ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ตัดสินใจขยายเวลาระงับการออกกรีนการ์ด หรือบัตรประจำตัวสำหรับบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้พำนักอาศัยและทำงานถาวรในสหรัฐฯ รวมถึงระงับการออกวีซ่าทำงานชั่วคราวสำหรับแรงงานต่างชาติไปจนถึงสิ้นปี 2020 โดยทำเนียบขาวระบุว่ามาตรการนี้จะช่วยสร้างงานให้ชาวอเมริกันที่ได้ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากวิกฤตโควิด-19 ขณะที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายทรัมป์ที่ต้องการจำกัดการอพยพเข้าประเทศของชาวต่างชาติ
มาตรการใหม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อชาวต่างชาติจำนวน 5.25 แสนคน รวมถึงผู้ที่ยื่นขอกรีนการ์ดใหม่และถูกระงับไปตั้งแต่ครั้งก่อนราว 1.7 แสนคน ครอบคลุมแรงงานทักษะสูงและโปรแกรมเมอร์ที่ยื่นขอวีซ่าประเภท H-1B ไปจนถึงแรงงานตามฤดูกาลในอุตสาหกรรมบริการ (ยกเว้นภาคการเกษตร) และบุคลากรเฮลท์แคร์ที่ขอวีซ่าประเภท H-2B
นอกจากนี้ยังควบคุมวีซ่าแลกเปลี่ยนระยะสั้นประเภท J-1 สำหรับพี่เลี้ยงเด็กที่ร่วมพักอาศัยในบ้าน (Au Pair) และนักศึกษาที่ขอเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยในช่วงซัมเมอร์ และวีซ่า L สำหรับผู้จัดการ ผู้บริหาร และพนักงานตำแหน่งสำคัญในบริษัทข้ามชาติ
คำสั่งพิเศษของประธานาธิบดีจะจำกัดความสามารถของบริษัทสัญชาติอเมริกันที่ดำเนินงานในต่างประเทศหรือบริษัทต่างชาติที่มีสาขาในสหรัฐฯ ในการเคลื่อนย้ายผู้บริหารและพนักงานต่างชาติเข้าสหรัฐฯ เป็นเวลาหลายเดือน
แต่กระนั้นมาตรการใหม่จะไม่กระทบต่อผู้ที่ถือวีซ่าอยู่ก่อนแล้ว อย่างไรก็ตาม มีผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว โดยวิจารณ์ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังใช้ประโยชน์จากช่วงที่ไวรัสระบาดในการออกกฎหมายควบคุมการอพยพเข้าประเทศให้เข้มงวดมากขึ้น
ก่อนหน้านี้สภาหอการค้าเคยเขียนจดหมายเตือนว่ามาตรการควบคุมแรงงานต่างชาติเข้าประเทศจะส่งผลกระทบต่อการพื้นตัวทางเศรษฐกิจ เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่บริษัทต่างๆ ต้องสามารถเข้าถึงแรงงานที่มีความสามารถสูงทั้งในและต่างประเทศ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
