หากชัยชนะของทีมรักในวันขึ้นปีใหม่คือของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับแฟนบอลแล้ว ในวันขึ้นปีใหม่ที่ผ่านมาไม่น่าจะมีแฟนบอลทีมไหนที่มีความสุขมากไปกว่าแฟนทีม “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล แล้วครับ
ชัยชนะเหนืออดีตคู่ปรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นชัยชนะนัดแรกภายใต้การคุมทีมของมิเกล อาร์เตตา ก็จริง แต่สิ่งที่พวกเขาได้เห็นจาก 90 นาทีในสนามเอมิเรตส์ สเตเดียม นั้นมีเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นมากกว่านั้นมากมายนัก
นิโกลาส์ เปเป กับการฉายแสงอย่างเป็นทางการครั้งแรกในฐานะความหวังใหม่ตัวจริงของสโมสร
เกมรับที่ไม่เสียประตูง่ายๆ อีก
ไปจนถึงสถิติการวิ่งมากที่สุดในสนามของ เมซุต โอซิล นักเตะที่ถูกมองว่าขี้เกียจมากที่สุดคนหนึ่งของสโมสร
สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ชวนให้รู้สึกได้ครับว่าหลังช่วงเวลาที่เมฆหมอกปกคลุมในความรู้สึกของเหล่ากูนเนอร์มาอย่างยาวนาน ในที่สุดแสงของความหวังก็ได้กลับมาอีกครั้ง
แต่แน่นอนครับว่าเวลานี้มันยังเร็วเกินที่จะสรุปว่าทุกอย่างจะกลับมาดีแล้วจริงๆ เพียงแต่จากสิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ มันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมประทับใจในการทำงานของอาร์เตตา ที่จัดการหลายอย่างได้ดีอย่างเหลือเชื่อ ทั้งๆ ที่เป็นโค้ชระดับ Novice หรือไม่เคยมีประสบการณ์ในการทำงานคุมทีมชุดใหญ่มาก่อน
1. แก้ปัญหาด้วยตัวปัญหา
หากติดตามสถานการณ์ภายในทีมอาร์เซนอลจะพอทราบว่าพวกเขามีปัญหาอยู่หลากหลายและค่อนข้างหนักไม่น้อย โดยเฉพาะในเรื่องของผู้เล่นระดับสตาร์หลายๆ คน
ไม่ว่าจะเป็นเจ้าประจำอย่าง เมซุต โอซิล เพลย์เมกเกอร์หมายเลขหนึ่งของทีมที่ผลงานตกต่ำลงอย่างน่าใจหาย และยังดูขาดความกระตือรือร้น, กรานิต ชากา อดีตกัปตันทีมที่มีปัญหากับแฟนบอลจนโดนริบปลอกแขนกัปตัน, นิโกลาส์ เปเป สตาร์ค่าตัวแพงระยับที่เล่นได้สลึงเดียวของค่าตัวที่จ่าย และ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ดาวยิงเบอร์หนึ่ง ที่ไม่พอใจกับสถานการณ์ภายในทีมจนคิดที่จะทิ้งทีมเอาไว้เบื้องหลัง
ปัญหามะรุมมะตุ้มขนาดนี้ หลายคนอาจปวดหัวในการจะหาทางแก้ แต่สิ่งที่อาร์เตตาทำคือการปรับมุมมองต่อปัญหาใหม่ทั้งหมด
วิธีที่กุนซือคนหนุ่มคนนี้ทำคือการมองตัวปัญหาในทีมเหล่านี้ว่าไม่ใช่ตัวปัญหาแต่เป็นตัวแก้ปัญหา
แทนที่จะผลักไสคนที่มีปัญหาออกไป อาร์เตตากลับดึงทุกคนกลับเข้ามาอีกครั้งและบอกว่าพวกเขาไม่ใช่ปัญหา
