วันนี้ (25 กรกฎาคม) ที่อาคารนิมิบุตร อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในการเปิดงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 ของพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า
พรรคภูมิใจไทยพูดไม่เก่ง จำเป็นต้องทำงานเพื่อพิสูจน์ความตั้งใจ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะนั่งอยู่ตรงไหน แต่ ส.ส. ของพรรคภูมิใจไทยทุกคนทราบดีว่าเป็นผู้แทนประชาชน การทำงานจะนึกถึงจุดนี้เป็นสำคัญ
พรรคได้เดินหน้านโยบายของพรรคไปแล้ว บางนโยบายเดินหน้าไปถึงครึ่งทาง บางนโยบายได้ยื่นเรื่องให้สภาฯ พิจารณาแล้ว
นโยบายกัญชาทางการแพทย์ พรรคทำอย่างสุดความสามารถ ได้พยายามทำลายทุกข้อจำกัด มีคำถามว่านโยบาย 6 ต้นอยู่ไหน ขอตอบว่าวันนี้มันอยู่ในสภาฯ ในอนาคตจะอยู่ที่บ้านประชาชน ขณะนี้กำลังปลดล็อกสารสำคัญที่มีอยู่ในกัญชาและกัญชง เพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์
“ขอย้ำว่า การเดินหน้าของพรรคไม่ได้หวังให้ประชาชนนำมาใช้เพื่อความบันเทิง เราต้องการเพิ่มทางเลือกทางการแพทย์ และเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจเท่านั้น” อนุทินระบุตอนหนึ่งของการกล่าวเปิดงาน
อนุทินยังได้กล่าวถึงนโยบายด้านการคมนาคมว่า ทางพรรคพยายามอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนบนการใช้งบที่คุ้มค่าสูงสุด บางโครงการสามารถประหยัดงบได้มากถึง 30%
ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังให้ความสำคัญกับเรื่องชีวิต ปากท้องของประชาชน ด้วยนโยบายนำยางพารามาทำเป็นแบริเออร์ เพิ่มความต้องการใช้ยาง ดันราคาให้สูงขึ้น
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข ประเทศไทยเจอวิกฤตโควิด-19 แต่ก็สามารถควบคุมการระบาดได้ดี ไม่มีผู้ป่วยในประเทศมาประมาณ 2 เดือนแล้ว ไม่มีผู้ป่วยอาการหนัก ที่พบการติดเชื้อล้วนมาจากต่างประเทศ การสาธารณสุขไทยได้รับการยอมรับในระดับโลก ทั้งหมดมาจากการทำงานหนัก
นโยบายของพรรคภูมิใจไทย นอกจากจะถูกชะลอจากสถานการณ์โควิด-19 สถานการณ์การเมืองก็มีผลกระทบต่อการเดินหน้านโยบาย วันนี้มีการเรียกร้องรัฐบาล ซึ่งทางพรรคสนับสนุนให้รับฟังเสียงประชาชนและต้องช่วยกันทุกวิถีทาง ไม่ให้ความเห็นต่างทางความคิดกลายเป็นความแตกแยก ขณะที่เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ทางพรรคไม่เคยขัดขวาง แต่การแก้ไขสมควรเกิดขึ้นเมื่อคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้เห็นด้วย และการแก้ไขต้องเป็นไปตามกฎหมาย มีการทำประชามติ และตั้งสภาฯ ร่างรัฐธรรมนูญ สุดท้ายแล้วพรรคภูมิใจไทยพร้อมทำงานหนักเพื่อบ้านเมือง และพร้อมฟังเสียงประชาชน
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล