วันนี้ (16 ธันวาคม) ธนวัฒน์ วงค์ไชย ผู้จัดงาน วิ่งไล่ลุง นำกลุ่มแนวร่วมสมาพันธ์ผู้จัดงานวิ่งไล่ลุง เพื่อประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชนแห่งประเทศไทย แถลงข่าวจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
ธนวัฒน์กล่าวว่า เราขอตั้งคำถามไปยังผู้มีอำนาจว่า เหตุใดถึงถูกยกเลิกการแถลงข่าวถึง 2 ครั้ง สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่าประเทศไทยปกครองด้วยระบอบเผด็จการซ่อนรูปโดยมีประชาธิปไตยบังหน้า
พร้อมขอยืนยันว่างานวิ่งครั้งนี้ไม่ใช่ม็อบและสามารถจัดได้ตามสิทธิขั้นพื้นฐานที่รัฐกำหนดไว้ ส่วนของ พ.ร.บ. ชุมนุมสาธารณะนั้น ยืนยันว่างานมหรสพรายงานกีฬาไม่จำเป็นต้องแจ้งเจ้าหน้าที่
อย่างไรก็ตาม ผู้จัดงานได้ขออนุญาตการใช้เส้นทางวิ่งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วแต่จนถึงตอนนี้ผ่านไป 2 สัปดาห์ก็ยังไม่ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงอยากถามว่าเป็นงานนี้เพียงงานเดียวหรือไม่ที่ถูกจับตาจากผู้มีอำนาจ ทั้งที่งานเดินตามลุงหรืองานวิ่งเพื่อแผ่นดินก็เป็นงานการเมืองเช่นกัน
เมื่อถามว่าหากเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตทางผู้จัดจะดำเนินการอย่างไร
ธนวัฒน์ยืนยันว่า อย่างไรก็ต้องจัดงานนี้ และงานนี้จะต้องมีขึ้นในวันที่ 12 มกราคม 2563 เพราะถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน และขอยืนยันว่างานนี้ไม่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคการเมืองหรือนักการเมืองคนใด เพราะเงินที่จัดงานทุกบาทเกิดจากการสนับสนุนของนิสิตนักศึกษาและโลกออนไลน์ รวมไปถึงเงินที่ขายของที่ระลึกในงานที่ได้จากประชาชน
นอกจากนี้เรายังได้ส่งบัตรเชิญไปยังพรรคการเมืองทุกพรรคทั้งพรรคฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาล รวมทั้ง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้มาฟังเสียงของประชาชนที่ท่านไม่เคยได้ยิน เพราะเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรัฐบาล 5 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ทางกลุ่มตั้งเป้าว่าจะมีผู้มาร่วมกิจกรรมประมาณ 2,000 คน
สำหรับรายละเอียดของการจัดงานวิ่งไล่ลุง ประชาชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนในเพจ ‘วิ่งไล่ลุง’ ซึ่งผู้ที่ลงทะเบียนจ่ายเงิน 650 บาท จะได้รับเสื้อวิ่ง เหรียญสัญลักษณ์ปราบกบฏ และสติกเกอร์งาน ส่วนคนที่ไม่ได้วิ่งสามารถสั่งเสื้อวิ่งได้ผ่านเพจวิ่งไล่ลุง
นอกจากนี้ทางกลุ่มยังมีกิจกรรมพิเศษสำหรับผู้ที่เคยชุมนุมกับ กปปส. หากท่านนำภาพถ่ายที่มีสัญลักษณ์กับ กปปส. ทั้งนกหวีด ธงชาติ รูปภาพสมัยไปชุมนุม สามารถนำมาโชว์ได้ที่งานและจะได้รับ ‘เหรียญปราบกบฏ’ ได้ทันที
สำหรับข้อเรียกร้องในการวิ่งไล่ลุงครั้งนี้มี 3 เรื่องใหญ่ด้วยกัน คือ 1. เรื่องของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ขอให้รัฐบาลทำตามสัญญาที่เคยหาเสียงไว้ ทั้งการขึ้นค่าแรง การปรับเงินเดือนขั้นต่ำของผู้จบปริญญาตรีและการเพิ่มราคาสินค้าเกษตร โดยให้ระยะเวลารัฐบาล 3 เดือน
2. ขอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามประชาธิปไตย และปลดล็อกสิทธิเสรีภาพให้กับประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรี
และ 3. ท้ายที่สุดขอให้หยุดใช้อำนาจเอื้อประโยชน์ให้แก่พวกพ้องและหยุดรังแกผู้ที่เห็นต่าง ซึ่งข้อ 2-3 ขอให้รัฐบาลดำเนินการทำทันที โดยไม่มีการรีรอ ทั้งนี้หากรัฐบาลไม่ดำเนินการทางกลุ่มจะยกระดับกิจกรรมให้มากกว่าการวิ่ง
สำหรับงานวิ่งไล่ลุงจะนัดรวมตัวที่สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในเวลา 04.30 น. ก่อนจะออกวิ่งในเวลา 05.30 น. วิ่งไปตามเส้นทางถนนพระอาทิตย์ ป้อมพระสุเมรุ ป้อมมหากาฬ ถนนนครสวรรค์ ถนนพะเนียง ถนนหลานหลวง มาที่สะพานผ่านฟ้า ถนนราชดำเนิน ผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยก่อนจะกลับมาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์อีกครั้ง
โดยจะเป็นการวิ่งวน 3 รอบตามทิศทางการไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิต เพื่อแสดงให้เห็นว่าเรามาวิ่งไว้อาลัยให้กับประชาธิปไตยที่กำลังจะตายลง โดยกิจกรรมวิ่งไล่ลุงจะจัดถึงเวลา 08.00 น. ระยะทางรวมประมาณ 6 กิโลเมตร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้การแถลงข่าวจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงได้แจ้งต่อสื่อมวลชนว่าจะมีการแถลงข่าวที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ แต่ได้รับแจ้งว่ายกเลิก และมาแถลงข่าวที่ลานโพธิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แทน โดยธนวัฒน์อ้างว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาทางโรงแรมถูกกดดันอย่างหนักจากผู้มีอำนาจไม่ให้ใช้สถานที่จัดแถลงข่าวงานดังกล่าว ซึ่งกิจกรรมวิ่งไล่ลุงถูกขัดขวางไม่ให้แถลงข่าวมาแล้ว 2 ครั้ง
ในขณะที่กิจกรรมวิ่งเพื่อแผ่นดินของกองทัพจัดกิจกรรมได้ปกติ ทั้งที่มีเรื่องการเมืองแฝง อีกทั้งการจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงครั้งนี้ก็เป็นงานวิ่งจริงๆ มีการใช้เส้นทางการวิ่งที่เป็นเส้นทางของกิจกรรมวิ่งที่โครงการอื่นเคยจัดมาแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับการพิจารณาจากผู้เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ระหว่างการแถลงข่าวกิจกรรมมีตำรวจนอกเครื่องแบบมาสังเกตการณ์แถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย
