×

ความสูญเสีย การทุ่มเท พลัง และจุดเปลี่ยนของนักแสดงที่ชื่อ Jake Gyllenhaal

30.10.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins. Read
  • ภาพยนตร์เรื่องแรกที่เจค จิลเลนฮาล แสดงคือภาพยนตร์คอเมดี้เรื่อง City Slickers ของผู้กำกับ รอน อันเดอร์วูด ในปี 1991 ผลงานสร้างชื่อเรื่องต่อมาคือหนังไซไฟเรื่อง Donnie Darko ในปี 2001
  • ความน่าสนใจของเจคคือเขาเป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีมิติและท้าทายตัวเองอยู่ตลอดเวลา โดยไม่ได้กำหนดว่าต้องรับบทอะไรเพื่อคีปลุคตัวเอง
  • ผลงานเรื่อง Stronger (2017) เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่เจคหันมาผลิตภายใต้บริษัทของตัวเองที่ชื่อ Nine Stories เล่าเรื่องราวการวางระเบิดที่งานบอสตันมาราธอนในวันที่ 16 เมษายน 2013
  • นอกเหนือจากอาชีพนักแสดงแล้ว เจคเองก็ยังเป็นอีกคนที่คลุกคลีเรื่องการเมืองอยู่เป็นประจำ

เจค จิลเลนฮาล เป็นหนึ่งในนักแสดงฮอลลีวูดแถวหน้าที่มักมีภาพลักษณ์ว่าเป็นพระรองที่หลายคนชื่นชม ตั้งแต่การเป็นน้องชายของนักแสดงสาว แม็กกี้ จิลเลนฮาล การรับบทเป็นคู่รักของฮีธ เลดเจอร์ ในภาพยนตร์ Brokeback Mountain (2005) หรือการโดนเทย์เลอร์ สวิฟต์ เทเหมือนผู้ชายอีกหลายคน

     

ถึงจะมีชื่อเสียง แต่เจคเองก็แทบไม่มีหนังที่ได้รับบทหลักเป็นตัวดำเนินเรื่อง และประสบความสำเร็จทั้งด้านคำวิจารณ์และตัวเงินเหมือนอย่างที่แบรด พิตต์ หรือลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ทำได้ แต่กับหนังเรื่อง Stronger เราคิดว่าเจคกำลังจะก้าวสู่สมรภูมิการเป็นนักแสดงนำอย่างเต็มตัว และเขาจะเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมหนังฮอลลีวูดต่อไป

 

Donnie Darko (2001)

 

เจค จิลเลนฮาล หรือชื่อเต็มว่า เจค็อบ เบนจามิน จิลเลนฮาล เกิดเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 1980 ที่เมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ครอบครัวของเขาคลุกคลีอยู่ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ คุณแม่นาโอมิ โฟเนอร์ เป็นคนเขียนบทและโปรดิวเซอร์หนัง เช่น Running on Empty (1988) ที่ริเวอร์ ฟีนิกซ์ นำแสดง และเธอยังได้เข้าชิงออสการ์สาขา Best Original Screenplay จากเรื่องนี้อีกด้วย ส่วนคุณพ่อสตีเฟน จิลเลนฮาล ก็เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ทางทีวีและเคยกำกับซีรีส์สุดคลาสสิกอย่าง Twin Peaks อีกด้วย

     

แม้ว่าเจคจะเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะดี ไม่ต้องลำบาก และเต็มไปด้วยอิสระทางความคิด แต่เขาและพี่สาวก็ถูกสั่งสอนให้ติดดิน ช่วยเหลือคนอื่น และสร้างความสำเร็จด้วยมือของตัวเอง ซึ่งเจคเองก็เคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดช่วยเหลือคนจมน้ำ ผู้ช่วยในร้านอาหาร และยังเคยไปช่วยคนยากจนในสถานสงเคราะห์ตอนอายุ 13 ในช่วงที่พ่อแม่เขาอยากให้เรียนรู้ว่าความลำบากและไม่มีกินมีใช้เป็นอย่างไร

     

เพราะความเป็นศิลปินในสายเลือด เจคได้ตัดสินใจทำงานในอุตสาหกรรมบันเทิงในฐานะนักแสดง ซึ่งหนังเรื่องแรกที่เจคแสดงคือภาพยนตร์คอเมดี้เรื่อง City Slickers (1991) ของผู้กำกับ รอน อันเดอร์วูด และผลงานสร้างชื่อคือหนังไซไฟเรื่อง Donnie Darko (2001) ที่เขาได้รับบทนำร่วมกับพี่สาว แม็กกี้ จิลเลนฮาล และดรูว์ แบร์รีมอร์ ดาราสาวชื่อดังในยุคนั้น ถึงแม้หนังเรื่องนี้จะไม่ทำเงินที่บ็อกซ์ออฟฟิศ แต่ก็กวาดคำวิจารณ์แง่บวกและกลายเป็นหนังคัลต์สุดคลาสสิก

 

Brokeback Mountain (2005)

 

Nightcrawler (2014)

 

