วันนี้ (19 ตุลาคม) พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการติดตามเฝ้าระวังการสื่อสารผ่านทางโซเชียลมีเดียว่ามีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร โดยหากมีเนื้อหาที่ผิดกฎหมายก็จะถูกดำเนินคดี เนื่องจากขณะนี้มีการประกาศและบังคับใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง
พุทธิพงษ์ยอมรับว่า ตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมามีการพยายามใช้โซเชียลมีเดียในการสื่อสารหลากหลายรูปแบบ โดยในวันนี้ เวลา 11.00 น. ได้มอบหมายให้รองปลัดกระทรวงฯ แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ใช้โซเชียลมีเดียไปในทางที่ผิดกฎหมาย ราว 300,000 URL ซึ่งรวมไปถึงสำนักข่าวหรือเพจข่าวที่มีเนื้อหาเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย ส่วนจะแค่สั่งปิดหรือเป็นการแจ้งเตือนต้องดูในรายละเอียดอีกครั้ง แต่หากมีคำสั่งศาลจำเป็นต้องสั่งปิด โดยหากเป็นทีวีดิจิทัลต้องมีการประสานไปยัง กสทช. ซึ่งการดำเนินคดีจะต้องดูในข้อกฎหมายว่าเข้าข่ายกระทำความผิดอย่างไร ฉบับใดบ้าง ซึ่งยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวังและรอบคอบไม่ได้เลือกปฏิบัติกับใคร ยืนยันดำเนินการภายใต้กรอบไม่ได้ปิดกั้นสิทธิ์ของประชาชน พร้อมฝากเตือนไปยังประชาชนให้ระมัดระวังการใช้โซเชียลมีเดียไม่ให้มีเนื้อหายุยงปลุกปั่นและบิดเบือนข้อมูล
ทั้งนี้ยอมรับว่าคำสั่งที่ลงนามโดย พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรณีห้ามเผยแพร่ข้อมูลที่เข้าข่ายยุยงปลุกปั่นในโซเชียลมีเดียบางฉบับเป็นเอกสารจริง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
เมื่อถามว่ามีอีกมุมหนึ่งมีการมองว่ารัฐบาลใช้กฎหมายไปปิดกั้น พุทธิพงษ์กล่าวว่า “เราระมัดระวังอยู่แล้ว เราดูว่าอะไรที่จะดำเนินคดีได้ ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะไปดำเนินคดีทุกคน ถ้าไม่ได้เข้าข่ายกฎหมายหรือมีความผิดชัดเจนในเรื่องการใช้คำพูดหรือการยุยงเราก็ไม่ดำเนินคดี ตนคิดว่าเรารอบคอบและระมัดระวังมาก ยืนยันว่าไม่ได้ไปละเมิดสิทธิ์ใครแน่นอน ซึ่งในบางกรณีไม่เข้าข่ายผิดกฎหมายเราก็ยังติดตามดูอยู่ กรณีห้ามเผยแพร่ข้อมูลที่เข้าข่ายยุยงปลุกปั่นในโซเชียลมีเดียบางฉบับเป็นเอกสารจริงแต่ไม่ใช่ทั้งหมด”
ส่วนกรณีที่ ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาเรียกประชุมฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาลเพื่อหาทางออกร่วมกันในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองขณะนี้ว่าจะมีการขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญหรือไม่ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของสภา และในวันนี้ วิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาลก็จะเดินทางเข้าร่วมประชุมด้วย ส่วนผลการหารือจะเป็นอย่างไรนั้นจะนำกลับมาพูดคุยภายในพรรคพลังประชารัฐอีกครั้งว่าจะตัดสินใจอย่างไร
โดยในส่วนของพรรคพลังประชารัฐยังไม่ได้มีการหารือเรื่องการเปิดประชุมสมัยวิสามัญแต่อย่างใด
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า