บรรดานักเทรดเดอร์คริปโตเคอร์เรนซีที่ใช้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีผ่านแพลตฟอร์มชั้นนำที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Binance เล็งรวมตัวฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากแพลตฟอร์มดังกล่าวจากเหตุการณ์ไฟดับครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม และกินเวลานานประมาณ 1 ชั่วโมง
โดยวันและเวลาที่เกิดไฟดับเป็นช่วงที่ราคาของ Bitcoin และ Ethereum ปรับร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 ทำให้ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีโดยรวมในวันดังกล่าวสูญมูลค่าประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการที่ราคาร่วงลงและเทรดเดอร์ส่วนหนึ่งไม่สามารถดำเนินการขายได้ทันเวลาเพราะไฟดับ ทำให้ขาดทุนหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ
แม้ว่าภายหลังจะมีการติดต่อจาก Binance เพื่อชดเชยให้ แต่นักลงทุนร่วมหลายร้อยคนเห็นว่าน้อยเกินไป และเหตุผลของการขาดทุนที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความผิดพลาดของระบบ ไม่ได้มาจากการลงทุนของตนเอง ทำให้นักลงทุนเหล่านี้รู้สึกไม่เป็นธรรมและตัดสินใจรวมตัวฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย
อย่างไรก็ตาม ทาง Liti Capital บริษัทด้านการลงทุนที่ให้การสนับสนุนการฟ้องร้องดำเนินคดี ระบุว่า เนื่องจาก Binance ไม่มีออฟฟิศหรือสำนักงานใหญ่ที่ไหนบนโลก ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะดำเนินการต่อ และที่แห่งเดียวบนโลกที่จะดำเนินคดีทางกฎหมายกับ Binance ได้น่าจะเป็นศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ทำให้มีความเป็นไปได้ที่กรณีพิพาทระหว่างเทรดเดอร์และ Binance จะสามารถดำเนินการนอกศาลได้
ซึ่งการกระทำดังกล่าวมักทำให้ผู้ฟ้องร้องเสียเปรียบ เพราะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมอนุญาโตตุลาการและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดย Liti Capital คำนวณว่าผู้ฟ้องร้อง 1 รายจะต้องใช้เงินในการดำเนินการสูงถึง 65,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ทาง Liti Capital ได้ให้คำมั่นที่จะช่วยเทรดเดอร์ในส่วนนี้
ด้าน Jake Klein ประธานบริหาร Evolution Mining บริษัทเหมืองทอง ได้ออกมาแสดงความเห็นยืนกรานว่า ในท้ายที่สุดแล้วด้วยสภาะของคริปโตเคอร์เรนซีที่มีความผันผวนสูง จะทำให้บรรดานักลงทุน Bitcoin หันกลับมาหาทองคำมากขึ้น
โดย Jake Klein ระบุว่า ความเห็นของตนต้องใช้เวลาระยะยาวในการพิสูจน์ ก่อนที่จะทำให้ทุกคนประจักษ์ได้ว่า ในแง่ของความมั่นคงในระยะยาว ‘ทองคำ’ คือคำตอบที่ผ่านการพิสูจน์มาอย่างยาวนานในช่วงกว่า 70 ปีที่ผ่านมา
ในส่วนของคริปโตเคอร์เรนซี Jake Klein ระบุชัดว่า การลงทุนในตลาดดังกล่าวเต็มไปด้วยเงินที่มุ่งหวังการเก็งกำไรอย่างมาก ดังนั้นJake Kleinจึงมีความผันผวนสูง ซึ่งจะทำให้นักลงทุนบางส่วนตัดสินใจหันกลับไปหาทองคำ
อ้างอิง: