ประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมถูกพูดถึงมานาน แต่โลกก็ยังสาหัสและดูเหมือนจะป่วยขึ้นทุกปี ไม่แปลกที่คนยุคใหม่จะลุกขึ้นมาเรียกร้องโลกใบใหม่ หาใช่โลกใบเดิมที่ผุกร่อนจากน้ำมือของคนรุ่นเก่า เห็นได้จากเทรนด์เรื่องสิ่งแวดล้อมที่ถูกพูดถึงมากขึ้น จนกลายเป็นยุคแห่ง Green Consumer ผู้บริโภครุ่นใหม่มีแนวโน้มเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และแบรนด์ที่รักษ์โลกกันมากขึ้น
พฤติกรรมผู้บริโภคทุกภูมิภาครวมทั้งเอเชียปี 2020 มองหาแบรนด์ที่สร้างประโยชน์ให้กับสิ่งแวดล้อม ดังนั้นแบรนด์ไหนที่สร้างผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์เทรนด์นี้ได้ ผู้บริโภคก็ยินดีที่จะจ่าย เพื่อจะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ที่น่าสนใจคือ เทรนด์รักษ์โลกยุคนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของการใช้น้ำอย่างรู้ค่า ลด ละ เลิก การใช้พลาสติก ประหยัดไฟ แต่ยังเทความสนใจไปถึงเรื่องการใช้พลังงานสะอาด กลุ่มธุรกิจที่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ใช้พลังงานสะอาดจึงตอบโจทย์
เห็นได้จากอุตสาหกรรมรถยนต์ที่พัฒนานวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ECO Car หรือรถยนต์พลังงานไฮโดรเจน กันอย่างคึกคัก วงการของผู้ผลิตพลังงานน้ำมันก็แข่งขันกันพัฒนานวัตกรรมกันอย่างดุเดือด เพื่อให้สอดคล้องกับกระแสการใช้พลังงานที่เปลี่ยนไป ทั้งเรื่องของสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น ความประหยัด และการรักษาสิ่งแวดล้อม
พันธกิจของบางจาก ธุรกิจต้องเคียงข้างไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมภายใต้วิสัยทัศน์ Evolving Greenovation
พูดถึงผู้นำนวัตกรรมพลังงานน้ำมันที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม บางจากคือหนึ่งในบริษัทที่มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมของระบบน้ำมันก้าวไกลว่าน้ำมันในท้องตลาด มุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มสมรรถนะให้เครื่องยนต์ ประหยัด และต้องรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อระบบนิเวศในระยะยาว
ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เผยว่า “ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา บางจากให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีคุณภาพมอบให้แก่ผู้บริโภค ภายใต้วิสัยทัศน์ Evolving Greenovation ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจึงได้ใช้นวัตกรรมพัฒนายกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ไปพร้อมกับการดูแลสิ่งแวดล้อม และสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค”
ย้อนรอยนวัตกรรมพลังงานสะอาดภายใต้วิสัยทัศน์ Evolving Greenovation ของ บางจาก