โอซิลไม่ขยันเหรอ? ส่งลงตัวจริงและพยายามกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง, เปเป ยิงไม่ได้? เขาจะกลับมาคืนฟอร์มเร็วๆ นี้, ชากาแฟนไม่รัก? เขาคือนักเตะที่ยอดเยี่ยมและอนาคตของเขาอยู่กับอาร์เซนอล, โอบาเมยองอยากย้ายทีม? ผมต้องการให้เขาอยู่กับเราต่อไป
สิ่งเหล่านี้อาร์เตตาไม่ได้แค่พูด แต่เขาทำจริง และความจริงใจของเขาค่อยๆ ชนะใจนักเตะระดับสตาร์เหล่านี้ได้
เพราะเขารู้ว่าเมื่อสตาร์เหล่านี้เริ่มคืนฟอร์ม ทุกอย่างก็จะค่อยๆ กลับมาดีเอง
2. ความสัมพันธ์ที่สำคัญ
นอกจากเรื่องในสนามแล้ว อีกเรื่องสำคัญที่อาร์เตตารู้ว่าเขาต้องจัดการอย่างเร่งด่วนคือ การฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างแฟนบอลกับสโมสรอีกครั้ง
ในเกมแรกที่เขาคุมทีมพบบอร์นมัธ ถึงวันนั้นจะไม่ชนะแต่อย่างน้อยก็ไม่แพ้ ซึ่งในเกมนั้นหลังตีเสมอได้ โอบาเมยองได้เข้าไปฉลองประตูร่วมกับแฟนๆ และหลังสิ้นเสียงนกหวีด อาร์เตตาได้นำนักเตะไปขอบคุณแฟนบอลที่มาให้กำลังใจในสนาม หลังความสัมพันธ์ระหว่างทีมและแฟนบอลเป็นไปอย่างเลวร้าย ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากผลงานที่เลวร้ายตลอดเวลาที่ผ่านมา
“หวังว่าเราจะเปลี่ยนแปลงมันได้ สิ่งแรกที่ผมต้องทำคือการทำให้ผู้เล่นเชื่อมั่นในตัวผมให้ได้ และจากนั้นเราก็จะสามารถทำให้แฟนๆ เชื่อเราได้อีกครั้ง ผมคิดว่ามันเป็นงานที่สำคัญมากในงานของผม พวกเขาคาดหวังสิ่งที่ดีกว่านี้มากจากเรา เราจำเป็นต้องทำให้พวกเขาสนุก เราต้องทำให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้น และถ้าเราชนะ ทุกอย่างจะดีขึ้นกว่านี้ เพราะพวกเขาจะมีความสุขขึ้น มันเป็นความรับผิดชอบของเรา และเราจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อทำมันให้สำเร็จให้ได้” คำพูดของอาร์เตตา หลังจบเกมกับบอร์นมัธ
สิ่งที่อาร์เตตาทำ คล้ายกับสิ่งที่ เจอร์เกน คล็อปป์ ทำกับแฟนบอลเดอะค็อป ของลิเวอร์พูล ซึ่งครั้งหนึ่งหมดความเชื่อมั่นในทีม และพากันเดินออกจากสนามก่อนหมดเวลา จนสุดท้ายผู้จัดการทีมชาวเยอรมันตัดสินใจที่จะฟื้นความสัมพันธ์ของนักเตะและแฟนบอลเข้าด้วยกัน และเป็นการเริ่มต้นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ของลิเวอร์พูลในเวลานี้
และจาก ‘เสียง’ ที่ได้ยินหลังจบเกมกับยูไนเต็ด ดูเหมือนความพยายามของอาร์เตตาจะได้ผลตอบรับที่ดีทีเดียวครับ
3. ความตั้งใจอยู่ในแววตา
สำหรับโค้ชคนอื่นหากเริ่มต้นการทำงานด้วยการต้องไล่ตามตีเสมอทีมที่สถานะด้อยกว่าอย่างบอร์นมัธ ถูกคู่ปรับร่วมเมืองลอนดอนไล่แซงเอาชนะได้แบบเจ็บปวดทั้งที่ออกนำไปก่อน นั่นหมายถึงชีวิตอาจกำลังตกอยู่ในปัญหาแล้ว
แต่สำหรับอาร์เตตา เขาไม่มีอะไรต้องกังวลใจ เพราะสิ่งที่ได้เห็นจากทีมนั้นมี ‘คำตอบ’ ที่เขาต้องการอยู่ในนั้น
