สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและสหรัฐอเมริกายังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากสหรัฐฯ สังหารผู้บัญชาการของอิหร่าน รวมถึงส่งทหารจำนวน 3,000 นาย ลงพื้นที่ตะวันออกกลาง ในขณะที่ผู้นำสูงสุดของอิหร่านประกาศแก้แค้นสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้การสังหารครั้งนี้
เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2562 มีขบวนแห่ศพ พลตรี กัสเซม โซเลมานี ผู้บัญชาการคนสำคัญของอิหร่าน ในกรุงแบกแดด อิรัก เพื่อพาร่างกลับสู่อิหร่าน รวมถึงพิธีศพของอาบู มาห์ดี อัล-มูฮันดีส์ ผู้บัญชาการกลุ่มติดอาวุธ Popular Mobilisation Forces (PMF) ของอิรัก
อย่างไรก็ตาม เกิดเหตุระเบิดขึ้นหลายจุดในพื้นที่ของอิรัก เช่น เขต Jadria, พื้นที่เมืองของอิรัก และจรวดสองลำพุ่งชนฐานทัพอากาศบาลาด (Balad Air Base) ซึ่งไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตในเหตุการณ์นี้
ล่าสุด โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ลงข้อความบน Twitter ส่วนตัวว่า สหรัฐฯ เล็งเป้าหมาย 52 พื้นที่ในอิหร่าน ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญของอิหร่าน ทั้งด้านวัฒนธรรม และด้านอื่นๆ โดยทรัมป์ประกาศว่าพร้อมจะโจมตีอย่างรวดเร็วและรุนแรง หากฝั่งอิหร่านสร้างความเสียหายแก่พลเมืองหรือทรัพย์สินของสหรัฐฯ ทั้งนี้จำนวนพื้นที่ 52 แห่ง สอดคล้องกับจำนวนพลเมืองสหรัฐฯ ที่เคยถูกคุมขังเป็นตัวประกันอยู่ในอิหร่าน เมื่อครั้งกลุ่มปฏิวัติอิหร่านได้บุกยึดสถานทูตสหรัฐอเมริกา ประจำอิหร่าน ในกรุงเตหะราน เมื่อปี 2522
ภาพ: Getty Images
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