ปี 2015 Bangchak E20S น้ำมัน E20S EURO5 รายแรกของเอเชีย
ปี 2016 บางจากปรับแก๊สโซฮอล์ทั้งหมดไปสู่ Green S Revolution เทคโนโลยี DGI ที่แรงกว่า สะอาดกว่า
ปี 2017 พัฒนา Hi-Premium Diesel S นวัตกรรมพรีเมียมดีเซลอนาคต
ปี 2018 เปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่อง FURiO ที่มี API สูงที่สุด สู่การเป็นผู้นำขีดสุดเทคโนโลยีสนามแข่งสู่รถคุณ
ปี 2019 ร่วมสนับสนุนนโยบายภาครัฐ ผลักดัน B20S น้ำมันสะอาดและแรงยิ่งขึ้น
ปี 2020 เปิดตัวผลิตภัณฑ์ S EVO FAMILY ได้แก่ แก๊สโซฮอล์ 91, 95, E85 และ E20 S EVO น้ำมันคุณภาพพรีเมียมที่มีคุณสมบัติดีที่สุด ทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และได้รับการรองรับมาตรฐาน EURO5 รายเดียวในประเทศไทย
จากการพัฒนานวัตกรรมน้ำมันดีเซลพรีเมียมที่ดีที่สุดและน้ำมันหล่อลื่นที่ดีที่สุด สู่ความท้าทายครั้งใหม่ เมื่อบางจากเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในกลุ่มแก๊สโซฮอล์ S EVO FAMILY ได้แก่ แก๊สโซฮอล์ 91, 95, E85 และ E20 โดยพระเอกของกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ต้องยกให้กับ E20 S EVO น้ำมันคุณภาพพรีเมียมที่มีคุณสมบัติดีที่สุดในตลาด ทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า
“น่าจะเป็นรายเดียวที่เคลมได้ว่าห้องเผาไหม้สะอาดขึ้น 100% พิสูจน์จากห้องทดลอง ในขณะที่อัตราการเร่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพ E20 สูตรเดิม เพิ่มอัตราเร่งสูงขึ้น 56% ด้วยการทดลองบนสายพาน และเรายังเปรียบเทียบกับ E95 ในท้องตลาด พบว่า E20 S EVO รีดแรงม้าจากรถได้สูงที่สุด และสิ่งที่ไม่เคยลืมคือตัวตนของบางจากคือเป็น E20 S EVO ที่มีเทคโนโลยี Green S EVO และได้รับการรองรับมาตรฐาน EURO5 รายเดียวในประเทศไทย” ชัยวัฒน์กล่าว
หากดูอัตราการเติบโตของ E20 ในตลาด ตามความต้องการของรถยนต์รุ่นใหม่ๆ คาดการณ์ว่าน้ำมัน E20 จะเป็นน้ำมันพื้นฐานของประเทศไทยในอนาคต สอดคล้องกับนโยบายกระทรวงพลังงาน
สิ่งที่ต้องมองควบคู่กันไปคือ เทรนด์รถยนต์ในอนาคต ชัยวัฒน์เผยว่า นับตั้งแต่ปี 2015 บางจากเป็นรายแรกที่ใช้เทคโนโลยี GDI (Gasoline Direct Injection ฉีดน้ำมันตรงเข้าห้องเผาไหม้) แนวโน้มอีก 5 ปีข้างหน้า รถยนต์รุ่นใหม่ๆ จะเปลี่ยนมาเป็นเครื่องยนต์ระบบ GDI ทั้งหมด บางจากจึงพัฒนา E20 S EVO ให้รองรับเครื่องยนต์ระบบ GDI และยังใช้ได้ดีกับรถเบนซินทุกรุ่น ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่
จุดกำเนิดความ ‘แรงสุดพลัง รู้สึกได้ตั้งแต่ถังแรก’ ของน้ำมันบางจากแก๊สโซฮอล์ E20 S EVO