เป็นเวลานานที่อาร์เซนอลเล่นเหมือนคนไม่มีหัวใจ หรือหากจะมีหัวใจพวกเขาก็ใจเล็กเกินไป ไม่มีระเบียบ ไม่มีวินัย เปราะบาง และอ่อนแอ
แต่ในเกมกับบอร์นมัธ และเชลซี ถึงจะมีความบกพร่องที่ชัดเจน แต่เราค่อยๆ ได้เห็นอาร์เซนอล ที่กลับมาเล่นแบบคนมีหัวใจอีกครั้ง นักเตะในทีมเล่นกันด้วยความตั้งใจทุกคน และความตั้งใจนั้นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จนนำไปสู่ชัยชนะนัดแรกในเกมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
นักเตะที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุดคือคนที่อาร์เตตา หวังให้เขาเป็นศูนย์กลางของทีมอย่างโอซิล
ก่อนหน้านี้โอซิล เป็นนักเตะที่มีปัญหากับโค้ชคนอื่นมาโดยตลอด ตั้งแต่ในช่วงปลายยุคของ อาร์เซน เวนเกอร์ มาจนถึงการแตกหักกับ อูไน เอเมรี และแม้กระทั่งกับโค้ชที่รักษาการชั่วคราวอย่าง เฟรดริก ลุงเบิร์ก ก็ออกมาด่าว่าอย่างสาดเสียเทเสียถึงความตั้งใจที่ไม่เหลืออยู่ของโอซิล
อาร์เตตา สามารถปลุกโอซิลให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ในเกมกับยูไนเต็ด เขาลงเล่นเต็ม 90 นาที ทำระยะทางวิ่งมากที่สุดในสนาม 7.2 ไมล์ ผ่านบอลสำเร็จมากที่สุด 42 จาก 49 ครั้งโดยที่ 7 ครั้งในนั้นเป็นการจ่าย ‘คิลเลอร์พาส’ ในพื้นที่สุดท้าย
ไม่จำเป็นต้องเป็นนักวิเคราะห์ก็มองออกว่าโอซิล กำลังมีความสุขกับการเล่นอีกครั้ง
ความตั้งใจที่อยู่ในแววตาของเขามันบ่งบอกอย่างชัดเจน และถ้านักเตะที่หมดไฟไปแล้วอย่างโอซิลยังกลับมาได้ คนอื่นก็ไม่ใช่ปัญหา
4. ล้างสมองด้วยไอเดียใหม่
ถึงจะไม่เคยมีประสบการณ์ในการทำทีมชุดใหญ่มาก่อน แต่จุดแข็งที่สุดของอาร์เตตา ในฐานะคนเคยเป็นมือขวาของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา คือการที่เขาเป็นคนที่มีไอเดียสดใหม่ในการนำฝึกซ้อม และเขารู้ว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการในสนาม
ว่ากันว่าก่อนเกมกับยูไนเต็ด การลงซ้อมอบอุ่นร่างกายในช่วงก่อนที่เกมจะเริ่มต้นที่เอมิเรตส์ สเตเดียม ของนักเตะอาร์เซนอล สร้างความบันเทิงให้แก่แฟนบอลที่ได้เห็นอย่างมาก ชนิดที่ว่าหากทุกอย่างยังดำเนินต่อไปแบบนี้แฟนบอลกันเนอร์สน่าจะอยากเข้ามาสนามเร็วกว่าที่ผ่านมา เพราะไม่เช่นนั้นจะพลาดช่วงของการซ้อมอบอุ่นร่างกายที่น่าตื่นเต้นไป
ดาวิด ลุยซ์ และ โซคราติส สองเซ็นเตอร์ฮาล์ฟลงซ้อมผ่านบอลที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถออกบอลจากแดนหลังได้อย่างไหลลื่น ขณะที่ผู้เล่นที่เหลืออีก 8 คนต่างแยกกันไปซ้อม โดยมีการแบ่งแถวผู้เล่นออกเป็น 2 แถว
แถวแรกประกอบไปด้วย กรานิต ชากา, ลูกัส ตอร์เรยรา และ เอนส์ลีย์ เมตแลนด์ ไนล์ส
แถวที่สองประกอบไปด้วย เซอัด โคลาซินัช, โอบาเมยอง, โอซิล, เปเป และ อเล็กซองด์ ลากาแซตต์
