เวลาในโลกแฟชั่นของ Louis Vuitton คอลเล็กชัน Fall/Winter 2020

ขอเรียนตามตรงว่าตอนที่ The Metropolitan Museum of Art ประกาศธีมงานของ MET Gala 2020 งานที่สื่อแฟชั่นทั่วโลกรอคอยที่จะทำข่าวซึ่งก็คือ ‘About Time: Fashion and Duration’ ที่ว่าด้วยเรื่องของเวลาและยุคสมัยที่มีเครื่องแต่งกายเป็นกระจกสะท้อนเรื่องราวและประวัติศาสตร์ เรายังไม่มีภาพชัดพอว่านิทรรศการครั้งนี้จะออกมาเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับธีมปีก่อนๆ อย่าง Camp: Notes on Fashion (2019) หรือ Heavenly Bodies: Fashion and the Catholic Imagination (2020) ที่ภาพชัดตั้งแต่ชื่องาน

จนกระทั่ง Louis Vuitton โดย นิโคลาส์ เฌสกิแยร์ ผู้ที่เป็นทั้งประธานจัดงานร่วมกับ แอนนา วินทัวร์, เอ็มมา สโตน, เมอรีล สตรีป และลิน-มานูเอล มิแรนด้า พร้อมกับรับหน้าที่ไม้สุดท้ายของแฟชั่นวีกในคอลเล็กชัน Fall/Winter 2020 ที่จัดขึ้นในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ แม้ตัวสถานที่กำลังปิดไม่ให้คนทั่วไปเข้าชมในช่วงนี้จากสถานการณ์ของโรคโควิด-19 งานในวันจันทร์แรกของเดือนพฤษภาคมที่จะถึงก็ดูเมกเซนส์ขึ้นมาทันที

ฉากหลังของโชว์ที่มีนักร้องประสานเสียง 115 คนและนักแสดงประกอบอีก 85 คนในคอสตูมจากหลากหลายยุคตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 กระโดดมาถึงปี 1950 โดยไม่ได้เรียงลำดับเวลา ที่ได้คอสตูมดีไซเนอร์รางวัลออสการ์อย่าง มิเลนา คาโนเนโร ที่ฝากผลงานไว้ในภาพยนตร์เรื่อง Marie Antoinette, The Grand Budapest Hotel และ The French Dispatch ที่กำลังจะเข้าฉายมาเป็นคนควบคุมดูแล

เราจึงบอกยุคสมัยของเสื้อผ้าทั้ง 46 ลุคในคอลเล็กชันนี้บนตัวของนางแบบไม่ได้อย่างเฉพาะเจาะจง ราวกับว่าพวกเธอเข้าไปในลิ้นชักกาลเวลาเพื่อเดินทางไปในเวลาใดเวลาหนึ่งด้วยชุดหนึ่ง แล้วกลับออกมาในอีกยุคหนึ่งพร้อมกับชุดที่เปลี่ยนไป และจากร่องรอยของการเดินทางข้ามเวลาทั้งเสื้อกันหนาวผ้าร่มแบบนักปืนเขา กระโปรงแบบบาโรก เดรสหนังตัดต่อหลากสีแนวอวกาศ แจ็กเก็ตแบบมาทาดอร์ กางเกงแข่งมอเตอร์ไซค์ เสื้อแขนสั้นคล้ายหุ่นยนต์ดรอยด์ โดยมีบทเพลงคลาสสิกที่ได้แรงบันดาลใจจาก นิโคลัส เดอ กรีนี ชื่อนักออร์แกนที่ถูกลืมไปกับกาลเวลา และเป็นศิลปินรุ่นราวคราวเดียวกันกับ โยฮัน เซบาสเตียน บัค ขอบคุณเฌสกิแยร์ที่ให้เราได้ฟังเพลงของเขาในอีกหลายร้อยปีต่อมา

เมื่อเราพิจารณาว่าเวลาในโลกแฟชั่นต่างกับเวลาในโลกแห่งความเป็นจริงต่างกันตรงไหน ทั้งโชว์ของ Louis Vuitton และ MET Gala น่าจะให้คำตอบเราได้ ในโลกแห่งความเป็นจริงที่เราใช้ชีวิตอยู่ หายใจ จับต้อง มองเห็น มันเดินเป็นเส้นตรง เป็นสองมิติ เราอาจจะไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้ และมันไม่มีทางหวนกลับมา แต่เมื่อเราเข้าใจวิธีการทำงานของเวลาในโลกแฟชั่นแล้ว มันคือวัฏจักรที่หมุนเวียนเป็นวงกลม เป็นโลกทฤษฎีรูหนอนเหมือนใน Interstellar เกือบจะเป็นจริงจนเราสามารถเดินทางข้ามเวลาไปอนาคตหรือกลับไปในปีที่เราคิดถึงในอดีตก็ยังได้ อยู่ที่เราเลือกจะหยิบใช้ ใส่รหัสเวลาที่เราอยากจะไป สร้างประวัติศาสตร์และกำหนดอนาคตของเราเอง วันนี้เราได้เห็นจาก Louis Vuitton แล้ว ที่เหลือก็แค่ภาวนาให้ MET Gala ไม่เลื่อนเท่านั้น