ทางการอิหร่านจับกุมผู้ที่ถูกกล่าวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการยิงเครื่องบิน Boeing 737 ของสายการบินยูเครนตกใกล้กับกรุงเตหะราน และจับกุมผู้ประท้วงอีก 30 ราย ในระหว่างปราบปรามผู้ชุมนุมที่ไม่พอใจรัฐจากเหตุความผิดพลาดที่นำไปสู่โศกนาฏกรรมทางอากาศ ซึ่งคร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือรวม 176 ราย
การประท้วงทั่วประเทศอิหร่านดำเนินมาแล้ว 4 วัน หลังทางการยอมรับว่า เป็นผู้ยิงเครื่องบินตกโดยไม่ตั้งใจ สืบเนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ ขณะที่ประชาชนจำนวนมากต่างโกรธแค้น และเดินขบวนเรียกร้องให้ อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ก้าวลงจากตำแหน่ง เพื่อรับผิดชอบ หลังอยู่ในอำนาจมานานกว่า 30 ปี
ฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน พยายามลดความเดือดดาลของประชาชน ด้วยการรับปากว่า จะสอบสวนเหตุความผิดพลาด ‘ที่ไม่อาจให้อภัย’ อย่างละเอียดถี่ถ้วน และจะนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี พร้อมขออภัยต่อประชาชน
ล่าสุดวานนี้ (14 มกราคม) โฆษกศาลยุติธรรมอิหร่านเปิดเผยว่า ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ยิงเครื่องบินตกถูกจับกุมตัวแล้ว แต่ไม่ได้เปิดเผยจำนวนหรือชื่อผู้ก่อเหตุ
นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า ตำรวจอิหร่านได้ใช้กำลังปราบปรามผู้ประท้วงที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านผู้นำประเทศ มีผู้ถูกจับกุมจำนวน 30 คน และบาดเจ็บหลายสิบคน โดยคลิปวิดีโอที่แชร์ในโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นตำรวจใช้กระบองตีผู้ประท้วง มีเลือดเปื้อนเต็มพื้นถนน และเสียงปืนดังเป็นระยะ
โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับเที่ยวบิน 752 ของสายการบิน Ukraine International Airlines เมื่อวันที่ 8 มกราคม ทำให้อิหร่านเผชิญแรงกดดันจากรัฐบาลต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะจากอังกฤษ แคนาดา และเยอรมนี เนื่องจากเหยื่อเคราะห์ร้ายส่วนหนึ่งเป็นพลเมืองของประเทศเหล่านี้
นอกจากนี้นานาชาติยังกดดันอิหร่านให้ปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ หลังมีข้อกล่าวหาว่า อิหร่านละเมิดเงื่อนไขเรื่องการจำกัดขอบเขตการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม ซึ่งอาจนำไปสู่การพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ร้ายแรง
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
