เนย์มาร์ กับการลุกขึ้นสู้กับพวกเหยียดสีผิวในเกม ‘Le Classique’ ที่สุดแสนอัปยศ

ความจริงแล้วมันควรเป็นโอกาสดีที่เนย์มาร์ จะได้เริ่มต้นบทบาทใหม่ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ PUMA กับรองเท้ารุ่นคลาสสิกระดับตำนาน PUMA King ให้สมฐานะความเป็นสุดยอดนักเตะระดับราชาของเขา

แต่สุดยอดเกมแห่งวงการลูกหนังฝรั่งเศสอย่าง ‘Le Classique’ ที่สนามพาร์กเดส์แพร็งส์ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมากลับจบลงด้วยความอัปยศ เมื่อเกิดการตะลุมบอนกันระหว่างผู้เล่นของปารีส แซงต์ แชร์กแมง แชมป์เก่าและเจ้าบ้าน กับทีมเยือน โอลิมปิก มาร์กเซย

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีการแจกใบแดงมากถึง 5 ใบ! และตลอดทั้งเกมยังมีใบเหลืองอีก 12 ใบด้วยกัน

เกิดอะไรขึ้นในเกมนี้?

ด้วยความที่เปแอสเช และมาร์กเซย ต่างเป็นคู่แค้นกันมายาวนานไม่ต่างอะไรจากลิเวอร์พูลกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือบาร์เซโลนากับเรอัล มาดริด ทำให้อุณหภูมิของเกมในสนามไม่ว่าจะพบกันที่ไหน เมื่อไร จะสูงกว่าเกมฟุตบอลปกติอยู่แล้ว

ที่สำคัญคือเกมนี้

และเมื่อรวมกับสถานการณ์ที่เปแอสเช ในฐานะเจ้าบ้านดูอ่อนกำลังลงจากการที่ขาดผู้เล่นในทีมหลายรายที่ต้องกักตัวหลังถูกตรวจพบโควิด-19 ซึ่งรวมถึง คีเลียน เอ็มบัปเป ดาวยิงซูเปอร์สตาร์ทีมชาติฝรั่งเศสด้วย ซึ่งเกมแรกที่ลงสนามในฤดูกาลใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พวกเขาก็ถูกล็องส์เอาชนะได้ 1-0

นั่นทำให้ ‘โอแอ็ม’ ที่ไม่ชนะคู่แค้นเลยตลอด 9 ปีที่ผ่านมามีแรงกระตุ้นพิเศษในการจะคิดบัญชีแค้นที่สั่งสมมาอย่างยาวนานให้ได้

อารมณ์ที่ร้อนของผู้เล่นทั้งสองทีมทำให้เกมในสนามเต็มไปด้วยความตึงเครียด ตลอดทั้งเกมมีจังหวะปะทะที่เกือบจุดให้เกิดการปะทุของปัญหามากมาย โดยรวมถึงภาพการเผชิญหน้ากันระหว่างเนย์มาร์ และ ดิมิทรี ปาเยต จอมทัพทีมเยือนด้วย

ขณะที่เกมในสนามโอแอ็ม ซึ่งได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจาก ฟลอริย็อง โตแว็ง ตั้งแต่ครึ่งแรกก็รักษาสกอร์เอาไว้อย่างเหนียวแน่น และทำให้เจ้าบ้านขุ่นมัวขึ้นทุกที ก่อนที่ภูเขาไฟในหัวของเปแอสเชจะระเบิดในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เมื่อเกิดเหตุตะลุมบอนขึ้นกลางสนาม

สองนักเตะเจ้าบ้านคือ เลอันโดร ปาเรเดส และ เลย์แว็ง คูร์ซาวา และอีกสองของทีมเยือนอย่าง จอร์แดน อมาวี และ ดาริโอ เบเนเดตโต ถูกไล่ออกจากสนาม ก่อนที่ผู้ตัดสินจะไปเช็กภาพเหตุการณ์และให้ใบแดง โดยไล่เนย์มาร์ออกจากสนามด้วย หลังพบว่าดาวเตะวัย 28 ปีสาวหมัดใส่คู่แข่ง

อย่างไรก็ดี เหตุการณ์อัปยศในสนามดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องเล็กลงไปทันทีเมื่อเทียบกับการที่เนย์มาร์ได้ออกมาทวีตข้อความว่า “สิ่งเดียวที่ผมเสียใจก็คือการที่ผมไม่ได้ตะบันหน้าไอ้บ้านั่นสักหมัด”

VAR pegar a minha “agressão” é mole … agora eu quero ver pegar a imagem do racista me chamando de “MONO HIJO DE PUTA” (macaco filha da puta)… isso eu quero ver!
E aí? CARRETILHA vc me pune.. CASCUDO sou expulso… e eles? E aí ?

