วันนี้ (10 มิถุนายน) ธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร, คารม พลพรกลาง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่มีกระเเสข่าวว่า พรรคพลังประชารัฐ เตรียมจะเสนอชื่อ วิรัช รัตนเศรษฐ นั่ง กมธ. ป.ป.ช. แทนตำเเหน่งที่ว่าง ว่า เนื่องจากในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ในวาระ 7.2 เรื่องการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ในการตั้งคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ แทนตำแหน่งที่ว่าง จากการที่ จุลพันธ์ โนนศรีชัย อดีต ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ลาออกนั้น โดยเมื่อวานมีกระเเสข่าวว่า จะมีพรรคจากฝั่งรัฐบาลเสนอชื่อบิ๊กเนมของพรรคมานั่ง กมธ. ป.ป.ช.
ธีรัจชัยตั้งข้อสังเกตว่า กมธ. ป.ป.ช. ตามหลักการของฝ่ายนิติบัญญัติ มีอำนาจและหน้าที่ในการตรวจสอบฝ่ายบริหาร และตลอดการเลือกตั้งที่ผ่านมาในสมัยนี้ กมธ. ป.ป.ช. ได้มีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบในหลายเรื่องสำคัญ อาทิ การกักตุนหน้ากากอนามัย การตรวจสอบคุณสมบัติของ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งตามหลักเเล้วควรมีความจำเป็นที่จะต้องมีตัวเเทนของฝ่ายค้านเข้าไปตรวจสอบ เเละกลไกใน กมธ. มีทั้งฝ่ายค้านเเละรัฐบาล โดยในช่วงเเรกมีสัดส่วนของกรรมาธิการ 8 ต่อ 7 ฝ่ายค้านมากกว่าฝ่ายรัฐบาล ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดี ต่อมา จุลพันธ์ โนนศรีชัย อดีต ส.ส. พรรคอนาคตใหม่เดิมได้ลาออก เเละย้ายไปอยู่พรรครัฐบาล 1 ท่าน ลาออก 1 ท่าน ในปัจจุบันจึงทำให้กรรมาธิการฝ่ายค้านน้อยกว่า คือ 8 ต่อ 6 ซึ่งขณะนี้ยังมีเรื่องที่ค้างรอตรวจสอบอีกร้อยกว่าเรื่อง ของประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม จากการทุจริตเเละประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ
ธีรัจชัยตั้งข้อสังเกตว่า ในการตรวจสอบดังกล่าว อาจจะทำให้ฝ่ายรัฐบาลไม่พอใจ โดยตนขอให้ฝ่ายค้านได้ใช้โอกาสนี้ใน กมธ. ป.ป.ช. ได้ทำงาน เเละจากที่มีกระเเสข่าวว่า พรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อ วิรัช รัตนเศรษฐ แทนตำเเหน่งของจุลพันธ์ที่ลาออกนั้น ตนเห็นว่าในการดำเนินของคณะกรรมาธิการมันจะไม่ใช่การตรวจสอบที่ปกติ โอกาสทำงานของกรรมาธิการฝ่ายค้านจะมีความยากมากขึ้น เเละโอกาสในการตรวจสอบรัฐบาลจะยากยิ่งขึ้น เรื่องที่มีการร้องเรียนเข้ามาเกี่ยวกับรัฐบาล ในประเด็นสำคัญจะยากเลยครับ
ทั้งนี้ ธีรัจชัยตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า กระบวนการของฝ่ายรัฐบาลไม่ควรเข้ามายุ่ง เนื่องจากเรื่องนี้เป็นสัดส่วนโควตาเดิมของอดีตพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งควรจะเป็นโควตาของพรรคก้าวไกล ไม่ควรเข้ามาตั้งเเละเเทรกเเซง ซึ่งถ้าหาก ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรนำวาระดังกล่าวมาพิจารณา เเละกลไกของระบบรัฐสภาในการจัดสรรจะต้องตามสัดส่วนของพรรคการเมืองที่มีในรัฐสภา โดยสัดส่วนตรงนี้ยังคงเป็นของพรรคฝ่ายค้านอยู่ ไม่ว่าจะเป็นของพรรคเพื่อไทยหรือพรรคก้าวไกลก็ตาม ถ้าเป็นไปได้ขอรัฐบาลอย่ามาเเทรกเเซงในเรื่องนี้ ซึ่งจะทำให้ฝ่ายค้านได้มีประสิทธิภาพในการตรวจสอบรัฐบาล และการที่บุคคลนั้นจะเข้ามานั่งใน กมธ. ป.ป.ช. ตนคิดว่า บุคคลนั้นควรมีประวัติที่ขาวสะอาด โปร่งใส ถ้าเอาคนมีประวัติที่เคยถูกชี้มูลจาก ป.ป.ช. มา คนมีประวัติที่เคยมัวหมองจากการตรวจสอบการทุจริตมาต่อเนื่องระยะยาวในหลายๆ เรื่องที่ผ่านมา มาอยู่ในคณะกรรมาธิการนี้ไม่ว่าจะบิ๊กเนม หรืออะไรก็เเล้วแต่ ตนคิดว่าอาจจะไม่เหมาะสม
“ผมอยากให้คนเข้าตรวจสอบมีความจริงใจที่จะทำเพื่อบ้านเมืองในการควบคุม กำกับดูเเลตรวจสอบรัฐบาล ในการที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนหรือดูแลกลไกของรัฐและหน่วยราชการต่างๆ ที่ทุจริตหรือประพฤติมิชอบ และขอความกรุณารัฐบาลอย่าแทรกแซง ให้ฝ่ายค้านได้ดำเนินการ” ธีรัจชัยกล่าว
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
