คนทำหนังไทย ที่จะทำให้ ‘คุณภาพ’ กับ ‘ความสุข’ มาอยู่ร่วมกัน
คือ ม็อตโต้ หลักใจความสำคัญของวิสูตร และวิชา ‘พี่น้อง 2 วิ’ แห่งตระกูลพูลวรลักษณ์ ที่จับมือกันเปิด TAI MAJOR ค่ายหนังน้องใหม่ ที่อยากทำให้คนได้ดูหนังไทยอย่างมีความสุข
โดยทั้งคู่นับเป็นเจเนอเรชัน 2 ที่รับไม้ต่อมาจาก ‘เจริญ-จำเริญ-เกษม-จรัล’ พูลวรลักษณ์ 4 พี่น้องที่ช่วยกันบุกเบิกธุรกิจโรงหนัง ทั้ง เมโทร, แมคเคนน่า, เพชรรามา, เซ็นจูรี่ ฯลฯ ตั้งแต่ปี 2499
วิสูตร พูลวรลักษณ์ ลูกชายของเจริญ เริ่มต้นจากการก่อตั้ง ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ในปี 2528 ค่ายหนังที่ผลิตผลงานคุณภาพทั้ง ซึมน้อยหน่อย กะล่อนมากหน่อย (2528), ฉลุย (2531), พริกขี้หนูกับหมูแฮม (2532), กลิ้งไว้ก่อน พ่อสอนไว้ (2534), 2499 อันธพาลครองเมือง (2540), นางนาก (2542), สตรีเหล็ก (2543) ฯลฯ
รวมตัวกับบริษัทจีเอ็มเอ็ม พิคเจอร์, และ หับโห้หิ้น ฟิล์ม สร้าง แฟนฉัน (2546) จนกลายเป็นหนังสุดคลาสสิก จุดกำเนิดของ GTH ค่ายหนังอารมณ์ที่พลิกโฉมวงการหนังอีกครั้ง
ในปี 2559 วิสูตรแยกตัวออกมาจับมือกับ บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) เปิดค่ายหนัง T Moment และเดินเครื่องผลิตภาพยนตร์ไทยคุณภาพออกมาทั้งหมด 3 เรื่องคือ โอเวอร์ไซส์ ทลายพุง (2560), App War แอปชนแอป (2561) และ The Pool นรก 6 เมตร (2561) แต่ผลประกอบการไม่เป็นอย่างที่คิด จนต้องประกาศปิดตัวลงในวันที่ 14 สิงหาคม 2562
วิชา พูลวรลักษณ์ ลูกชายของจำเริญ เดินหน้าธุรกิจโรงหนังอย่างเต็มตัว โดยเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ฯ ในปี 2538 ผู้บุกเบิกโรงหนังระบบมัลติเพล็กซ์ (Multiplex) จนปัจจุบันมีโรงหนังในเครือทั่วประเทศ 782 โรง ครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 70% ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศไทย และตั้งเป้าขยายให้มากกว่า 1,000 โรงในปี 2563
นอกจากนี้ ยังมีบริษัทในเครือที่ทำธุรกิจเป็นทั้งผู้ผลิต และจัดจำหน่ายภาพยนตร์ทั้งไทยและต่างประเทศอย่าง M Pictures, M39, Transformation Films ฯลฯ
ค่าย TAI MAJOR นับว่าเป็นการร่วมมือกัน ‘อย่างเป็นทางการ’ ครั้งแรกของวิสูตร และวิชา หลังเป็นหัวหอกสำคัญในการพัฒนาวงการภาพยนตร์ในแบบที่ตัวเองถนัดมาตลอดระยะเวลาหลายสิบปี
ซึ่งต้องรอดูกันต่อไปว่า พลังของภาพยนตร์จากฝั่งวิสูตร และพลังของโรงภาพยนตร์ของวิชา จะทำให้วงการหนังไทยคึกคักขึ้นมา รวมทั้งจะสร้าง ‘ความสุข’ ในการดูหนังให้กับคนไทยได้ตามที่พูดเอาไว้ขนาดไหน
เราจะได้รู้คำตอบกันภายในปีนี้
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
