สถานการณ์ภายในแคมป์ทีมบาร์เซโลนากลับมาร้อนระอุอีกครั้ง หลังจากที่เกิดการโต้ตอบกันอย่างเผ็ดร้อนโดย ลิโอเนล เมสซี ซูเปอร์สตาร์หมายเลขหนึ่งของทีม หลังมีการกล่าวพาดพิงถึงผู้เล่นในทีมเรื่องความมุ่งมั่นตั้งใจในการเล่นจาก เอริก อบิดัล ผู้อำนวยการสโมสรฝ่ายกีฬาคนปัจจุบัน
ปมร้อนคัมป์นูครั้งล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากที่อบิดัลซึ่งเป็นอดีตนักเตะบาร์ซาและเป็นเพื่อนร่วมทีมของเมสซีได้ให้สัมภาษณ์ต่อ Diario Sport หนังสือพิมพ์ในแคว้นกาตาลุญญา โดยได้มีการพาดพิงถึงนักเตะในสโมสรว่า “ไม่ตั้งใจเล่นมากพอเมื่อครั้งที่มี เอร์เนสโต บัลเบร์เด เป็นโค้ช” และมีส่วนในการทำให้ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งโค้ชเป็น กีเก้ เซเตียน ในช่วงกลางฤดูกาล ทั้งๆ ที่ทีมยังนำจ่าฝูงอยู่
อบิดัลกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “มีผู้เล่นหลายคนที่ไม่พอใจหรือไม่ทุ่มเทมากพอ และยังมีปัญหาในเรื่องของการสื่อสารภายใน ความสัมพันธ์ระหว่างโค้ชและนักฟุตบอลในทีมเป็นไปด้วยดี แต่มันมีบางสิ่งที่อดีตผู้เล่นอย่างผมสัมผัสได้ ผมได้บอกกับสโมสรเกี่ยวกับสิ่งที่ผมคิดและทำให้เราต้องตัดสินใจ (ในเรื่องการปลดบัลเบร์เด)”
ในบทสัมภาษณ์ดังกล่าว ผู้อำนวยการสโมสรบาร์เซโลนายังเปิดเผยว่าได้มีความพยายามในการมองหาคนมาทำงานแทนที่บัลเบร์เดมาตั้งแต่หลังจบเกม ‘เอล กลาซิโก’ กับเรอัล มาดริด เมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา และความจริงแล้วอดีตกุนซือบาร์ซาได้ถูกปลดตั้งแต่ช่วงที่สโมสรพยายามมองหาโค้ชใหม่โดยเปิดเผย ซึ่งมีข่าวว่ามีการทาบทามอดีตสองนักเตะอย่าง โรนัลด์ คูมัน และชาบี เอร์นันเดซ รวมถึงอีกหลายราย ก่อนที่จะมาจบที่ กีเก้ เซเตียน อดีตโค้ชเรอัล เบติส ผู้ที่ได้รับการยกย่องในวงการฟุตบอลสเปนว่าทำทีมถอดแบบสไตล์บาร์ซา
จากคำกล่าวของอดีตนักเตะชาวฝรั่งเศสสร้างแรงกระเพื่อมภายในสโมสรอย่างรุนแรง เมื่อเมสซีซึ่งเป็นนักเตะหมายเลขหนึ่งของทีม และยังเป็นเจ้าของปลอกแขนกัปตันทีมคนปัจจุบันถึงขั้นเปิดฉากตอบโต้ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ปกติอย่างมากที่ดาวเตะชาวอาร์เจนตินาเลือกตอบโต้เช่นนี้
โดยเมสซีโพสต์ภาพบทสัมภาษณ์ของอบิดัล โดยมีวงกลมสีแดงล้อมช่วงหนึ่งของบทสัมภาษณ์ที่อบิดัลพาดพิงถึงการที่ผู้เล่นในทีมมีส่วนในการทำให้บัลเบร์เดโดนปลด พร้อมข้อความว่า “ด้วยความสัตย์จริง ผมไม่ชอบที่จะทำอะไรแบบนี้ แต่ผมคิดว่าทุกคนจำเป็นจะต้องมีความรับผิดชอบในงานและการตัดสินใจของตัวเอง
“นักฟุตบอล (มีความรับผิดชอบ) ต่อสิ่งที่เกิดในสนาม และเราก็เป็นคนกลุ่มแรกที่ยอมรับในเวลาที่เราทำได้ไม่ดีพอ ส่วนหัวหน้าฝ่ายกีฬาก็จำเป็นจะต้องรับผิดชอบในส่วนของพวกเขาเช่นกัน และเหนืออื่นใด มันเป็นการตัดสินใจที่พวกเขาเลือกเอง
“และสุดท้ายเวลาที่พูดถึงผู้เล่นในทีม คุณควรที่จะระบุชื่อไปเลย เพราะไม่เช่นนั้นก็เหมือนทำให้เราทุกคนแปดเปื้อน มันคือการแสดงความคิดเห็นในสิ่งที่ถูกสร้างขึ้น และไม่ได้เป็นความจริงเลย”
เมสซีและอบิดัลเคยเป็นเพื่อนร่วมทีมที่ดีต่อกัน
อบิดัลผู้ยืนอยู่บนเส้นด้ายบางๆ
แม้จะเป็นอดีตผู้เล่นและเคยเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ได้รับกำลังใจมากที่สุดของสโมสร หลังถูกตรวจพบว่าเป็นมะเร็งตับเมื่อปี 2011 แต่ก็สู้จนสามารถกลับมาลงสนามได้ ก่อนจะย้ายออกไปโมนาโกในปี 2013 และกลับมาบาร์เซโลนาอีกครั้งในบทบาทผู้อำนวยการสโมสรเมื่อปี 2018 แต่ดูเหมือนอนาคตของดาวเตะชาวฝรั่งเศสกำลังตกที่นั่งลำบาก
