วันนี้ (29 ตุลาคม) เกิดเหตุก่อการร้ายในโบสถ์ใจกลางเมืองนีซ ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 ราย เป็นผู้สูงอายุ 2 ราย ที่ถูกฆ่าปาดคอขณะอยู่ภายในโบสถ์ ขณะที่ผู้เสียชีวิตอีกรายที่ถูกมีดแทง ซึ่งหลบหนีมายังคาเฟ่ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา คาดเกี่ยวพันกับมุสลิมหัวรุนแรง
เบื้องต้นนายกเทศมนตรีเปิดเผยว่าผู้ต้องสงสัยถูกยิง ก่อนจะถูกตำรวจควบคุมตัวไว้ นับเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ฆ่าปาดคอคุณครูซามูเอล ปาตี ในเมืองกงฟล็องส์-แซงโตโนรีน ชานกรุงปารีส เมื่อช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
คริสเตียน เอสโตรซี นายกเทศมนตรีเมืองนีซเผยว่า ผู้ต้องสงสัยอาจมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่ม ‘อิสลามโมฟาสซิสม์’ โดยในระหว่างก่อเหตุเขาตะโกนหลายครั้งว่า ‘Allahu Akbar’ (ซึ่งแปลว่าพระเจ้านั้นยิ่งใหญ่)
หลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญ ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงปารีส เผยว่า เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้ออกเดินทางไปยังเมืองนีซแล้ว หลังเสร็จสิ้นการประชุมรับมือวิกฤตกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศส
ขณะที่ผู้นำโลกคนอื่นๆ ได้ร่วมประณามเหตุโจมตีดังกล่าว โดย เปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรีสเปน ทวีตข้อความแสดงความเสียใจต่อการสูญเสีย พร้อมระบุว่าเวลานี้ “เราจะสามัคคีกันเผชิญหน้ากับความหวาดกลัวและความเกลียดชัง”
ขณะที่ เดวิด ซัสโซลี ประธานรัฐสภายุโรป ระบุในทวิตเตอร์ว่า เขารู้สึกช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และกล่าวว่าชาวยุโรปต่างสะเทือนใจและรู้สึกเจ็บปวดกับเหตุที่เกิดขึ้นนี้”
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์