นอกจากชัยชนะเหนือท็อตแนม ฮอตสเปอร์ และการขึ้นที่ 4 ของพรีเมียร์ลีกแล้ว ภาพการฉลองประตูของเหล่านักเตะทีม ‘ขุนค้อน’ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มีการพูดถึงไม่น้อยในเกมเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
นั่นเพราะลีลาการฉลองประตูลูกนี้เต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ ในการจำลองเป็นวงดนตรี เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้แก่แฟนบอลที่ได้พบเห็น
แอบเดากันได้ไม่ยากว่าคนที่อยู่เบื้องหลังไอเดียสนุกๆ แบบนี้ต้องเป็น เจสซี ลินการ์ด ตัวรุกที่กลับมาแจ้งเกิดเป็นครั้งที่ 2 ของชีวิตในวัย 28 ปีกับเวสต์แฮมได้อย่างสวยงาม ด้วยผลงาน 4 นัด 3 ประตู และมีส่วนสำคัญในการยกระดับเกมรุกของทีมขุนค้อนได้อย่างน่าประทับใจ
งานนี้ทำเอารุ่นพี่อย่าง ริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่เห็นดาวเตะรายนี้มาแต่อ้อนแต่ออกถึงกับทึ่งและสดุดีเบาๆ ผ่านการทวีตด้วยอีโมจิไฟ 3 ตัวซ้อน พร้อมแท็กไปยังชื่อบัญชีของลินการ์ด
ขณะที่ แกรี ลินีเกอร์ ตำนานศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษ ก็ชื่นชมดาวเตะอารมณ์ดีรายนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งการได้เห็นดาวเตะรายนี้กลับมาเล่นได้ดีและมีรอยยิ้มบนใบหน้าอีกครั้งนั้นถือเป็นเรื่องที่ช่วยทำให้คนในวงการฟุตบอลอังกฤษจำนวนมากมีรอยยิ้มตามไปด้วย
ลินการ์ดเป็นหนึ่งในนักเตะที่ถูกเปรียบเทียบว่าเป็นดาวรุ่งตลอดกาล เพราะแม้จะแจ้งเกิดกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาเป็นเวลานานแล้ว และเคยโดดเด่นเป็นสตาร์ลำดับต้นๆ ของทีมที่ได้รับการคาดหมายว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์เบอร์ใหญ่ของทีมและของวงการฟุตบอลอังกฤษ
โดยเฉพาะในฟุตบอลโลก 2018 ที่เขาเป็นหนึ่งในดาวเด่นของทีม และมีส่วนช่วยพาทีมชาติอังกฤษทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้
แต่ยิ่งเวลาผ่านไป ลินการ์ดก็ยิ่งติดอยู่ในกับดักชีวิตลูกหนัง ไม่สามารถจะก้าวมาเป็นนักฟุตบอลที่เติบโตเป็นลูกผู้ชายที่เข้มแข็งและสง่างามอย่างที่ควรจะเป็น
บุคลิกและนิสัยความขี้เล่นก็เป็นส่วนหนึ่ง เพราะลินการ์ดเป็นคนที่มีความเป็นเด็กในตัวค่อนข้างมาก บ่อยครั้งที่คลิปวิดีโอที่เขาอัดเล่นๆ กลายเป็นเรื่องดราม่าหรือถูกวิพากษ์วิจารณ์แทน
การแบ่งความสนใจไปกับการลงทุนในแบรนด์เสื้อผ้า JLINGZ เองก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ถูกวิพากษ์ และมันทำให้เขาเหมือนขาดอะไรบางอย่างที่สำคัญในการจะเป็นสตาร์ระดับแถวหน้าของวงการ
อย่างไรก็ดี เราเพิ่งจะรู้ได้ไม่นานว่าภายใต้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มนั้น ลินการ์ดเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ประสบปัญหาในเรื่องของจิตใจอย่างหนัก ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นจากเรื่องในสนาม แต่ผลกระทบของมันนำไปสู่ผลงานในสนามด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ปัญหาของลินการ์ดเกิดจากอาการป่วยของคุณแม่ที่ต้องเดินทางไปรับการรักษาตัวที่ลอนดอน ซึ่งลำพังการป่วยของแม่ก็เป็นเรื่องที่หนักหนาต่อหัวใจอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เขาต้องเผชิญคือการรับภาระหน้าที่ในการช่วยดูแลน้องชายและน้องสาว ไม่นับลูกสาวของตัวเอง
สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นกระทบต่อตัวเขาอย่างมาก และแม้ว่าจะพยายามเก็บมันไว้มากแค่ไหน แต่สุดท้ายแล้วลินการ์ดไม่สามารถจะทนเก็บเอาไว้ไหว
ในวันหนึ่งจึงได้ตัดสินใจที่จะเปิดเผยสิ่งที่เกิดขึ้นต่อ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีม ที่ไม่รู้ปัญหานี้มาก่อน และพยายามกระตุ้นให้เขาทำผลงานให้ดีขึ้นในการซ้อมและในการเล่นจริง ซึ่งเมื่อทราบปัญหาแล้วต่างก็เข้าใจกันและกัน
