สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กลับมาทวีความรุนแรงในหลายประเทศ ส่งผลให้การจัดงานเฉลิมฉลองต้อนรับปีใหม่ 2021 เป็นไปอย่างเงียบเหงากว่าที่เคย จากมาตรการคุมเข้มป้องกันการแพร่ระบาดด้วยการห้ามประชาชนรวมกลุ่มและเน้นรักษาระยะห่าง บรรยากาศในแต่ละประเทศเป็นอย่างไร THE STANDARD รวบรวมมาให้ดูกัน
เอเชีย-แปซิฟิก
นครซิดนีย์ของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่เริ่มต้นนับถอยหลังการฉลองต้อนรับปี 2021 ปีนี้บรรยากาศกลับเงียบเหงาลงถนัดตา เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงมากขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งแม้จะยังมีการจัดแสดงดอกไม้ไฟอย่างยิ่งใหญ่เหนือฮาร์เบอร์บริดจ์ แต่ทางการไม่อนุญาตให้มีการรวมกลุ่มของประชาชนเพื่อชมดอกไม้ไฟ และใช้การถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์ให้ประชาชนรับชมจากที่บ้านแทน
ส่วนที่ฮ่องกง ปีนี้การท่องเที่ยวฮ่องกงเปลี่ยนรูปแบบจัดฉลองเคานต์ดาวน์ปีใหม่แบบเสมือนผ่านทางออนไลน์เป็นครั้งแรก หลังยกเลิกการแสดงดอกไม้ไฟเหนืออ่าววิกตอเรีย โดยมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอแสดงดอกไม้ไฟพร้อมแสง สี เสียง ความยาว 2 นาที นำเสนอภาพสัญลักษณ์ของเกาะฮ่องกง และส่งข้อความทักทายและอวยพรปีใหม่ไปยังทั่วโลก
ที่จีน ปีนี้ยกเลิกการแสดงแสง สี เสียง ในกรุงปักกิ่ง หลังพบกรณีระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ขณะที่หลายเมืองลดขนาดการจัดงานฉลองปีใหม่ แต่ที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ที่เป็นต้นตอการระบาดของโรคโควิด-19 กลับมีการจัดงานเคานต์ดาวน์ โดยอนุญาตให้ประชาชนไปร่วมงานได้ ทำให้ปรากฏภาพความแออัดของผู้คนนับพัน ซึ่งพากันไปร่วมปล่อยลูกโป่งขึ้นสู่ท้องฟ้า เนื่องจากทางการงดการจุดดอกไม้ไฟฉลอง
ขณะที่ญี่ปุ่น สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะและสมาชิกราชวงศ์ยกเลิกการออกมหาสมาคมทักทายพสกนิกรในวันปีใหม่ โดยบรรยากาศก่อนเคานต์ดาวน์ มีประชาชนจำนวนมากไปร่วมสวดขอพรที่วัดเซ็นโซจิหรือวัดอาซากุสะในกรุงโตเกียว ซึ่งมีการลั่นระฆังต้อนรับปีใหม่ เช่นเดียวกับศาลเจ้าเมจิ ซึ่งมีประชาชนไปร่วมต่อแถวสวดขอพรในวันปีใหม่กันเป็นจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องจัดแถว คุมเข้มมาตรการรักษาระยะห่าง
ในเกาหลีใต้ ปีนี้บรรยากาศที่กรุงโซลค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากทางการสั่งยกเลิกงานฉลองและคุมเข้มมาตรการป้องกันการระบาดของโควิด-19 หลังมีผู้ติดเชื้อเกิน 1,000 คนต่อวันต่อเนื่องกันหลายวันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตรงข้ามกับเกาหลีเหนือที่ยังคงมีการจัดงานฉลองต้อนรับปีใหม่ที่จัตุรัสคิมอิลซุงในกรุงเปียงยาง โดยมีประชาชนเข้าร่วมหลายพันคน ก่อนที่จะมีการแสดงดอกไม้ไฟอย่างยิ่งใหญ่
ยุโรป
ทางฝั่งยุโรป หลายประเทศสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กลับมารุนแรงอีกครั้ง จนทำให้ทางการต้องสั่งห้ามการรวมตัวของประชาชนอย่างเข้มงวด
ที่เยอรมนี ซึ่งยังอยู่ระหว่างการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ มีการจัดแสดงดอกไม้ไฟฉลองปีใหม่อย่างยิ่งใหญ่ที่ประตูชัยแบรนเดนเบิร์กในกรุงเบอร์ลิน แต่ห้ามประชาชนเข้าชม
ส่วนในอิตาลี ทางการบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิว ห้ามออกจากบ้านตั้งแต่เวลา 22.00-07.00 น. และสั่งปิดร้านค้า/ร้านอาหารส่วนใหญ่ ทำให้บรรยากาศการเฉลิมฉลองปีใหม่เงียบเหงา ไร้ผู้คนบนถนนหลังเวลา 22.00 น. ส่วนสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ซึ่งปกติจะทรงนำประกอบพิธีมิสซาในวันปีใหม่ แต่ปีนี้พระองค์เกิดอาการปวดหลังและขา ทำให้ต้องยกเลิก เหลือเพียงประกอบพิธีสวดตามประเพณีในห้องสมุด Apostolic ของนครวาติกัน
ด้านอังกฤษ ซึ่งกำลังพบการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ปีนี้งดการจัดแสดงดอกไม้ไฟที่ชิงช้าสวรรค์ London Eye แต่ยังมีประชาชนบางส่วนออกมาชื่นชมไฟประดับ ขณะที่ทางการคุมเข้มลาดตระเวน ป้องกันการรวมกลุ่มของประชาชน
สหรัฐอเมริกา
สำหรับในสหรัฐฯ ยังมีการจัดงานเคานต์ดาวน์ฉลองปีใหม่ที่จัตุรัสไทม์สแควร์ ซึ่งรวมถึงการปล่อยบอลคริสตัลและการแสดงของศิลปินนักร้องดัง แต่ปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นการถ่ายทอดสดผ่านทางออนไลน์และโทรทัศน์ โดยอนุญาตให้เฉพาะบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการฉุกเฉิน พร้อมครอบครัว รวมทั้งแขก VIP ที่ได้รับเชิญเข้าชมงาน
บราซิล
ที่นครริโอ เด จาเนโร ของบราซิล ซึ่งปกติจะมีการจัดงานฉลองเคานต์ดาวน์ปีใหม่อย่างยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะที่ชายหาดโคปาคาบานา ซึ่งปีที่ผ่านมามีประชาชนจากทั่วโลกไปร่วมชมดอกไม้ไฟฉลองปีใหม่มากกว่า 2 ล้านคน แต่ปรากฏว่าปีนี้ทางการยกเลิกการจัดงานเฉลิมฉลองและปิดระบบรถไฟใต้ดินเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรง มีผู้ติดเชื้อวันละหลายหมื่นคน ทำให้บรรยากาศชายหาดมีผู้คนออกไปร่วมฉลองและจุดดอกไม้ไฟต้อนรับปีใหม่กันเองเพียงไม่กี่ร้อยคน
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
