หลายคนอาจใช้เวลาช่วง Work from Home ทำงานอยู่บ้าน และมีเวลาได้กลับมาไล่ดูรายการโปรดฝั่งฮอลลีวูดผ่านทาง Netflix, Amazon Prime หรือ YouTube แต่หากมามองสภาพของอุตสาหกรรมและผู้อยู่เบื้องหลังที่สร้างสรรค์รายการเหล่านี้ ณ เวลานี้ก็พูดได้ว่า ไม่ได้สวยหรูและตระการตาตามที่หลายคนวาดฝันไว้ โดยเฉพาะใจกลางเมืองลอสแอนเจลิส ที่ตอนนี้แทบไม่มีผู้คน เหลือแค่ไฟของบรรดาโรงภาพยนตร์หรือป้ายโฆษณาที่ต้องเปิดทิ้งไว้ โดยปรากฏการณ์อันน่าเศร้านี้ก็เกิดขึ้นเพราะวิกฤตของโควิด-19 ที่ได้ระบาดไปทั่วทุกมุมโลก ซึ่งเว็บไซต์ The Hollywood Reporter ได้เผยตัวเลขผลกระทบต่อวงการฮอลลีวูด ก็มีสิทธิ์สูญเสียสูงถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ตั้งแต่เหตุการณ์โควิด-19 เริ่มระบาด อุตสาหกรรมฮอลลีวูดก็มีการยกเลิกการถ่ายทำภาพยนตร์และซีรีส์ทั้งหมด, ภาพยนตร์ฟอร์มยักษอย่าง Mulan, No Time to Die และ Black Widow ก็ต้องเลื่อนฉาย, รายการทอล์กโชว์ชื่อดังอย่าง The Ellen Show, Jimmy Kimmel Live และ The Late Late Show with James Corden ต้องหยุดออกอากาศ และหันมาทำคอนเทนต์ออนไลน์แทน ส่วนหนึ่งในเทศกาลดนตรีที่นำรายได้เข้าสู่ลอสแอนเจลิสอย่างมหาศาลอย่าง Coachella ก็ต้องเลื่อนไปเป็นเดือนตุลาคม โดยทั้งหมดมีการคาดการณ์ว่า ในฮอลลีวูดจะมีคนโดนเลิกจ้างกว่า 1.2 แสนคน โดยเฉพาะคนที่เป็นเป็นฟรีแลนซ์ รับเงินเป็นรายชั่วโมง และรับค่าจ้างเป็นแต่ละงาน
นอกจากนั้นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่าง Disneyland ก็ไม่สามารถนำพาความสุขมาให้คนในช่วงนี้ได้ เพราะต้องปิดอย่างไม่มีกำหนด เว็บไซต์ Variety เผยว่า ปีที่แล้วสวนสนุกและกิจกรรมสร้างประสบการณ์ อย่างเช่น พวกครูซล่องเรือ ก็ทำเงินให้ดิสนีย์สูงถึง 45% ของรายได้ทั้งหมด และตอนนี้มีการคาดการณ์ว่า การปิด Disneyland ทั้งหมดในอเมริกาก็จะสูญเสียอย่างน้อย 20-30 ล้านดอลลาร์
ภาพ: Getty Images
อ้างอิง:
