เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวานนี้ (5 กุมภาพันธ์) สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่เอกสารข่าวระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยกรณีร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ว่าตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ ทั้งนี้ศาลรัฐธรรมนูญระบุว่า คดีดังกล่าวมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ โดยไม่จำเป็นต้องทำการไต่สวน ในวันพรุ่งนี้ 7 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 13.30 น.
กระทบอย่างไร:
วันนี้ (6 กุมภาพันธ์) ดัชนีกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (CONS) ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 4.4%DoD ในช่วงเช้า พร้อมด้วยมูลค่าซื้อขายหนาแน่น นำโดย
- บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 7.14%DoD
- บมจ.ช.การช่าง (CK) เพิ่มขึ้น 5.97%DoD
- บมจ.ไพลอน (PYLON) เพิ่มขึ้น 4.25%DoD
- บมจ.ซีฟโก้ (SEAFCO) เพิ่มขึ้น 4.10%DoD
- บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) เพิ่มขึ้น 3.45%DoD
มุมมองระยะสั้น:
SCBS มีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างจากประเด็นนี้ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาวินิจฉัยใช้เวลาน้อยกว่าที่คาดไว้ (ก่อนหน้านี้คาดว่าจะใช้เวลา 30 วันเป็นอย่างน้อย)
หากผลการวินิจฉัยออกมาเป็นไปในทิศทางที่ดี ก็อาจมีความเป็นได้ที่การเบิกจ่ายงบลงทุนอาจล่าช้าออกไปราว 1 เดือน และปัจจัยหนุนเชิงจิตวิทยาต่อราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หากผลการวินิจฉัยออกมาเป็นอย่างอื่น คณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ได้มีการเตรียมพร้อมรับมือไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดประชุมสมัยวิสามัญในช่วงสมัยปิดการประชุม ซึ่งจะกระทำโดยมิชักช้า
มุมมองระยะยาว:
ประเด็นที่ต้องติดตามต่อไปคือ การเปิดประมูลงานของภาครัฐว่าจะออกมาได้เร็วที่สุดเมื่อใด และจะเปิดประมูลได้กี่โครงการ ซึ่งที่ผ่านมามีความคาดหวังว่าการลงทุนภาครัฐจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปีนี้ โดยโครงการก่อสร้างที่คาดว่าจะเปิดประมูลต่อจากนี้ อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงส่วนต่อขยาย โครงการรถไฟทางคู่ มูลค่ารวมกว่า 6 แสนล้านบาท ซึ่งน่าจะช่วยหนุนให้ผู้รับเหมาแต่ละรายมี Backlog สะสมและทยอยรับรู้ไปได้อีกราว 3-4 ปี
ข้อมูลเพิ่มเติม:
ก่อนหน้าราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างปรับลงอย่างหนักจากความกังวลเรื่องการล่าช้าของการเบิกจ่ายงบลงทุน
- ราคาหุ้น บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) ลดลง 21.23% จากสูงสุดสู่จุดต่ำสุดในเดือนมกราคม
- ราคาหุ้น บมจ.ช.การช่าง (CK) ลดลง 19.90% จากสูงสุดสู่จุดต่ำสุดในเดือนมกราคม
- ราคาหุ้น บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) ลดลง 17.36% จากสูงสุดสู่จุดต่ำสุดในเดือนมกราคม
- ราคาหุ้น บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) ลดลง 12.88% จากสูงสุดสู่จุดต่ำสุดในเดือนมกราคม
- ราคาหุ้น บมจ.ไพลอน (PYLON) ลดลง 13.33% จากสูงสุดสู่จุดต่ำสุดในเดือนมกราคม
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า