สองตัวสำรองของออสเตรียลงสนามมาทำ 2 ประตู พาทีมเอาชนะนอร์ทมาซิโดเนีย 3-1 พร้อมขึ้นนำจ่าฝูงกลุ่มชั่วคราวในการแข่งขันเกมแรกกลุ่ม C
เกมที่สนามกีฬาแห่งชาติในกรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย ต่อหน้าแฟนบอลเกือบ 10,000 คน ออสเตรียที่เข้าร่วมเป็นครั้งที่ 3 พบกับนอร์ทมาซิโดเนีย ที่เพิ่งผ่านเข้ามาเล่นเป็นครั้งแรก เกมเริ่มด้วยการบุกใส่น้องใหม่ตามคาด และออสเตรียก็นำไปก่อนจากการทำของ สเตฟาน ไลเนอร์ ที่กระโดดแปลูกเปิดของ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ เข้าไปในนาทีที่ 18 แต่อีกเพียง 10 นาทีต่อมาจากความผิดพลาดของแนวรับทีม ‘นกกระจอกเทศ’ ที่เตะบอลไปถูกพวกเดียวกัน เปิดโอกาสให้ โกรัน ปานเดฟ กองหน้ากัปตันทีมน้องใหม่ในยูโร ยิงตีเสมอ 1-1 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังนอร์ทมาซิโดเนียยังเล่นเกมรับได้ดีอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งนาที 59 ที่ ฟรังโก โฟดา โค้ชออสเตรียตัดสินใจเปลี่ยนตัวทีเดียว 2 คน ด้วยการส่ง มิชาเอล เกรกอริตช์ กับ มาร์โก อาร์เนาโตวิช ลงมาในสนาม และทั้งคู่ก็ทำ 2 ประตูสำคัญในช่วงท้ายเกม โดยเกรกอริตช์โฉบตัดหน้า สโตเล ดิมิเตรียฟสกี ผู้รักษาประตูนอร์ทมาซิโดเนีย จิ้มบอลเข้าไปในนาทีที่ 79 ก่อนที่อาร์เนาโตวิชจะมายิงประตูย้ำชัยในนาทีที่ 90 พาออสเตรียเอาชนะเกมนี้ไปได้ 3-1
ออสเตรียเก็บชัยชนะนัดแรกในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปได้สำเร็จ โดยก่อนหน้านี้แม้จะเข้าร่วมการแข่งขันในรอบสุดท้ายมาแล้ว 2 หน แต่ก็ทำได้แค่เสมอ 2 แพ้ 4 จากการเล่น 6 นัด พร้อมกับขึ้นไปนำกลุ่ม C เป็นการชั่วคราว
ขณะที่นอร์ทมาซิโดเนียแม้จะแพ้ในเกมนี้ แต่ก็ยังพอจะมีโอกาสในการเข้ารอบน็อกเอาต์จากการเล่นในอีก 2 เกมที่เหลือ แถมประตูของ โกรัน ปานเดฟ ยังกลายเป็นประตูจากผู้เล่นที่อายุมากที่สุดอันดับ 2 ในฟุตบอลยูโร ด้วยวัย 37 ปี 321วันอีกด้วย
MAN OF THE MATCH: มิชาเอล เกรกอริตช์ (ออสเตรีย)
ภาพ: UEFA EURO 2020
