แม้อุตสาหกรรมการบินจะได้รับผลกระทบอย่างสาหัสเป็นรายแรกๆ จากวิกฤตโควิด-19 และนักวิเคราะห์มองในทิศทางเดียวกันว่าอาจต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปีในการฟื้นฟูธุรกิจจนกลับสู่ภาวะปกติ แต่ผู้บริหารของ VistaJet บริษัทเครื่องบินส่วนตัว เชื่อว่าอุตสาหกรรมการบินจะเริ่มฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญทันทีที่ประเทศต่างๆ เริ่มเปิดพรมแดนให้เดินทางได้อีกครั้ง
โธมัส โฟลห์ร ประธานและผู้ก่อตั้ง VistaJet ให้ความเห็นกับ CNBC ว่าถึงแม้การคมนาคมทางอากาศจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตการระบาดของโควิด-19 เนื่องจากดีมานด์ที่ลดฮวบลง ขณะที่หลายประเทศใช้มาตรการล็อกดาวน์หรือปิดประเทศเพื่อชะลอการระบาด แต่เขาคิดว่าอุตสาหกรรมมีความพร้อมที่จะรีสตาร์ทตัวเอง ซึ่งเวลานั้นจะมาถึงแน่นอน
“เราเชื่อว่าการรีสตาร์ทจะเกิดขึ้นในช่วงที่ 2 ของไตรมาส 2 หรือช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายน” โฟลห์รกล่าวในรายการ Capital Connection ของ CNBC
ผู้บริหาร VistaJet คิดว่าอุตสาหกรรมการบินจะฟื้นตัวในที่สุด เมื่อประเทศต่างๆ เปิดพรมแดนอีกครั้ง และประชาชนจำเป็นต้องเดินทาง
เขากล่าวว่าเอเชียและออสเตรเลียได้เปิดพรมแดนบ้างแล้ว โดยภูมิภาคดังกล่าวเคยเป็นศูนย์กลางการระบาดของไวรัส ก่อนที่จะเปลี่ยนไปที่ยุโรป ตะวันออกกลาง และสหรัฐอเมริกา ซึ่งที่ผ่านมามีสัญญาณการฟื้นตัวแล้ว หลังทางการจีนอนุญาตให้ประชาชนเดินทางออกจากเมืองอู่ฮั่นได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปิดเมืองไปเมื่อปลายเดือนมกราคม
โฟลห์รคาดว่าจะได้เห็นการคมนาคมทางอากาศที่เพิ่มขึ้นในเส้นทางการบินระหว่างออสเตรเลียกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงเที่ยวบินสู่ประเทศจีน ถึงแม้การทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2020 จะเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่เขาระบุว่ามีความหวังที่อุตสาหกรรมดังกล่าวจะกระเตื้องขึ้น
อย่างไรก็ตาม โฟลห์รเชื่อว่าหลังวิกฤตโควิด-19 สายการบินต่างๆ จะประสบปัญหาในการฟื้นฟูธุรกิจ
“มันเป็นเรื่องยากสำหรับสายการบินในการรีสตาร์ทระบบโลจิสติกส์หรือเครือข่ายการบินทั่วโลกทั้งหมด เพราะเบื้องต้นหลายบริษัทจะเผชิญกับปัญหาเรื่องอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร ซึ่งจะต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าในการใช้เครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ เช่น Boeing 777 หรือ Airbus 380 บนเส้นทางที่เคยสร้างผลกำไรเมื่อมีอัตราส่วนการบรรทุกที่ 80-90%” โฟลห์รให้ความเห็น
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