สิ่งที่ทำกันในช่วงอบอุ่นร่างกาย คือการที่โค้ชจะไหลบอลให้นักเตะแถวแรกที่จะยืนลึกกว่า และจากนั้นพวกเขาก็จะจ่ายให้กับลากาแซตต์ หรือโอซิล ที่จะดรอปตัวเองลงมาเพื่อรับบอล และสร้างพื้นที่โดยที่ โคลาซินัช, โอบาเมยอง และเปเป จะขยับขึ้นหน้ากัน โดยจะมีเพียงโคลาซินัช ที่จะไปถึงสุดเส้น ส่วนโอบาเมยอง และเปเป จะขยับเข้าเขตโทษ
การซ้อมแบบนี้คือการซ้อมเซตบอลพื้นฐาน การวิ่งขึ้นหน้า การจ่ายขึ้นหน้า ซึ่งในความจริงแล้วเป็นสิ่งที่อาร์เซนอลขาดมานาน สิ่งนั้นก็คือ ‘รูปแบบการเล่น’
สิ่งที่เราได้เห็นในช่วงการอบอุ่นร่างกายนั้นเป็นแค่น้ำจิ้มครับ เพราะในความจริงแล้วสิ่งเหล่านี้จะถูกติวเข้มอย่างหนักก่อนจะถึงวันแข่งขัน ซึ่งอาร์เตตาเป็นคนที่เชื่อมั่นในเรื่องของการฝึกซ้อมหนัก เหมือนที่ครั้งหนึ่งเคยบอกว่า
“ฟุตบอลเป็นเรื่องของพฤติกรรมและมุมมอง มันจะเป็นเรื่องพื้นฐานมากสำหรับผู้เล่น ถ้าสามารถจินตนาการออกได้ว่า เพื่อนร่วมทีมจะอยู่ตรงไหนก่อนจะรับบอล”
อย่างไรก็ดี ถึงช่วงของการอบอุ่นร่างกายจะเป็นแค่น้ำจิ้ม แต่มันก็เป็นการ ‘ย้ำ’ ให้นักเตะอาร์เซนอลเห็นภาพเหล่านี้ในหัวก่อนลงสนาม และนำไปสู่ผลงานที่ดีในที่สุด
นอกจากสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว อาร์เตตายังทำอีกหลายอย่างที่ดูเหมือนจะเล็กๆ น้อยๆ แต่เป็นรายละเอียดที่สำคัญที่เขาไม่เคยมองข้ามครับ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องของการเปลี่ยนตัวผู้เล่นที่ต้องดึงจังหวะเวลาจนถึงนาทีที่เหมาะสมจริงๆ ถึงจะเปลี่ยนตัวออกจากสนาม ไม่ให้พลาดเหมือนในเกมกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่โคลาซินัช ออกจากสนามก่อนจะเปลี่ยนตัว ทำให้สุดท้ายนำไปสู่การเสียประตูของทีม
และอย่างที่บอกข้างต้นครับว่า ตอนนี้มันยังเร็วเกินกว่าจะพูดได้ว่าอาร์เซนอลจะกลับมาเป็นอาร์เซนอลที่เราเคยรู้จักกันจริงๆ หนทางนั้นยาวไกลอย่างมาก อาร์เตตายังมีสิ่งที่ต้องทำอีกเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด
แต่อย่างน้อยรอยยิ้มก็เริ่มกลับมาบ้างแล้ว และที่สำคัญที่สุดคือชีวิตชีวาที่กลับมาในทีมกันเนอร์ส
ส่วนตัวผมถึงจะไม่เชื่อมือเขามากนัก ด้วยอคติประสาคนผ่านชีวิตลูกหนังมานาน แต่ก็อดรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้ เมื่อได้เห็นเขาและสิ่งที่ทำในช่วงไม่ถึง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
มันมีความรู้สึกเหมือนเห็นภาพซ้อนของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา และ เจอร์เกน คล็อปป์ อยู่ในคนเดียวกัน
ไม่รู้ว่าตาฝาดไปเองหรือเปล่า (อายุเริ่มมากแล้ว) คงต้องให้เวลาช่วยทำให้ทุกอย่างกระจ่างขึ้นครับ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์