— Neymar Jr (@neymarjr) September 13, 2020

เนย์มาร์ ทวีตข้อความโจมตี อัลวาโร กอนซาเลซ

โดยคู่กรณีของเขาคือ อัลวาโร กอนซาเลซ ปราการหลังมาร์กเซยที่ดูมีความคาใจกันมาตลอดทั้งเกม

“มันเป็นการง่ายที่ VAR จะแสดงให้เห็นถึงความก้าวร้าวของผม แต่ตอนนี้ผมอยากให้พวกเขาแสดงภาพของไอ้คนเหยียดผิวใส่ผมบ้าง ผมอยากให้มีบ้างได้ไหม”

ย้อนกลับไปในสนามในช่วงเวลาของความวุ่นวาย เนย์มาร์ได้พยายามที่จะบอกกับผู้ตัดสินแล้วว่าเขาถูกเหยียดผิว แต่ผู้ตัดสินไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้น ทำให้สุดท้ายดาวเตะชาวบราซิลต้องเดินออกจากสนามอย่างผิดหวัง

เรื่องนี้ทางด้าน โธมัส ทูเคิล นายใหญ่เปแอสเชเผยว่า ได้รับการแจ้งจากเนย์มาร์ว่ามีการเหยียดผิวจริง แต่ไม่ได้ยินกับหู ขณะที่ อังเดร วิลลาส โบอาส กุนซือมาร์กเซยไม่คิดว่าจะมีการเหยียดผิวจากลูกทีมแต่อย่างใด

“ไม่มีที่สำหรับคนเหยียดผิวในเกมฟุตบอล แต่ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องนี้ เราคงต้องดูกันอีกที”

ด้านคู่กรณีอย่างกอนซาเลซ ตอบโต้เนย์มาร์อย่างเจ็บแสบเช่นกันด้วยการทวีตว่า “เหยียดผิวอะไร?” พร้อมกับภาพที่ถ่ายรูปหมู่กับเพื่อนร่วมทีมที่เป็นคนผิวดำทั้งหมด

ก่อนจะทิ้งท้ายว่า “บางทีนายก็ต้องหัดเรียนรู้ที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ในสนามบ้าง”

ในเรื่องการเหยียดผิวนี้เป็นสิ่งที่จะต้องมีการตรวจสอบกันอย่างจริงจังอีกครั้ง โดยเฉพาะการหาหลักฐานและพยานที่จะยืนยันว่ากอนซาเลซ กระทำในสิ่งที่ไม่น่าให้อภัยจริงๆ

ส่วนในโลกออนไลน์ แฟนๆ เนย์มาร์และแฟนฟุตบอลที่เกลียดชังการเหยียดผิวได้ออกมาแซ่ซ้องในการกระทำของเนย์มาร์ ที่แม้จะเป็นการใช้ความรุนแรงและดูเกินกว่าเหตุที่นักกีฬาดีๆ พึงกระทำ แต่ในการต่อสู้กับการเหยียดผิวบางครั้งก็ต้องการ ‘แอ็กชัน’ ที่จริงจังมากกว่าที่ผ่านมา

เปแอสเชอาจจะแพ้ เนย์มาร์โดนใบแดง แต่อย่างน้อยถ้าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง เกมนัดนี้จะได้รับการจดจำอีกแบบในฐานะเกมแห่งการยืนหยัดเพื่อต่อสู้กับเรื่องการเหยียดสีผิวที่เป็นปัญหาของโลกฟุตบอลและโลกใบนี้

เนย์มาร์ กับ ดิมิทรี ปาเยต ที่งัดกันตั้งแต่ต้นเกม

สรุปเหตุการณ์ใบเหลือง-ใบแดงในเกม Le Classique

07’ 🟨 ซากาอิ

11’ 🟨 เนย์มาร์

11’ 🟨 ปาเยต

13’ 🟨 ฟลอเรนซี

38’ 🟨 ปาปา เกย์

50’ 🟨 กอนซาเลซ

52’ 🟨 เบอร์นาร์ต

61’ 🟨 โลเปซ

71’ 🟨 เบเนเดตโต

72’ 🟨 ปาเรเดส

74’ 🟨 ดิ มาเรีย

91’ 🟨 สตรูทแมน

ใบแดง

97’ 🟥 อมาวี

97’ 🟥 คูร์ซาวา

97’ 🟥 เบเนเดตโต

97’ 🟥 ปาเรเดส

99’ 🟥 เนย์มาร์

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

FYI

ในอดีต กอนซาโล อัลวาเรซ เคยถูกจับได้ว่าหยาม ลิโอเนล เมสซี ว่าเป็น ‘คนแคระ’ มาก่อน
ในเกมนี้มีแฟนบอลเข้ามาชมในสนาม 5,000 คน หลังฝรั่งเศสได้มีการผ่อนปรนมาตรการ
12 ใบเหลือง 5 ใบแดง เป็นสถิติสูงสุดที่ผู้ตัดสินลงโทษผู้เล่นในเกมลีกฝรั่งเศสสมัยใหม่
คู่ที่เปิดฉากการตะลุมบอนคือ คูร์ซาวา กับอวามี ที่ทั้งแลกหมัดทั้งถีบกันในสนาม
ครั้งสุดท้ายที่เปแอสเชแพ้ติดกัน 2 นัดในการเปิดฤดูกาลใหม่ของลีกเอิงต้องย้อนกลับไปในปี 1978