ใครที่ได้ดูภาพยนตร์เรื่อง ‘โปรเม อัจฉริยะ/ต้อง/สร้าง’ เมื่อเดินออกจากโรงภาพยนตร์อาจจะมีความรู้สึกอยากเล่นกอล์ฟขึ้นมาบ้าง หรือไม่ชอบกอล์ฟไปเลยก็มี
ชีวิตการเป็นโปรมือ 1 ของโลกของ โปรเม-เอรียา จุฑานุกาล ถูกสร้างขึ้นด้วยความเข้มข้นและเหี้ยมโหด ชนิดที่ว่าถ้าไม่ทำแบบนี้ก็ไม่มีทางสู้เขาได้
โปรเมก้าวถึงจุดสูงสุดของการเป็นโปรกอล์ฟทั้งที่อายุยังไม่มาก บรรลุความต้องการของโปรกอล์ฟคนหนึ่งที่พึงจะมีแล้ว และยังมีเวลาเหลือบนเส้นทางโปรกอล์ฟอีกยาวไกลมาก
อีกมุมหนึ่ง อัจฉริยะนักกอล์ฟสาวอีกคนของไทยถูกสร้างขึ้นในเวลาห่างกันไม่นาน ในนาม โปรเหมียว-ปภังกร (แพตตี้) ธวัชธนกิจ ที่สร้างชื่อกระหึ่มโลกด้วยการคว้าแชมป์เมเจอร์รายการใหญ่อย่าง เอเอ็นเอ อินสไพเรชัน 2021
โปรแพตตี้เป็นนักกอล์ฟไทยคนที่ 2 ที่คว้าแชมป์เมเจอร์ต่อจากโปรเม ที่เคยคว้าแชมป์วีเมนส์ โอเพ่น ปี 2016 และแชมป์ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น ปี 2018
ทีเด็ดก็คือ โปรสาวไทยที่ฝรั่งเรียกชื่อลำบากจนต้องใช้ชื่อ ‘แพตตี้’ อายุเพียง 21 ปี ที่ได้เป็นแชมป์เมเจอร์ในการเล่นฐานะรุกกี้
ทั้งคู่เก่งตั้งแต่เด็ก เคยคว้ารางวัลนักกอล์ฟเยาวชนหญิงยอดเยี่ยม (Rolex Junior Player of the Year) จากสมาคมกอล์ฟเยาวชนแห่งสหรัฐอเมริกา (AJGA) โปรเมทำได้ในปี 2011และ 2012 ส่วนโปรเหมียวทำได้ในปี 2016
นี่คือโปรสองสาวที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘อัจฉริยะ’ ของไทยเหมือนกัน เคยคว้าแชมป์เมเจอร์มาแล้วเหมือนกัน และมาไล่ล่าความสำเร็จในโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 พร้อมกัน
โปรเหมียว อันดับ 13 ของโลก ส่วนโปรเม มือ 21 ของโลก ลงร่วมประชันกับ 58 โปรสาวจากทั่วโลก ไม่ต่างอะไรกับสังเวียนแอลพีจีเอ หรือรายการเมเจอร์ที่เธอคุ้นเคย
ชนะได้ แพ้ก็ไม่แปลก
แม้ไม่ใช่มือ 1 ของโลก ไม่ใช่เต็ง 1 แต่แฟนกอล์ฟจำได้ดีกับรายการที่โปรเหมียว-โปรเม เคยลงหวดพร้อมกันในรายการฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021 ที่พัทยา เอรียาคว้าแชมป์ไปครอง ขณะที่ปภังกรเป็นผู้นำ 3 วันแรก ก่อนจบอันดับ 3 ร่วม
นี่คือสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นอีกครั้งในโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020
การซ้อมสนามจริงทำได้ไม่กี่วันก่อนแข่ง โปรสาวไทยทั้งสองมีรอยยิ้มขณะฝึกซ้อมด้วยความรู้สึกสบายๆ ต้องทำความคิดและจิตใจให้มีความผ่อนคลายเหมือนที่เคยหวดอาชีพแทบทุกสัปดาห์ แม้ปัจจัยภายนอกพยายามกระทุ้งว่า เธอกำลังหวดโอลิมปิกเกมส์ เป็นความหวังของคนไทยทั้งประเทศ
โปรเหมียวบอกว่า ไม่ว่าจะอย่างไรก็แล้วแต่ กอล์ฟคือการต่อสู้กับตัวเอง เริ่มที่ตัวเอง และจบด้วยตัวเอง
ประสบการณ์และการเคี่ยวกรำในระดับสูงสอนเธอว่า จิตวิทยาคือหัวใจสำคัญ การควบคุมสิ่งที่ควบคุมได้คือการวัดผลที่แท้จริง ส่วนที่ควบคุมไม่ได้ต้องปล่อยไปตามธรรมชาติ
ในขณะที่โปรเมซึ่งผ่านความสำเร็จระดับสุดยอดมาแล้วทุกอย่าง และต้องแบกรับความกดดันมหาศาลเกินกว่าที่คนคนหนึ่งจะรับไหว ก่อนที่จะค้นพบคำตอบให้ตัวเองได้ว่าอะไรที่ทำให้เธอมีความสุขจากการเล่นกอล์ฟ
ความสุขจากการเล่นกอล์ฟ ก็คือการได้เล่นกอล์ฟนั่นเอง
วันนี้หากใครไปถามเธอว่า ตั้งเป้าหมายในการแข่งขันไว้อย่างไร รู้สึกกดดันหรือไม่ เธอจะตอบเหมือนเดิมทุกครั้งว่า “เล่นให้สนุกดีกว่า” ขอแค่เล่นกอล์ฟไปทีละช็อต ทีละรอบ ทีละวันอย่างมีความสุขก็นับว่าดีที่สุดแล้ว
เคล็ดลับแห่งการเป็นอัจฉริยะของเธอทั้งสองจึงเป็นการโฟกัสหลุมที่ตัวเองกำลังจะเล่น จดจ่อกับทุกจังหวะที่ออกแรงส่งเหล็กออกไป เมื่อผ่านหลุมนี้ไปแล้ว สิ่งที่คิดคือหลุมต่อไป บางทีเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาอาจยังไม่รู้เลยว่าเล่นจบแล้ว แพ้แล้ว หรือได้แชมป์แล้ว
ดังนั้น ในโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ถ้าเกจิกอล์ฟคนไหนจะทำนายว่าเธอทั้งสองมีโอกาสคว้าเหรียญ โปรเหมียว-โปรเม ก็จะรู้สึกเฉยๆ
หรือบอกว่าเธอไม่มีหวัง หรือหวังได้ยาก เธออาจจะยิ่งชอบใจด้วยซ้ำไป
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
