ในวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งโลกได้ตกอยู่ในภวังค์หลังจากเกิดเหตุการณ์ระเบิดที่คอนเสิร์ต Dangerous Woman Tour ของนักร้องสาวอารีอานา กรานเด (Ariana Grande) ที่ Manchester Arena เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งส่งผลให้มีคนเสียชีวิต 23 รายและบาดเจ็บอีกนับร้อย

     4 วันต่อมาอารีอานาประกาศว่า เธอจะกลับไปเยือนแมนเชสเตอร์อีกครั้ง เพื่อไปเยี่ยมแฟนเพลงที่ได้รับบาดเจ็บ และจัดคอนเสิร์ตการกุศลในชื่อว่า One Love Manchester ที่เธอและผู้จัดการ สกู๊ตเตอร์ เบราน์ (Scooter Braun) เป็นคนดำเนินการเองทั้งหมด รวมถึงการติดต่อศิลปิน

    “We will not quit or operate in fear.

We won’t let this divide us. We won’t let hate win.”

– Ariana Grande

     เมื่อคืนที่ผ่านมา คอนเสิร์ต One Love Manchester ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่สำหรับวงการดนตรี เทียบเท่ากับคอนเสิร์ตการกุศลอย่าง Live Aid ในปี 1985 ที่จัดเพื่อปัญหาทุพภิกขภัยในประเทศเอธิโอเปีย ซึ่งทำให้เห็นถึงพลังของดนตรีที่นำคนมารวมกันโดยปราศจากเรื่องเชื้อชาติและศาสนา และที่สำคัญ พลังดนตรีจะเอาชนะความเกลียดชังได้

     THE STANDARD ได้รวบรวมข้อมูลและเหตุการณ์สำคัญต่างๆ จากคอนเสิร์ตเมื่อคืนให้ได้อ่านกันที่นี่

อารีอานาเยี่ยมแฟนเพลงที่โรงพยาบาล (@arianagrande)

 

ป้ายที่ผู้ชมได้ถือเพื่อรำลึกถึงแฟนเพลงที่เสียชีวิต

 

ผู้ชมข้างนอกคอนเสิร์ต

 

สถานที่จัดงาน

     คอนเสิร์ตครั้งนี้จัดที่สนามกีฬา Emirates Old Trafford ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ รองรับได้ราว 50,000 คน และอยู่ห่างจาก Manchester Arena สถานที่เกิดเหตุระเบิดประมาณ 20 นาที

 

50,000 คนที่มาชมคอนเสิร์ต ณ สนามกีฬา Emirates Old Trafford

 

ตั๋วคอนเสิร์ต

     คอนเสิร์ต One Love Manchester เปิดขายตั๋วเข้าชมวันแรก 1 มิถุนายน ตั๋วราคาใบละ 40 ปอนด์ ขายหมดภายใน 6 นาที โดยทางผู้จัดได้แยกตั๋วออกมา 14,200 ใบ เพื่อแจกให้คนที่ไปดูคอนเสิร์ตอารีอานาในวันเกิดเหตุระเบิดฟรี แต่ก็มีปัญหาเกิดขึ้นหลังจากมีตั๋วปลอมระบาดออกมามากกว่า 10,000 ใบ และยังมีคนเอาตั๋วจริงๆ ไปอัพราคาขายต่อบน eBay อีกด้วย

 

ไลน์อัพศิลปิน

     นักร้องที่ตอบรับมาแสดงคอนเสิร์ตนี้มีทั้ง Coldplay, Katy Perry, Miley Cyrus, Niall Horan, Little Mix, Take That, Robbie Williams, Black Eyed Peas และ Justin Bieber เป็นต้น (จัสตินใช้ผู้จัดการคนเดียวกันกับอารีอานา) โดยศิลปินทุกคนที่มาคอนเสิร์ตนี้ต่างมาให้ฟรีและจ่ายค่าเดินทางเองหมดทุกบาททุกสตางค์

 

Take That และอารีอานา กรานเด (Facebook: Gary Barlow)

 

Miley Cyrus (Facebook: Miley Cyrus)

 

ไฮไลต์พิเศษ

     – คอนเสิร์ตเปิดด้วยนักร้อง มาร์คัส มัมฟอร์ด (Marcus Mumford) แห่งวง Mumford & Sons กับเพลง Timshel ซึ่งมาร์คัสได้กลับมาเล่นกีตาร์ให้กับฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ (Pharrell Williams) ในเพลง Get Lucky อีกด้วย