ปี 2005 นับเป็นอีกหนึ่งปีทองที่ยกระดับการเป็นนักแสดงของเจค เพราะเขาได้รับบท แจ็ค ทวิสต์ หนุ่มคาวบอยในหนังรักดราม่าเรื่อง Brokeback Mountain ของผู้กำกับ อั้งลี่ แสดงคู่กับฮีธ เลดเจอร์ ซึ่งหนังเรื่องนี้ได้ช่วยเปลี่ยนมุมมอง ทิศทาง และจุดยืนของหนังเกย์บนเวทีฮอลลีวูด โดยเจคเองก็ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นครั้งแรกในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (แต่แพ้ให้จอร์จ คลูนีย์ จากหนังเรื่อง Syriana) มากไปกว่านั้น ฮีธและเจคก็สนิทสนมกันมากจากหนังเรื่องนี้จนเจคได้เป็นพ่อทูนหัวของมาทิลดา เลดเจอร์ ลูกสาวของฮีธกับมิเชลล์ วิลเลียมส์ ซึ่งหลังการเสียชีวิตของฮีธจากการฆ่าตัวตายในปี 2008 เจคได้ออกมาพูดกับนิตยสาร People ว่า “สำหรับตัวผมเอง เหตุการณ์ในครั้งนั้นมีผลกระทบต่อชีวิตมากถึงขั้นที่ผมไม่รู้จะใช้คำพูดอะไร หรืออยากจะพูดถึงเรื่องนี้ในที่สาธารณะ”

 

ความน่าสนใจของเจคคือเขาเป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีมิติและท้าทายตัวเองอยู่ตลอดเวลา ทำให้เห็นถึงวิวัฒนาการในการเป็นนักแสดงโดยไม่ได้กำหนดว่าต้องรับบทอะไรเพื่อคีปลุคตัวเอง เราได้เห็นเขาเล่นเป็นเซลล์ขายยาในหนังเรื่อง Love & Other Drugs (2010) กับรูปลักษณ์ภายนอกที่แสนเพอร์เฟกต์ แต่พอมาเล่นเป็นนักข่าวสายอาชญากรรมในหนังเรื่อง Nightcrawler (2014) ก็ได้รับคำชื่นชมอย่างท่วมท้น เจคก็มาในลุคผอมโทรมพร้อมความซับซ้อนทางอารมณ์ และสร้างตัวละครออกมาได้อย่างน่าชื่นชม ส่วนในหนัง Southpaw (2015) เขาก็ต้องเล่นเป็นนักมวยที่แข็งแกร่ง พร้อมการต้องไปฝึกร่างกายด้วยการเข้ายิม 6 ชั่วโมงต่อวัน

 

Stronger (2017)

 

ส่วนภาพยนตร์เรื่อง Stronger ในปี 2017 ก็เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่เจคหันมาผลิตภายใต้บริษัทของตัวเองที่ชื่อ Nine Stories เล่าเรื่องราวการวางระเบิดที่งานบอสตันมาราธอนในวันที่ 16 เมษายน 2013 เจครับบทเป็น เจฟฟ์ เบาว์แมน ชายหนุ่มวัย 27 ปีที่โดนลูกหลงและต้องผ่าตัดขาออกทั้งสองข้าง ซึ่งนักวิจารณ์หลายคนต่างก็ชื่นชมการแสดงของเจค ส่วนอีกหนึ่งผลงานที่หลายคนจะได้เห็นใบหน้าเจคแปะอยู่ทั่วทุกมุมโลกคือการเป็นพรีเซนเตอร์น้ำหอม Eternity ของ Calvin Klein ที่ดีไซเนอร์ ราฟ ซิมงส์ เลือกเจคมาประกบคู่กับนางแบบ ลียา เคเบเด

 

นอกเหนือจากอาชีพนักแสดงแล้ว เจคเองก็ยังเป็นอีกคนที่คลุกคลีเรื่องการเมืองอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นบทบาทการสนับสนุนองค์กร American Civil Liberties Union หรือที่แปลเป็นไทยว่า สหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกัน รวมทั้งยังเป็นแกนนำในการหาเงินสมทบทุนให้กับฮิลลารี คลินตัน ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกาเมื่อครั้งที่ผ่านมา และในช่วงเดือนมกราคมนี้เอง เจคก็ได้ไปเดินขบวนที่วอชิงตัน ดี.ซี. ในงาน Women’s March พร้อมกับพี่สาวและประชาชนอีก 500,000 แสนคนตามการคาดการณ์ (ทั้งโลกมีคนออกมาเดินราว 5 ล้านคน)

 

จากซ้ายไปขวา: เจคที่งาน Women’s March, โฆษณาน้ำหอม Eternity, เจคและเจฟฟ์ เบาว์แมน ตัวจริง ตัวละครที่เขารับบทในภาพยนตร์เรื่อง Stronger

 

พูดได้ว่าตลอด 38 ปีของเจค จิลเลนฮาล ได้ทำให้เห็นว่าถึงแม้จะเกิดมาในครอบครัวที่คนภายนอกวาดฝันอยากมี แต่เขาก็เลือกที่จะเดินออกจากฟองอากาศของฮอลลีวูด เรียนรู้ชีวิตความยากลำบาก และสร้างเนื้อสร้างตัวเพื่อทำงานในวงการบันเทิงด้วยตัวเอง เขายังคงอยู่บนพื้นฐานความจริงและรักในศาสตร์ของมันมากกว่าชื่อเสียงที่มาพร้อมกับอาชีพนี้ ซึ่งถ้าเจคยังยึดติดในการดำเนินชีวิตแบบนี้ต่อไป เราเชื่อว่าเขาก็จะเป็นตำนานที่ไม่ได้เป็นแค่ตัวประกอบของใคร

 

อ้างอิง:

FYI
  • เจค จิลเลนฮาล จบการศึกษาจาก Harvard-Westlake School ในลอสแอนเจลิส ปี 1998 และเข้าเรียนต่อที่ Columbia University โดยเลือกเรียนด้านศาสนาและปรัชญาตะวันออก หลังจากเรียนไปได้ 2 ปี เขาตัดสินใจดรอปเรียน และหันไปเอาดีด้านการแสดงอย่างเต็มตัว
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising