เกิดอะไรขึ้น:
SCBS ได้ทำพรีวิวผลประกอบการไตรมาสของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย 7 บริษัทภายใต้การวิเคราะห์ของ SCBS ซึ่งประกอบด้วย บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) (AP), บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH), บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN), บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง (PSH), บมจ.ควอลิตี้ เฮ้าส์ (QH), บมจ.แสนสิริ (SIRI), และ บมจ.ศุภาลัย (SPALI)
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (SETPROP) ปรับตัวลง 7.4%MoM เทียบกับ SET Index ที่ปรับตัวลง 3.4%MoM (ข้อมูล ณ 30 ตุลาคม 2563)
มุมมองระยะสั้น:
ในภาพรวม SCBS คาดว่าแนวโน้มกำไรสุทธิ 3Q63 ของกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยจะฟื้นตัว 38%QoQ จากจุดต่ำสุดใน 2Q63 แต่ลดลงเล็กน้อย 5.6%YoY โดยกำไรสุทธิ 3Q63 ที่ฟื้นตัว QoQ ได้แรงหนุนจากการโอน Backlog ของคอนโดมิเนียมที่ดีขึ้น และยอดขายในโครงการแนวราบที่แข็งแกร่ง รวมถึงการคุมค่าใช้จ่าย SG&A ที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น โดย SCBS ได้สรุปประมาณการกำไรสุทธิ 3Q63 ไว้ดังนี้
กลุ่มที่มีกำไรสุทธิ 3Q63 เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ:
AP: SCBS คาดกำไรสุทธิ 3Q63 จะทำสถิติสูงสุดที่ 1.37 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 128%YoY และเพิ่มขึ้น 13%QoQ โดยได้ปัจจัยหนุนจากรายได้ที่เติบโตแข็งแกร่ง 44%YoY และ 9%QoQ สู่ระดับ 8.5 พันล้านบาท รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นจากจุดต่ำสุดสู่ระดับ 31.5% นอกจากนี้ยังมีส่วนแบ่งรายได้ที่แข็งแกร่งจากกิจการร่วมค้าในโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ Life อโศก-พระราม 9
SIRI: SCBS คาดกำไรสุทธิ 3Q63 จะเติบโต 18%YoY และ 105%QoQ สู่ระดับ 539 ล้านบาท จากยอดขายและยอดโอน Backlog ที่แข็งแกร่งจำนวนมาก โดย SCBS คาดว่า SIRI จะมีรายได้ 3Q63 ที่ 9.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 86%YoY แต่ลดลง 11%QoQ รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นจากจุดต่ำสุดใน 2Q63 สู่ระดับ 27%
กลุ่มที่มีกำไรสุทธิ 3Q63 ลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ:
LH: SCBS คาดกำไรสุทธิ 3Q63 ที่ 1.5 พันล้านบาท ลดลง 31%YoY แต่เพิ่มขึ้น 8%QoQ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการควบคุมต้นทุน SG&A ที่ดีขึ้น QoQ และส่วนแบ่งรายได้ที่ดีขึ้นจากบริษัทในเครือเช่น HMPRO และ QH
PSH: SCBS คาดกำไรสุทธิ 3Q63 ที่ 640 ล้านบาท ลดลง 31%YoY แต่เพิ่มขึ้น 50%QoQ โดยกำไรสุทธิที่ปรับตัวดีขึ้น QoQ มาจากการโอนกรรมสิทธิ์ในโครงการทาวเฮาส์และการสร้างคอนโดมิเนียมใหม่เสร็จ รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวดีขึ้น QoQ สู่ระดับ 32.5%
QH: SCBS คาดกำไรสุทธิ 3Q63 ที่ 588 พันล้านบาท ลดลง 18%YoY แต่เพิ่มขึ้น 27%QoQ โดยกำไรสุทธิที่ปรับตัวดีขึ้น QoQ มาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้นจากการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียม Q Sukhumvit ซึ่งเป็นโครงการที่มีมาร์จิ้นสูงที่ 35% และยังมีส่วนแบ่งกำไรจาก LHFG และ HMPRO ที่ดีขึ้น
SPALI: SCBS คาดกำไรสุทธิ 3Q63 ที่ระดับ 1.2 พันล้านบาท ลดลง 5%YoY แต่เพิ่มขึ้น 187%QoQ โดยกำไรที่เติบโต QoQ มาจาการรายได้ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง 108%QoQ สู่ระดับ 6.2 พันล้านบาท ซึ่งมากโครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการใหญ่ได้แก่ ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแยกฉาย และ ศุภาลัย ปาร์ค ตลาดพลู รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นที่ฟื้นตัวดีขึ้น QoQ สู่ระดับ 37.6% จากการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนรายได้ของโครงการที่มีมาร์จิ้นสูง
กลุ่มที่กำไรสุทธิ 3Q63 ลดลงทั้ง YoY และ QoQ:
LPN: SCBS คาดกำไรสุทธิ 3Q63 ที่ 111 ล้านบาท ลดลง 4%YoY และลดลง 28%QoQ โดยกำไรที่อ่อนแอเกิดจากการไม่มีคอนโดมิเนียมใหม่ที่โอนใน 3Q63 และอัตรากำไรขั้นต้นลดลง รวมถึงค่าใช้จ่าย SG&A จะสูงขึ้นจากการจัดโปรโมชันราคา
มุมมองระยะยาว:
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการ 4Q63 ของกลุ่มบริษัทอสังหาฯ เพื่อที่อยู่อาศัย SCBS คาดว่าจะฟื้นตัว 15%QoQ แต่ยังลดลง 39%YoY โดยกำไรสุทธิ 4Q63 ที่ดีขึ้น QoQ มาจากการเร่งโอน Backlog ในช่วงที่เหลือของปีนี้ และการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายทีมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ยังคงต้องติดตามมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์จากทางภาครัฐบาลในการกระตุ้นความต้องการซื้อจากทั้งคนไทยและต่างชาติที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและต้องการซื้อเพื่อลงทุน นอกจากนี้ SCBS คาดว่ามีโอกาสน้อยที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะผ่อนปรนเกณฑ์ LTV เนื่องจากความไม่แน่นอนทางด้านเครดิตของผู้ซื้อ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า