว บ่อนการพนัน เส้นทางการเงินทั้งนั้น และยังมีช่องทางธรรมชาติอีก 12 แห่ง
นอกจากนั้นจิรายุยังกล่าวถึงคลัสเตอร์ทองหล่อที่ผู้กำกับในพื้นที่ถูกเด้งในขณะนั้นก็ได้มีทั้งนักการเมืองดัง ไฮโซ และนักร้อง รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ติดโควิดและต้องกักตัวอีกหลายร้อยคน และขณะนี้ผู้กำกับที่ถูกเด้งไปก็กลับมาที่เดิม จึงทำให้ตำรวจน้ำดีไม่สามารถที่จะเติบโตได้ในวงการตำรวจ
นอกจากนั้นในวงการตำรวจยังเป็นที่รู้จักกันและเกี่ยวข้องในเรื่องของการเปิดประมูลรถหรูด้วย โดยตำรวจนักบินก็จับรถหรูที่หนีภาษีเข้ามาให้กรมศุลกากรนำมาประมูล โดยรถหรูที่จับได้และนำมาประมูลนั้นก็อยู่ในราคาประมูลที่แสนถูกเนื่องจาก รถหรูที่นำมาประมูลนั้นกลับไม่มีกล่อง สมองกลรถ สุดท้ายนายหน้าผู้ประมูลก็เสนอราคาประมูลไป จึงเกิดกระบวนการเช่นเดียวกับที่เป็นข่าวที่อดีตผู้กำกับโจ้ทำ ซึ่งส่วนใหญ่รถเลี่ยงภาษีที่ถูกจับได้จะเป็นรถพวงมาลัยขวาเช่นเดียวกับที่ประเทศไทยใช้ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ อังกฤษ และญี่ปุ่น เป็นต้น ดังนั้นจึงเป็นการชี้ให้เห็นภาพว่า หากนายกรัฐมนตรีจะปฏิรูปตำรวจ จะต้องปฏิรูปทั้งระบบ ซึ่งไม่เพียงปฏิรูปตำรวจเท่านั้น ต้องรวมไปถึงศุลกากร ท่าเรือ เป็นต้น
ตำรวจหลายคนทำงานแทบตาย แต่สุดท้ายกลับไม่ได้ดี ซึ่งก่อนที่ตนจะมาอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันนี้ ตนได้สุ่มตัวอย่างสอบถามไปยังตำรวจ 4 ภาค เช่น กองบัญชาการตำรวจภาค 1 ภาค 2 ภาค 6 และ ภาค 8 ซึ่งคำตอบตรงกันเป๊ะคือ
“พี่ครับ ผมคั่วรองผู้กำกับมา 5-6 ปี อาวุโสก็ถึง ผลงานก็แท้ จะขึ้นผู้กำกับพี่มีตั๋วไหมครับ” จึงเป็นที่ชี้ชัดแล้วว่าตั๋วช้างมีอยู่จริง ซึ่งตั๋วเหล่านี้ผู้บังคับการระดับจังหวัดได้เคยเล่าให้ตนฟังว่า ระดับผู้บังคับการจังหวัดไม่มีปัญญาออกตัวช้าง เดี๋ยวนี้ต้องระดับ ผู้บัญชาการภาคเขาทำโผ ไม่ว่าใครจะย้ายไปสถานีตำรวจเกรด A B หรือ C จะต้องได้ตั๋วระดับผู้บัญชาการภาค หากไม่ใช่ตั๋วภาค ก็ต้องเป็นตั๋วเสี่ย ก. ซึ่งหากเปรียบเทียบในร้อยตำรวจแล้วนั้นอยู่ในรุ่น 47 ผู้ใดก็รู้ว่าหากเป็นตั๋วเสี่ย ก. จะแม่น และส่วนใหญ่เขาจะอ้างนายกรัฐมนตรี หรือไม่ก็อ้าง พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ท่านรู้หรือไม่ว่าโผตำรวจแต่ละภาคนั้นเป็นอย่างไร และท่านดูละเอียดแค่ไหน คนที่ทำมาหากินซื่อสัตย์สุจริตรับเงินเดือนเข้าเวรทำตามหน้าที่ไม่มีรีดไถ ฝันไปเถอะว่าจะได้ขึ้นตำแหน่งที่ดีๆ
จิรายุ ยังกล่าวต่อไปว่า การปฏิรูปตำรวจนั้น ทาง iLaw ได้เคยออกมาแสดงความเห็นว่า หากจะปฏิรูปตำรวจจะต้องมีเอกชนเข้าไปให้คะแนน รัฐบาลไทยเคยคิดในเรื่องนี้แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ เนื่องจากตำแหน่งมีความหอมหวนชวนดม ขณะเดียวกันคณะกรรมการตำรวจระดับ สน. ท่านรู้หรือไม่ว่าไม่ค่อยได้ทำอะไร ส่วนใหญ่ก็จะจ่ายเงินให้กับผู้กำกับคนละหมื่น จัดงานเลี้ยงก็ให้ กตร. เป็นผู้จ่ายเงิน หากเป็น กตร. ระดับจังหวัด และระดับภาคก็เป็นอีกราคาหนึ่ง จึงสงสัยว่าจะปฏิรูปตำรวจได้อย่างไรในเมื่อ กตร. ยังปฏิบัติในลักษณะนี้
จึงเป็นที่มาของของฉายาตำรวจนักบิน ที่บินไปทุกอำเภอ ทุกจังหวัด แล้วตบทรัพย์ แจ้งข้อกล่าวหาประชาชน ดังนั้นตนจึงขอเรียกว่าเป็นการปฏิรูปแบบปราสาททราย แหกตาประชาชน