ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สร้างความประหลาดใจด้วยการนั่งรถออกจากโรงพยาบาลเพื่อทักทายกลุ่มผู้สนับสนุนที่มาให้กำลังใจทรัมป์นอกศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติวอลเตอร์ รีด เมื่อวานนี้ (4 ตุลาคม) หลังทรัมป์เข้ารักษาตัวจากโควิด-19 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทรัมป์สวมหน้ากากนั่งอยู่ในรถ SUV และโบกมือให้ประชาชนขณะแล่นผ่าน โดยก่อนหน้านั้นเขาทวีตข้อความในทวิตเตอร์ว่า เขาจะออกมาเยี่ยมประชาชนแบบเซอร์ไพรส์
ทีมแพทย์ยืนยันว่าทรัมป์มีอาการดีขึ้น และอาจจะออกจากโรงพยาบาลได้อย่างเร็วที่สุดภายในวันจันทร์นี้ (5 ตุลาคม) โดยก่อนหน้านี้ ดร.ฌอน คอนลีย์ แพทย์ประจำทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ระดับออกซิเจนของทรัมป์ลดลง 2 ครั้งนับตั้งแต่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัส และเริ่มใช้สเตียรอยด์ชื่อเดกซาเมทาโซนช่วยรักษา
การออกมาพบปะกลุ่มผู้สนับสนุนครั้งนี้เป็นความพยายามที่จะแสดงความเข้มแข็งและสร้างความเชื่อมั่น อย่างไรก็ตามแพทย์บางคนมองในมุมกลับว่า การกระทำดังกล่าวอาจเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่าทรัมป์ยังไม่เข้าใจถึงความร้ายแรงของโรคติดเชื้อดังกล่าว
ดร.เจมส์ ฟิลิปส์ หนึ่งในแพทย์ที่ทำงานในโรงพยาบาลทหารวอลเตอร์ รีด วิจารณ์ทรัมป์ผ่านทวิตเตอร์ว่า ทุกคนที่อยู่ในรถร่วมกับทรัมป์ต่างตกอยู่ในความเสี่ยงติดเชื้อโดยไม่จำเป็น พวกเขาอาจป่วยและต้องแยกกักตัวเป็นเวลา 14 วัน
“รถ SUV ของประธานาธิบดีไม่ได้กันเพียงกระสุนเท่านั้น แต่ยังผนึกอย่างแน่นหนาเพื่อป้องกันการโจมตีจากอาวุธเคมีด้วย ความเสี่ยงแพร่เชื้อโควิด-19 ภายในรถนั้นสูงพอๆ กับที่ได้รับเชื้อนอกกระบวนการทางการแพทย์ ความไม่รับผิดชอบนี้เป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก” ฟิลิปส์ระบุในทวิตเตอร์
แต่กระนั้นทรัมป์ระบุในวิดีโอที่โพสต์ในทวิตเตอร์ว่า เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับโควิด-19 มากมายหลังจากที่ติดเชื้อครั้งนี้
“ผมเรียนรู้มากมายเกี่ยวกับโควิด-19 ผมเรียนรู้มันจากการไปโรงเรียนจริงๆ นี่คือโรงเรียนที่แท้จริง นี่ไม่ใช่แค่การให้อ่านหนังสือของโรงเรียน ผมรู้และเข้าใจมันแล้ว มันเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก และผมจะให้คุณได้รู้เกี่ยวกับมัน” ทรัมป์ กล่าว
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
