วันนี้ (28 มิถุนายน) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายรัฐมนตรี แถลงหลังประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดโควิด-19 โดยย้ำว่าที่ ผ่านมารับฟังความเห็นของทุกคน แต่ต้องให้ความสำคัญกับคลัสเตอร์แรงงาน จึงต้องแก้ปัญหาให้แรงงานก่อน ส่วนมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ จะเร่งช่วยเหลือต่อไปและจะมีมาตรการใหม่ๆ ออกมาอีก
สำหรับมาตรการที่จะช่วยเหลือแรงงานที่ได้รับผลกระทบตามประกาศฉบับที่ 25 ใน 6 จังหวัด จะใช้งบประมาณจ่ายเพิ่มเติมให้ลูกจ้าง 7,500 ล้านบาท และลูกจ้างระบบประกันสังคมอีก 2,000 บาทต่อหัว ให้กับผู้ประกอบการร้านอาหาร กิจการบันเทิงในระยะเวลา 1 เดือนที่ได้ผลกระทบ
พล.อ. ประยุทธ์ ยืนยันว่า จำเป็นต้องปิดแคมป์ก่อสร้างเพราะเป็นคลัสเตอร์ที่มีการระบาดมาก ส่วนแรงงานที่ลักลอบออกพื้นที่ไปหลังประกาศปิดก็สั่งให้ทหารลงไปควบคุมพื้นที่ตั้งแต่เช้าวันเสาร์ป้องกันเอาเชื้อไปกระจายพื้นที่อื่น
พล.อ. ประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า แรงงานคงไม่มีใครอยากจะกลับไปบ้าน เพราะกลับไปก็ต้องถูกพื้นที่ควบคุมตัวและกักตัว แต่แรงงานที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมก็จะได้ค่าแรงที่ชดเชยให้ 50% แต่สิ่งที่ห่วงคือร้านอาหารรายย่อยและเล็กที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งกำลังพิจารณาว่าจะจัดงบประมาณไปซื้ออาหารจากกลุ่มนี้เพื่อไปให้แรงงานในแคมป์
พล.อ. ประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า ต้องมีคนไม่สบายใจกับมาตรการและคำสั่งที่ประกาศไป แต่ต้องเข้าใจว่ารัฐบาลต้องบริหารงานให้เกิดระบบให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาพันกันในอนาคต โดยมาตรการที่เห็นชอบวันนี้จะนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
ส่วนนายจ้างที่รายได้ขาดไปก็จะมีมาตรการชดเชยให้อีกซึ่งพิจารณารายหัว พล.อ. ประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า ประชุม 3 ชั่วโมงก็คิดกันหนักจึงอยากให้ทำความเข้าใจ
พล.อ. ประยุทธ์ ยังย้ำว่า จะไม่มีการเลื่อนโครงการคนละครึ่ง และโครงการอื่นๆ ที่ประกาศออกไปแล้ว ทุกอย่างยังเป็นไปตามกำหนด ขณะเดียวกันก็กำลังพิจารณาหาทางช่วยผู้ประกอบการร้านอาหารที่ไม่สามารถให้นั่งรับประทานในร้านได้ พร้อมย้ำว่า ช่วง 1 เดือนนี้จะมีการเยียวยาให้หมด แต่วันนี้ต้องพิจารณาเป็นกรณีไปก่อน อันไหนหยุดได้ก็ให้หยุดไปก่อน วันนี้ไม่ใช่แค่เราเดือดร้อน หลายประเทศก็เดือดร้อนยิ่งกว่าประเทศไทยอีก ถ้าทุกคนช่วยกันก็จะผ่านไปได้
ส่วน ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ยังยืนยันจะเปิดและเดินหน้าวันที่ 1 กรกฎาคม จะเดินทางไปเปิดงานด้วยตนเอง ทุกอย่างยังดำเนินตามมาตรการ
“วันนี้เห็นใจซึ่งกันและกันนะจ๊ะ ถ้าไม่เห็นใจกันก็ไปต่อไม่ได้ และเดี๋ยวความขัดแย้งก็จะสูงขึ้น การเมืองก็ขอไว้ก่อน และไม่หวั่นไหวกับม็อบที่ชุมนุม ยืนอยู่ตรงนี้ไม่เคยหวั่นไหวอะไรทั้งสิ้น เคยบอกแล้วว่าผมจะทำของผมให้ดีที่สุดตราบใดที่ยังทำได้ เพราะผมรักประชาชน รักโดยไม่ต้องการอะไรจากเขา” พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวในที่สุด
