สถานีโทรทัศน์ Al Jazeera รายงานว่า บรรดาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ข้ามชาติหลายแห่ง รวมถึง Facebook และ Xiaomi ต่างแสดงความสนใจเข้าร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมการเงินออนไลน์ของอินเดีย หลังตลาดบริการธุรกรรมออนไลน์ขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด โดยมูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมชำระเงินออนไลน์ของอินเดียในขณะนี้ขยับพุ่งแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว
รายงานระบุว่า อินเดียจะเป็นชาติแรกของโลกที่ Facebook เปิดให้บริการโครงการกู้ยืมเงินผ่านพันธมิตรที่โฆษณากับทาง Facebook ซึ่งวงเงินกู้ยืมจะอยู่ระหว่าง 5 แสนรูปี ถึง 5 ล้านรูปี และมีอัตราดอกเบี้ยระหว่าง 17-20% อีกทั้งยังไม่ต้องมีหลักค้ำประกันใดๆ
ความเคลื่อนไหวของทาง Facebook ยังมีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกับยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีจีนอย่าง Xiaomi มีแผนที่จะเสนอบริการปล่อยสินเชื่อ บัตรเครดิต และผลิตภัณฑ์ประกัน ผ่านการร่วมมือกับธนาคารรายใหญ่และสตาร์ทอัพด้านดิจิทัลในอินเดีย
ก่อนหน้านี้ Amazon ก็เพิ่งประกาศลงทุนปฐมฤกษ์ในอุตสาหกรรมจัดการความมั่งคั่งของอินเดีย ด้วยการร่วมลงทุน 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐใน Smallcase Technologies Pvt. ฟินเทคสตาร์ทอัพอินเดีย ขณะที่ Alphabet บริษัทแม่ของ Google เสนอบริการทองคำดิจิทัล กองทุน Mutual Fund บนแพลตฟอร์ม Google Pay ผ่านความร่วมมือกับผู้ให้บริการปล่อยสินเชื่อรายย่อยในอินเดีย
ทั้งนี้ ตลาดการชำระเงินดิจิทัลของอินเดียกำลังดึงดูดความสนใจจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่บางราย หลังจากธุรกรรมออนไลน์พุ่งสูงขึ้นในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ และผู้ให้กู้รายเดิมหันมาระมัดระวังหลังจากมีหนี้เสียเพิ่มขึ้น
โดย Boston Consulting Group ประเมินว่าตลาดสินเชื่อดิจิทัลอินเดียมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2023 และมีมูลค่ารวม 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐใน 5 ปีนับตั้งแต่ปี 2019
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลาดสินเชื่อของอินเดียมีศักยภาพเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ แต่ก็มีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน โดยอัตราส่วนหนี้เสีย (NPL) ของประเทศคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 11.3% ภายในเดือนมีนาคม ทำให้เป็นประเทศที่มีผลงานแย่ที่สุดในประเทศใหญ่เป็นปีที่สองติดต่อกัน ในด้านความเสี่ยงก็เช่นกัน อัตราส่วนเงินกู้ที่ไม่ดีของประเทศขยับเพิ่มขึ้นเป็น 11.3% ในเดือนมีนาคม ทำให้อินเดียกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีหนี้มากที่สุดเป็นลำดับต้นๆ เป็นปีที่สองติดต่อกัน
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าทางธนาคารกลางอินเดียยังวางแผนที่จะควบคุมผู้ให้กู้ออนไลน์ ซึ่งรวมถึงบริษัทสตาร์ทอัพมากกว่า 300 ราย
อ้างอิง:
