วันนี้ (3 มีนาคม) ที่พรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีกระแสความขัดแย้งภายในพรรคว่าวันนี้ได้มีโอกาสฟังความเห็นของทุกคน ซึ่งต้องให้กำลังใจคนที่ปฏิบัติหน้าที่ โดยนำข้อผิดพลาดและบทเรียนมาวิเคราะห์เพื่อหาทางแก้ไขเพื่อให้พรรคแข็งแรงขึ้น เวลานี้โลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ทั้งเทคโนโลยี รสนิยม ความคิดเห็นของสังคม ดังนั้นต้องน้อมรับฟังทั้งปัจจัยภายนอกและภายในแล้วนำมาปรับปรุงแก้ไข พร้อมยืนยันว่าภายในพรรคไม่มีการโทษกันไปมา
เมื่อถามว่าสำหรับพรรคร่วมฝ่ายค้านจะทำงานยากขึ้นหรือไม่หลังมีรอยร้าวเกิดขึ้น คุณหญิงสุดารัตน์ระบุว่าผู้ใหญ่ของพรรคได้มีการประชุมกัน ยืนยันเดินหน้าทำงานกันต่อ และกลุ่มอนาคตใหม่ก็ได้ชักชวนร่วมรับประทานอาหารในวันที่ 4 มีนาคมนี้ โดยย้ำว่าหลังจากนี้คงไม่มีการปรับเปลี่ยนผู้บริหารของพรรคเพื่อไทย นั่นเพราะทุกคนคิดในเชิงบวก ไม่ต้องการให้พรรคแตกหรือพรรคเสียหาย
ส่วนเรื่องงูเห่าของพรรคเพื่อไทยที่ร่วมประชุมและลงมติการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น คุณหญิงสุดารัตน์เปิดเผยว่าหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค รวมทั้งกรรมการด้านจริยธรรมกำลังพิจารณาดำเนินการเรื่องนี้อยู่ ยืนยันว่าที่เกิดเหตุซ้ำซาก หัวหน้าพรรคไม่ได้เพิกเฉย แต่กำลังมอบหมายให้คณะกรรมการพิจารณาอยู่
ส่วนผลของการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น พรรคเพื่อไทยก็จะดำเนินการเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี โดยยื่นดำเนินการตามกฎหมายทั้งต่อศาลรัฐธรรมนูญและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ขณะที่กรณี ส.ส. เสนอญัตติตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษา คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่าถ้าจะรับฟังความเห็นของนักศึกษา ผู้ที่เกี่ยวข้องคือหัวหน้ารัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรีต้องรับฟังโดยตรง จึงยังไม่จำเป็นต้องใช้เวทีของสภา แต่หากเกิดปัญหา สภาก็จะเป็นผู้บรรเทาหรือระงับปัญหา แต่เวลานี้นายกรัฐมนตรีควรรับฟังเยาวชนก่อน
คุณหญิงสุดารัตน์ยังกล่าวถึงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่าผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงโดยตรงอย่างจีนก็ต้องกักตัวโดยบุคลากรทางการแพทย์ ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากประเทศพื้นที่เสี่ยงก็กักตัวเอง 14 วัน แต่ในไทยก็ยังมีมาตรการไม่ชัดเจน วันนี้สังคมต้องตระหนักแต่อย่าตระหนก การระบาดค่อนข้างรุนแรง ดังนั้นใครที่เดินทางมาจากต่างประเทศ แม้ยังไม่มีไข้ แต่ก็ต้องรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการกักตัวเองอยู่คนเดียวอย่างน้อย 14 วัน ส่วนแรงงานไทยจำนวนมากที่มาจากเกาหลีใต้ รัฐบาลก็ต้องมีมาตรการรองรับคล้ายกับกรณีที่คนไทยเดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น และอยากให้รัฐบาลประกาศมาตรการที่ชัดเจน