อบิดัลถูกมองว่าเป็นหนึ่งในคนที่มีส่วนทำให้สโมสรประสบปัญหา โดยเฉพาะในการหาผู้เล่นเข้ามาเสริมทีม ตั้งแต่ในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมาที่มีข่าวว่าบาร์ซาพยายามดึงตัว เนย์มาร์ จูเนียร์ สตาร์ทีมชาติบราซิลกลับมาร่วมทีมอีกครั้ง ซึ่งเป็นความต้องการของเมสซี ซึ่งเป็นนักเตะผู้ทรงอิทธิพลของทีมที่อยากเล่นร่วมกันอีกครั้ง
แต่ความพยายามของบาร์ซาไม่ประสบความสำเร็จ เนย์มาร์ต้องอยู่กับปารีส แซงต์ แชร์กแมง ต่อไป ทำให้เมสซีไม่พอใจอย่างมาก และมีการพูดกระทบว่า “ผมไม่รู้ว่าพวกเขาได้พยายามทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้หรือยัง” ซึ่งนอกจากในรายของดาวเตะชาวแซมบ้าแล้ว บาร์เซโลนายังล้มเหลวในการหากองหน้าเข้ามาเสริมทัพด้วย
จนถึงช่วงของตลาดการซื้อขายในรอบเดือนมกราคมที่ผ่านมา อบิดัลยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องของกระบวนการเฟ้นหาโค้ชคนใหม่ที่ขาดความเป็นมืออาชีพ ปฏิบัติต่อโค้ชคนเก่าอย่างบัลเบร์เดโดยไม่ให้เกียรติ และสุดท้ายยังล้มเหลวในการกล่อมให้ชาบี ตำนานสโมสร กลับมารับงานในคัมป์นูอีกครั้ง
นอกจากนี้ยังมีกรณีที่อบิดัลไม่สามารถหากองหน้าเข้ามาเสริมทีมได้แม้แต่รายเดียว ทั้งๆ ที่สโมสรกำลังประสบปัญหาอย่างหนักจากการบาดเจ็บของ หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าคู่หูของเมสซีที่บาดเจ็บรุนแรงจนต้องพักการเล่นร่วม 4 เดือน ซึ่งในช่วงก่อนตลาดการซื้อขายปิด บาร์ซามีข่าวกับนักเตะหลายราย โดยเฉพาะกับ โรดริโก กองหน้าบาเลนเซีย แต่สุดท้ายก็ล้มเหลวทั้งหมด และยังปล่อยกองหน้าสำรองอย่าง คาร์ลอส เปเรซ และอาเบล รุยซ์ ไปเพราะคิดว่าจะเป็นการระดมทุนด้วย
กีเก้ เซเตียน กำลังทำให้ผู้เล่นบาร์เซโลนาไม่พอใจเพราะซ้อมหนักเกินไป?
เซเตียนกับสัญญาณอันตรายครั้งแรก
นอกจากปัญหาระหว่างผู้เล่นกับฝ่ายบริหารแล้ว สถานการณ์ในทีมบาร์เซโลนายังวิกฤตมากขึ้นอีก เมื่อมีข่าวว่าผู้เล่นภายในทีมไม่พอใจกับการทำงานของ กีเก้ เซเตียน โค้ชคนปัจจุบัน จากการที่จัดโปรแกรมฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วงจนทำให้สภาพร่างกายของผู้เล่นเริ่มมีปัญหา
โดย ESPN เปิดเผยคำกล่าวของแหล่งข่าวใกล้ชิดว่านักเตะบาร์ซาไม่ชื่นชอบเซเตียนเท่าไรนัก “รูปแบบการฝึกซ้อมแตกต่างออกไป บางแบบฝึกก็เข้มข้นกว่าเดิม นักเตะรู้สึกอ่อนล้ามากกว่าเดิม และนั่นทำให้พวกเขาเริ่มมีอาการบาดเจ็บ”
หนึ่งในผู้เล่นที่มีปัญหาคือเมสซี ซึ่งมีอาการบาดเจ็บ แต่จำเป็นต้องฝืนลงสนามเพื่อช่วยทีม เนื่องจากบาร์เซโลนาประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายราย โดยเฉพาะในแนวรุก ซึ่งนอกจากซัวเรซ ล่าสุดยังเสีย อุสมาน เดมเบเล กองหน้าดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสที่บาดเจ็บไปอีกราย ทำให้เหลือตัวเลือกที่ใช้งานได้แค่ อองตวน กรีซมันน์ และอันซู ฟาติ กองหน้าวัย 17 ปีเท่านั้น
สำหรับสถานการณ์อันดับตารางคะแนนเวลานี้ บาร์ซาเสียจ่าฝูงให้กับเรอัล มาดริด ไปแล้ว และตามหลัง ‘ราชันชุดขาว’ อยู่ 3 คะแนนด้วยกัน โดยสัปดาห์นี้จะต้องออกไปเยือนเรอัล เบติส ทีมเก่าของเซเตียน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
