ในโลกธุรกิจ กฎเหล็กที่ผู้นำและองค์กรขนาดใหญ่ทราบกันดีคือ การสร้างความเชื่อใจไม่ใช่สิ่งที่สร้างกันง่ายๆ ถ้าอยากสร้างความเชื่อใจ ผู้นำจะต้องแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ ความพยายามในการสานสัมพันธ์กับคนในองค์กรและนอกองค์กร อีกทั้งยังต้องมีบุคลิกภาพที่ดี ดังคำกล่าวของ นายพลเอช นอร์แมน ชวาร์ซคอฟ ที่ว่า “ความเป็นผู้นำคือการหลอมรวมกันของกลยุทธ์และบุคลิกภาพซึ่งทรงพลังมาก”
หากบุคลิกภาพของผู้นำคือสิ่งทรงพลัง และนำไปสู่ความเชื่อใจในตัวผู้นำเองก็ดี หรือต่อองค์กรนั้นๆ ก็ดี เท่ากับเป็นการวางรากฐานอันมั่งคงด้วยเสาเข็มแห่งความเชื่อใจเลยก็ว่าได้
แต่ไม่มีใครสร้างความเชื่อใจได้ด้วยคำพูด ความเชื่อใจเกิดขึ้นจากสิ่งที่ทำ โดยเฉพาะในยามวิกฤต คำพูดให้กำลังใจมีความหมายน้อยกว่าวิธีการสร้างความเชื่อมั่นในใจคน ประกอบไปด้วย
– ความกล้าหาญเดินหน้าทำตามเป้าหมายให้สำเร็จ แม้จะมีอุปสรรคหรือเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำ
– ความเมตตา ห่วงใย เอาใส่ใจ เพื่อนมนุษย์ หรือความมุ่งมั่นในการเพิ่มคุณค่าให้กับผู้อื่น และช่วยแบ่งเบาภาระ พร้อมอยู่เคียงข้างเมื่อมีภัย
– เข้าถึงใจก่อนขอความร่วมมือ เพราะการทำงานกับคนต้องใช้ ‘ใจแลกใจ’ หัวใจสำคัญอยู่ที่การเข้าใจในสิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญ ไม่ใช่สิ่งที่ผู้นำหรือองค์กรให้ความสำคัญ ยิ่งอุปสรรคของอีกฝ่ายหนักหนาเท่าไร ยิ่งต้องทำความเข้าใจให้มากขึ้น
ถ้าสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดคือกลยุทธ์ในการชนะใจคน ไม่น่าแปลกใจที่ ‘เมืองไทยประกันภัย’ จะเข้ายึดครองพื้นที่ในใจลูกค้าได้สำเร็จ อะไรคือกุญแจสำคัญที่ทำให้ ธุรกิจที่เคยถูกละเลยความสำคัญ กลายเป็นธุรกิจที่ลูกค้าให้ความสำคัญและให้ความเชื่อใจ
มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เมืองไทยประกันภัย
ทุกวิกฤตมีโอกาส และ ‘ทุกวินาทีมีภัยที่คุณไม่คาดคิดเกิดขึ้นเสมอ’
เมืองไทยประกันภัยดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์แสนแยบยล พาตัวเองเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคด้วยการทำให้เชื่อมั่น จนเชื่อใจ เช่น เหตุการณ์มหาอุทกภัยปี 2554 ถือเป็นวิกฤตครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมประภัย เป็นปีแรกที่บริษัทเมืองไทยประกันภัยขาดทุน แต่วิกฤตครั้งนั้นได้พลิกมุมมองใหม่ของการทำประกันภัย จากธุรกิจที่ถูกเมิน กลายเป็นธุรกิจที่ถูกจับตามอง เป็นธุรกิจที่ช่วยแบ่งเบา เยียวยา และอยู่เคียงข้างเมื่อมีภัย
ทุกวินาทีมีภัยที่คุณไม่คาดคิดเกิดขึ้นเสมอ เห็นได้จากทุกวิกฤตที่ผ่านมา ทั้งสึนามิ เหตุการณ์ความไม่สงบ วิกฤตเศรษฐกิจ น้ำท่วมใหญ่ หรือวิกฤตโควิด-19 ที่คนไทยทั้งประเทศกำลังเผชิญ กว่า 88 ปีที่บริษัทได้รับความไว้วางใจจากคนไทยให้ทำหน้าที่บรรเทาและเยียวยายามเกิดภัย บริษัทพิสูจน์ให้ลูกค้าเห็นและเชื่อมั่นว่า บริษัท ‘เข้าใจ’ ว่าอะไรคือสิ่งที่เขาให้ความสำคัญ ‘ห่วงใยและเอาใจใส่’ ไม่ทอดทิ้งยามเกิดปัญหา มีเงินทุนสำรองพร้อมเยียวยา ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา
วิกฤตโควิด-19 วิกฤตที่ตอกย้ำความเชื่อใจ ‘ยิ้มได้ เมื่อภัยมา’
วิกฤตโควิด-19 สถานการณ์ที่ทุกคนล้วนหวาดหวั่นกับชีวิตที่ไม่แน่นอน ประเทศไทยต้องรับมือกับวิกฤตที่ไม่เคยมีใครเคยเจอมาก่อน ‘ความกล้าหาญ’ ที่จะยืนหยัดต่อสู้เคียงข้างคนไทย และกล้าทำในสิ่งที่คนอื่นไม่ทำ ของเมืองไทยประกันภัย ด้วยการมอบกรมธรรม์โควิด-19 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ สถาบันบำราศนราดูร เนื่องจากบุคลากรทางการแพทย์มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อ