     – หนึ่งในแฟนเพลงที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิดคือสาววัย 15 ปี ชื่อโอลีเวีย แคมป์เบล (Olivia Campbell) ซึ่งพออารีอานาได้ไปเยี่ยมคุณแม่ของโอลีเวีย เธอบอกว่าถ้าโอลีเวียยังอยู่คงต้องอยากฟังแต่เพลงฮิตๆ สนุกๆ อารีอานาเลยตัดสินใจเปลี่ยนเซตลิสต์เพลง และเพิ่มเพลงอย่าง Side to Side เข้าไปด้วย

     – Coldplay คัฟเวอร์เพลง Don’t Look Back in Anger ของ Oasis ร้องกับอารีอานา ซึ่งเป็นเพลงที่คนในแมนเชสเตอร์ได้ร่วมกันร้องที่ St Ann’s Square ก่อนหน้านี้หลังเหตุการณ์ระเบิดเพื่อรำลึกถึงคนที่เสียชีวิตไป

 

 

 

     – ถึงจะเคยไม่กินเส้นกันเท่าไร แต่คริส มาร์ติน (Chris Martin) ก็จับมือกับเลียม แกลลาเกอร์ (Liam Gallagher) ร่วมร้องเพลงสุดคลาสสิกอย่าง Live Forever (อัลบั้ม Definitely Maybe ของวง Oasis) เป็นปรากฏการณ์ที่หายากและกำลังจะกลายเป็นคลิปประวัติศาสตร์

     – คอนเสิร์ตจบด้วยอารีอานาร้องเพลง Somewhere Over the Rainbow

 

โชว์การแสดง

     ตลอดเกือบ 5 ชั่วโมงของคอนเสิร์ตนี้ เราได้ชมการแสดงหลากหลายแนว ซึ่งนี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง หากใครอยากดูแบบเต็มๆ สามารถดูได้ที่ช่อง BBC Music ใน YouTube หรือผ่านทางเพจ Ariana Grande ซึ่งเปิดรับบริจาคเงินระหว่างการไลฟ์เฟซบุ๊กคอนเสิร์ตด้วย

 

 
 

 

 

 

 

 

 

เงินสมทบทุน

     สำหรับเงินทั้งหมดที่ได้มาจากคอนเสิร์ตนี้จะนำเข้าสมทบทุนกองทุน We Love Manchester Emergency Fund เพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์โดยไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆ เงินจะมาจากการขายบัตรคอนเสิร์ต การดาวน์โหลดเพลง One Last Time ของอารีอานาใน Apple Music และค่าบริการการนั่งรถ Uber ไป-กลับจากคอนเสิร์ตที่ทาง Uber จะบริจาคทั้งหมด ส่วนทางต้นสังกัดของอารีอานาอย่าง Universal Music Group ก็ได้บริจาคเงินให้ 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับกองทุนนี้ด้วย

 

แฟนเพลงที่มารอชมคอนเสิร์ต

 

     สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมในการบริจาคเงินสามารถเข้าไปอ่านได้ที่ www.onelovemanchester.com

 

การรักษาความปลอดภัย

     ประเด็นหนึ่งที่หลายคนได้สงสัยคือ มาตรการการรักษาความปลอดภัยของคอนเสิร์ตนี้ที่จะมีผู้ชมมากกว่า 50,000 คน โดยทางหน่วยตำรวจท้องถิ่น Greater Manchester Police ของเมืองแมนเชสเตอร์ได้เพิ่มกำลังจากอีกหลายหน่วยรักษาความปลอดภัยจากเมืองใกล้เคียง และมีการเพิ่มจุดตรวจในรอบบริเวณงานอีกด้วย

 

ตำรวจรักษาความปลอดภัยที่คอนเสิร์ต

 

การถ่ายทอดสด

     คอนเสิร์ตการกุศลในครั้งนี้ถึงแม้จะมีเวลาเตรียมงานไม่ถึง 10 วัน แต่ก็มีการถ่ายทอดสดแบบครบสมบูรณ์แบบ 360 องศาบนทุกแพลตฟอร์ม ตั้งแต่ทีวีช่อง BBC ในอังกฤษ, ช่อง ABC ในอเมริกา, ช่อง MTV, คลื่นวิทยุ iHeartRadio ในอเมริกา, YouTube, Facebook, Apple Music และ Twitter เป็นต้น

 

รายชื่อสื่อที่ถ่ายทอดสดคอนเสิร์ตนี้

 

แฟนเพลงที่มาชมคอนเสิร์ต