“ปกติแล้วผมเป็นคนที่ค่อนข้างสดใสและพยายามจะทำให้ทุกคนมีรอยยิ้ม แต่ก็มีคนเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวของผม” ลินการ์ดเผยความรู้สึกลึกๆ ในใจ
“ผมรู้สึกดาวน์ วิตกกังวล ผมรู้สึกว่าทุกคนพยายามโยนทุกอย่างมาให้ผม และมันเป็นภาระที่หนักหนา เหมือนกับผมโดนทิ้งให้ต้องจัดการทุกอย่างเอง
“แม่ของผมมีอาการป่วยมาหลายปี แต่ไม่เคยต้องการความช่วยเหลือ แต่ตอนนี้เธอต้องการความช่วยเหลือ ดังนั้นผมจึงต้องดูแลน้องชายและน้องสาวของผม พวกเขาอยู่กับผมในตอนนี้ การต้องเห็นคนที่เรารักเจ็บป่วยเป็นเรื่องที่ทำใจลำบาก แต่ผมก็ต้องไปทำงานและพยายามทำหน้าที่ในส่วนของผม”
ผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้ลินการ์ดหายหน้าไปจากทีม และกลายเป็นคนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ในขณะที่ทีมปีศาจแดงกำลังเร่งฝีเท้าไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วด้วยขุนพลนักเตะอย่าง บรูโน แฟร์นันด์ส, พอล ป็อกบา, มาร์คัส แรชฟอร์ด, สกอตต์ แมคโทมิเนย์ รวมถึงบทบาทของเขาเองก็ถูกน้องใหม่อย่าง เมสัน กรีนวูด ช่วงชิงตำแหน่งไปเป็นที่เรียบร้อย
ด้วยผลงานของทีมที่ลงตัว ทำให้ลินการ์ดรู้ตัวว่าหากปล่อยไปแบบนี้ไม่ใช่แค่เขาจะหมดอนาคตกับทีม แต่อนาคตในการเล่นของเขาจะลำบากไปด้วย
การย้ายออกจากทีมในช่วงตลาดการซื้อขายนักฟุตบอลรอบปีใหม่ที่ผ่านมาจึงเป็นโอกาสที่เขาต้องคว้าเอาไว้ให้ได้ เพื่อที่จะกลับมาเป็นคนเก่าอีกครั้ง
โชคดีที่การเริ่มต้นครั้งใหม่ของเขากับเวสต์แฮมสวยงามเหมือนกับความฝัน ไม่เพียงแต่จะได้รับโอกาสในการลงสนามเต็มที่จาก เดวิด มอยส์ เจ้านายเก่า เขายังเข้ากับเพื่อนร่วมทีมใหม่ได้อย่างรวดเร็ว สไตล์การเล่นของเวสต์แฮมเข้ากับตัวเขาได้อย่างพอดี และตัวของเขาเองก็อยู่ในสภาพร่างกายที่พีกที่สุด อยู่ในวัย 28 ปีที่เป็นช่วงที่นักฟุตบอลจะเล่นได้ดีที่สุดในชีวิต
ที่สำคัญคือหัวใจเต็มไปด้วยไฟร้อนแรงที่อยากจะพิสูจน์ตัวเองให้เห็นอีกครั้ง
ความสุขที่เคยหายไปก็ค่อยๆ กลับมา รอยยิ้มที่สดใสของลินการ์ดคนเดิมกลับมาอีกครั้ง หลังจากนี้คือการรักษาฟอร์มการเล่นให้สม่ำเสมอ และเก็บเกี่ยวช่วงเวลาดีๆ ให้มากที่สุด
“ทุกอย่างยอดเยี่ยมมาก ทุกคนช่วยผมมาก ทำให้ผมปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ผมลงเล่นทุกนัดด้วยรอยยิ้มและกลับมาสนุกกับการเล่นฟุตบอล และนี่คือเรื่องที่สำคัญที่สุด” ลินการ์ดกล่าวหลังจบเกมนัดล่าสุดที่เอาชนะสเปอร์สของ โชเซ มูรินโญ ได้
สิ่งที่ดีที่สุดที่ทุกคนเรียนรู้ได้ในการกลับมาค้นพบฟอร์มและความสุขในการเล่นอีกครั้งของลินการ์ดคือ การตัดสินใจที่จะลองค้นหา ‘ที่ทาง’ ของตัวเองใหม่ ไม่ยอมที่จะจมอยู่กับจุดที่ทำให้รู้สึกเป็นทุกข์หรือรู้สึกไม่โอเคอีกต่อไป ต่อให้จะเป็นสถานที่ที่รักและผูกพันมากแค่ไหนก็ตาม
เพราะเราทุกคนมีคุณค่าในตัวเองเสมอ และหากไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา จะรู้ว่าบนโลกใบนี้จะมีคนที่เชื่อในตัวเรา และที่ที่เป็นที่ของเราอย่างแน่นอน
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
- https://www.thetimes.co.uk/article/lingard-reborn-by-west-ham-move-29ddw8vwh
- https://www.manchestereveningnews.co.uk/sport/football/football-news/ferdinand-jesse-lingard-manchester-united-19883683
- https://www.sports-nova.com/2020/08/04/jesse-lingard-reveals-how-he-fought-with-his-mental-health-issues-advises-to-follow-his-step/
- https://www.mirror.co.uk/sport/football/news/jesse-lingard-details-heartbreaking-family-21094143
- https://www.thetimes.co.uk/article/jesse-lingard-stars-again-as-david-moyes-beats-jose-mourinho-at-last-nn5jzp0ck