เมื่อข่าวแพร่กระจายในวงกว้าง กลุ่มธุรกิจและลูกค้าทั่วไปเริ่มต้องการซื้อประกันโควิด-19 จากความเข้าใจ เกิดเป็นความห่วงใย ใส่ใจ ประกอบกับความกล้าหาญของ มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เมืองไทยประกันภัย จึงออกแบบ ‘ประกันโควิด-19 เจอ จ่าย จบ’ ออกแบบความคุ้มครองด้วยความเข้าใจว่าลูกค้าต้องการความอุ่นใจและความคุ้มครองครบถ้วนจบในที่เดียว เพื่อที่ทุกคนจะ ‘ยิ้มได้ เมื่อภัยมา’ โดยยึดแนวคิดที่ว่า ‘เมื่อเราให้ใจลูกค้าก่อน เราย่อมได้ใจเขากลับมา’
มาดามแป้ง ลงพื้นที่ส่งมอบอาหารให้แก่ครอบครัวที่ประสบปัญหาผ่าน กิจกรรมครัวมาดาม
คำมั่นสัญญาที่จะเยียวยาและแบ่งเบาความทุกข์ยามเกิดภัยของเมืองไทยประกันภัย เดินหน้าต่อผ่าน ‘กิจกรรมครัวมาดาม’ เพื่อส่งมอบอาหารและถุงยังชีพเพื่อช่วยครอบครัวที่ประสบปัญหา ใส่ใจดูแลสุขภาพและปากท้องของคนไทย อีกทั้งยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับพันธมิตรทางธุรกิจและคู่ค้าที่ร่วมบริจาคสิ่งของกับครัวมาดาม
ดูองค์กรให้ดูวิสัยทัศน์ผู้นำ จึงนำไปสู่แคมเปญ ‘เชื่อแป้ง เชื่อเมืองไทยประกันภัย’
ไม่เฉพาะกับลูกค้าเท่านั้นที่บริษัทให้การดูแล มาดามแป้งยังเน้นการสื่อสารอย่างจริงใจและเข้าใจ สร้างความเชื่อมั่นและขวัญกำลังใจให้กับพนักงานในช่วงโควิด-19 ผ่านการทำคลิป CEO Talk ที่พูดความในใจของซีอีโอถึงพนักงานทุกคน โดยเฉพาะการเน้นย้ำนโยบายการบริหารช่วงโควิด-19 ว่าไม่มีนโยบายตัดเงินเดือนพนักงาน โดยทีมผู้บริหารเสียสละโดยการลดเงินเดือน 15%
ภาพลักษณ์ของมาดามแป้งที่สาธารณชนเชื่อมั่นในประสบการณ์จากการบริหารงานในหลากหลายวงการ ความจริงใจ ตรงไปตรงมา กลายเป็นจุดแข็ง และนำไปสู่แคมเปญ ‘Believe’ เชื่อแป้ง เชื่อเมืองไทยประกันภัย ตอกย้ำการรับรู้ถึงวิสัยทัศน์และพันธกิจของเมืองไทยประกันภัย ตอกย้ำความมั่นใจและเชื่อมั่นในแบรนด์ ผ่านตัวตนของมาดามแป้ง ด้วยภาพลักษณ์ที่เป็นมิตร เข้าถึงง่าย และน่าไว้วางใจ
คำมั่นสัญญาเป็นสิ่งที่เมืองไทยประกันภัยยึดถือมาตลอด การพูดความจริงและให้ข้อมูลสินค้าแบบตรงไปตรงมา เป็นสิ่งที่พนักงานทุกคนต้องให้ความสำคัญ แม้วันนี้มาดามแป้งจะดำรงตำแหน่งซีอีโอ ก็พร้อมที่จะออกไปหาลูกค้า ไม่ว่าลูกค้าจะเป็นใคร ทำอาชีพอะไร ก็ไม่เลือกปฏิบัติ เพราะธุรกิจประกันภัยเป็นธุรกิจบริการ การใส่ใจความต้องการเพื่อนำมาพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า หรือใส่ใจบริการก่อนและหลังการขาย จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าใครคือตัวจริงในธุรกิจประกันภัย
เข้าถึงได้ทุกช่องทางดิจิทัล เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่
การกลับมาของแคมเปญ ‘Believe’ เชื่อแป้ง เชื่อเมืองไทยประกันภัย ครั้งนี้ มาพร้อมกับก้าวสำคัญ เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ๆ เพิ่มช่องทางการสื่อสารให้ครอบคลุมทุกด้านบนแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้ง LINE OA, Facebook Fanpage, Twitter และ Instagram เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนทุกเพศทุกวัยได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงอัปเกรดแอปพลิเคชัน Muang Thai Friends ให้คุณใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายเพียงปลายนิ้ว สร้างฟีเจอร์ใหม่ตอบสนองความต้องการทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น แจ้งเตือนวันหมดอายุของกรมธรรม์ประกันภัย, ดาวน์โหลดเงื่อนไขกรมธรรม์, ช้อปปิ้งและศึกษาข้อมูลประกันออนไลน์ได้ทันที
ทั้งหมดนี้คือวิสัยทัศน์ของผู้บริหารและบริษัทเมืองไทยประกันภัย ในการทำธุรกิจแบบ ‘เชื่อใจ’ ให้เป็นคำมั่นสัญญากับผู้บริโภค
‘เชื่อแป้ง เชื่อเมืองไทยประกันภัย’ แล้วคุณจะยิ้มได้ เมื่อภัยมา