วันนี้ (9 เมษายน) สุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของ เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เดินทางไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อหวังว่าจะได้เข้าเยี่ยมลูกชายก่อนที่จะต้องหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ แต่ไม่ได้รับอนุญาต
สุรีย์รัตน์กล่าวต่อว่า ช่วงเวลาอีก 1 อาทิตย์กว่าที่ทนายความจะได้เข้าเยี่ยม ไม่รู้ว่าเพนกวินจะอยู่ในสภาพไหน ในขณะที่คนอื่นๆ กำลังจะได้ไปหยุด อยู่กับครอบครัว ฉลองเทศกาล แต่ชีวิตตัวเองนี้กำลังจะสูญเสียลูกไป ซึ่งเมื่อวานนี้เพนกวินได้บอกกับตนว่า หากได้รับการประกันตัวก็จะกลับมาเจอกับครอบครัว แต่ถ้าหากไม่ได้ประกัน ก็ขอลาแม่และครอบครัว รวมทั้งเพื่อนๆ
ในส่วนของแนวทางการประกันตัว ต้องขึ้นอยู่ที่เพนกวินว่าจะยอมรับในเงื่อนไขแบบไหน ปกติแล้วนิสัยของลูกจะเป็นคนมั่นคงและยืนหยัดในอุดมการณ์ที่ตัวเองเชื่อ และจะทำสิ่งนั้นตามที่เคยได้สัญญาไว้ เพราะฉะนั้นแล้วในเรื่องนี้ตนจึงปล่อยให้ลูกเป็นคนตัดสินใจ เพราะสุดท้ายแล้วสิ่งที่เพนกวินเลือกคือสิ่งที่เพนกวินจะต้องรับผิดชอบ
ด้าน ประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ตอนนี้คนที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือเพนกวิน เพราะมีอาการทางร่างกายทรุดลงเรื่อยๆ จากคำบอกเล่าของแม่ที่ได้พบเมื่อวานนี้ระยะเวลาสั้นๆ เพนกวินไม่สามารถเดินได้ด้วยตัวเองแล้ว และการพิจารณาคดีนี้อาจกินระยะเวลายาวนานและไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไร ด้วยระยะเวลาขนาดนี้อาจทำให้นักศึกษาที่ถูกกักขังชั่วคราวพ้นสภาพจากการเป็นนักศึกษา
ส่วนกรณีที่จำเลยในคดีชุมนุมวันที่ 19 กันยายน ปักหมุดคณะราษฎร มีการถอนทนายในการทำคดีออกทั้งหมด ยกเว้น ปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำแบงค์ ที่ยังไม่ถอนทนายนั้น เพื่อเป็นการสื่อสารไปให้สังคมได้รับรู้ว่า ขณะนี้คดีดังกล่าวขาดความยุติธรรมในทุกกระบวนการ ตั้งแต่ทนายไม่สามารถปรึกษาการสู้คดีกับจำเลยได้ ผู้ปกครองหรือผู้สังเกตการณ์ไม่สามารถเข้าห้องพิจารณาคดีได้ จำเลยจึงมีสถานะเหมือนผู้ที่ถูกพรากสิทธิ์ เมื่อทุกคนได้ร่วมลงความเห็นแล้วว่าหลังจากนี้จะไม่ขอมีส่วนร่วมในขบวนการที่ไม่ยุติธรรมต่อไป