น้ำมันบางจากแก๊สโซฮอล์ E20 S EVO เพิ่มสาร เพิ่มคุณภาพ S Dual Purifier และ S Turbo Modifier ที่ทำความสะอาดหัวฉีดได้ดีเยี่ยม เครื่องยนต์จึงเผาไหม้ได้สมบูรณ์ ทำให้เครื่องยนต์เดินลื่น แรงสุด พลังสะอาด เมื่อเทียบกับน้ำมันตามท้องตลาดทั่วไปจะเติมสารเพิ่มคุณภาพเพียงตัวใดตัวหนึ่ง แต่ E20 S EVO เติมสารทั้ง 2 ชนิด เพื่อให้ได้น้ำมันที่ ‘แรงสุดพลัง รู้สึกได้ตั้งแต่ถังแรก’
คุณสมบัติที่โดดเด่นจากการทดสอบ E20 S EVO กับรถยนต์รุ่นใหม่ระบบ GDI พบว่า
- ทำความสะอาดหัวฉีดเครื่องยนต์ระบบ GDI ได้ 100 % ทำให้เผาไหม้ได้อย่างสมบูรณ์ ป้องกันหัวฉีดอุดตัน รถจึงวิ่งได้แรงขึ้น
- อัตราเร่งมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นจากเดิม 56.7% เป็นผลจากการที่แรงม้าและแรงบิดสูงขึ้น จึงเร่งแรงได้ในทุกสถานการณ์
- ป้องกันสนิมและการกัดกร่อนได้ในระดับ A Rating ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ให้ยาวนานขึ้น
- E20 S EVO ยังได้รับมาตรฐาน EURO5 เป็นรายแรกในเอเชีย ซึ่งมีค่ากำมะถันต่ำกว่า 10 PPM ดีต่อสิ่งแวดล้อม และยังลดมลภาวะจากการเผาไหม้ โดยลดคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ 14% และลดไนโตรเจนออกไซด์ได้ถึง 50% ซึ่งเป็นต้นเหตุของภาวะโลกร้อนและฝนกรด
และอย่างที่บอกไป E20 S EVO พัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับเครื่องยนต์ระบบ GDI ซึ่งมีในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ และยังใช้ได้ดีกับเครื่องยนต์ระบบ PFI (Port Fuel Injection เครื่องฉีดพอร์ตธรรมดา) รุ่นเก่าได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น
- Ford ทุกรุ่น ตั้งแต่ปี 2005
- Honda / Mazda / Mitsubishi / Nissan / Toyota ทุกรุ่น ตั้งแต่ปี 2008
- Proton ทุกรุ่น ตั้งแต่ปี 2010
- MG ทุกรุ่น ตั้งแต่ปี 2014
- Mercedes-Benz (C-Class, E-Class) ตั้งแต่ปี 2009
- BMW ตั้งแต่ปี 2008 (ตรวจสอบรุ่นรถกับศูนย์บริการ)
- MINI ตั้งแต่ปี 2014 (ตรวจสอบรุ่นรถกับศูนย์บริการ)
- Volvo ตั้งแต่ปี 2008 (ตรวจสอบรุ่นรถกับศูนย์บริการ)
หรือเช็กว่ารถยนต์ของคุณเติมน้ำมันอะไร ต้องการน้ำมันออกเทนเท่าไร เช่น รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 หรือไม่ และสำหรับน้ำมันที่มีค่าออกเทน 91 หรือ 95 ก็สามารถใช้ได้กับรถที่รองรับน้ำมัน E20 เนื่องจาก E20 มีค่าออกเทนสูงกว่า 95 ก็สามารถเติม E20 S EVO ได้เช่นกัน
ของแบบนี้ต้องลองถึงจะรู้ว่า ‘แรงสุดพลังสะอาด รู้สึกได้ตั้งแต่ถังแรก’ จริงหรือไม่ ที่แน่ๆ นอกจากประสิทธิภาพที่พัฒนาได้ดียิ่งขึ้นในกลุ่ม E20 S EVO ทั้งกลุ่มแก๊สโซฮอล์ S EVO FAMILY ทั้งแก๊สโซฮอล์ 91, 95 และ E85 ให้กลายเป็นน้ำมันคุณภาพพรีเมียม ยังเปิดตัวมาในราคาเท่าเดิม ทว่า สร้างการเปลี่ยนแปลงให้สิ่งแวดล้อมรอบตัวได้ทุกครั้งที่สตาร์ทรถอย่างแน่นอน
พิสูจน์ความ ‘แรงสุดพลังสะอาด รู้สึกได้ตั้งแต่ถังแรก’ ได้ที่ปั๊มบางจาก 1,200 สาขาทั่วประเทศ