ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทรนด์เมนู ‘เนื้อสัตว์ที่ทำจากพืช’ กำลังเป็นสิ่งที่เชนร้านอาหารยักษ์ใหญ่ของโลกต่างเห็นพร้อมต้องกันที่จะออกเมนูเพื่อเจาะกลุ่มผู้ทานมังสวิรัติ ตั้งแต่ Burger King ที่ได้เปิดตัว Impossible Whopper ไปยังร้านค้าทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา ตามมาติดๆ ด้วย Subway ได้ประกาศแผนการทดสอบ Beyond Meatball Marinara ในร้านอาหาร 685 แห่งในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
และที่เรียกเสียงฮือฮาได้มากที่สุดก็หนีไม่พ้น เจ้าพ่อไก่ทอด KFC ที่ได้ออกมาประกาศวางขายเมนูใหม่ Beyond Fried Chicken หรือเรียกง่ายๆ ว่า ‘ไก่ทอดไร้ไก่’ นั่นเอง การขยับตัวของยักษ์ฟาสต์ฟู้ดได้รับการตอบรับที่ดีถึงขนาดที่การทดลองขายที่สาขาในแอตแลนตาหมดภายใน 5 ชั่วโมง นับตั้งแต่เปิดขายตั้งแต่ 8 โมงเช้า ตัวเลขนี้ถือว่าน่าตกใจ เพราะยอดขายนี้เทียบได้กับการขายเมนู Popcorn Chicken ทั้งสัปดาห์เลยทีเดียว
สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคกำลังตื่นเต้นและให้ความสนใจเมนูที่ทำจาก Plant-Based Meat เป็นอย่างมาก แม้เมนูที่กล่าวไปข้างต้นจะยังไม่เข้ามาวางขายในเมืองไทยอย่างเป็นทางการ แต่ต้องบอกว่า วันนี้มีเชนร้านอาหารรายหนึ่งในบ้านเราได้ลุกขึ้นมาเปิดตลาดนี้แล้ว
ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด Sizzler เชนร้านสเต๊กและสลัดบาร์จะกลายเป็นรายแรกของเชนร้านอาหาร หากไม่นับร้านอาหารที่เปิดขายโดยมีสาขาเดียวที่วางขายอาหาร Vegan อย่างจริงจัง THE STANDARD จึงพูดคุยกับ กรีฑากร ศิริอัฐ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอส แอล อาร์ ที จำกัด (ซิซซ์เล่อร์) และ นงชนก สถานานนท์ ผู้ช่วยรองประธานบริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เอส แอล อาร์ ที จำกัด (ซิซซ์เล่อร์) ถึงที่มาของการขยับตัวในครั้งนี้
(ซ้าย) กรีฑากร ศิริอัฐ ผู้จัดการทั่วไป และ (ขวา) นงชนก สถานานนท์ ผู้ช่วยรองประธานบริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เอส แอล อาร์ ที จำกัด (ซิซซ์เล่อร์)
Sizzler สนใจเมนู Plant-Based Meat เพราะเทรนด์สุขภาพ
เทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรงทำให้ผู้บริโภคหลายคนเลือกที่จะดูแลสุขภาพ ด้วยการกินแบบบาลานซ์ ไดเอต (Balance Diet) กินผัก กินโปรตีนให้สมดุลกัน อีกทั้ง Sizzler ยังมี ‘สลัดบาร์’ ที่ขึ้นชื่อของอาหารสุขภาพอยู่แล้ว กลายเป็นตัวจุดฉนวนให้ Sizzler หันมาสนใจอาหารที่ทำจาก Plant-Based Meat อย่างจริงจัง
“ความท้าทายคือ Sizzler เป็นร้านสเต๊กที่มีเมนูโปรตีนทำจากเนื้อสัตว์ทั้งนั้น แต่เรารู้สึกว่ากลุ่มคนที่เข้ามาทานในร้านเพราะสลัด และสนใจอาหารที่ทำมาจากพืช มีปริมาณมากขึ้นทุกวัน จึงเห็นควรมีโปรเมนูที่ทำจากพืชมาเป็นตัวเลือกให้กับผู้บริโภคด้วย”
เพราะตลาด Plant-Based Meat มีขนาดใหญ่และกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้แบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องสเต๊กหันมาสนใจเจาะใช่หรือไม่ ผู้บริหาร Sizzler ตอบคำถามนี้ทันทีว่า
“ไม่ใช่ว่ามีตลาดที่ใหญ่แล้วกระโดดเข้าไปเกาะ เพราะตลาดเหล่านี้ของไทยยังช้ากว่าต่างประเทศค่อนข้างเยอะ กลุ่มที่กินอาหาร Vegan ยังเป็น Selection Fuse อยู่ไม่ได้เยอะมาก แต่ถ้ามองว่าเมืองไทยจะตามเทรนด์ของโลก เราก็เลยอยากนำก่อน และการนำไม่ใช่แค่การนำโปรดักต์เข้ามาขายเป็นอาหาร แต่มีเรื่องของ Educate ตลาดให้รู้จัก”
ต่อไปลูกค้าอย่างน้อย 20% จะเป็นแฟนคลับเมนู Plant-Based Meat
ด้วยความที่เป็นอาหาร การที่จะ Educate ได้ดีที่สุดคือต้องทำออกมาให้ ‘อร่อย’ Sizzler เลือกใช้วัตถุดิบจาก ‘Beyond Meat’ และ ‘Omni Pork’ ใช้เวลา 2-3 เดือนพัฒนาออกมาทั้งหมด 4 เมนู ได้แก่ 1. บียอร์น สเต๊ก ซอสพริกไทย ราคา 479 บาท 2. ออมนิ สเต๊ก ซอสเห็ด ราคา 379 บาท 3. บียอร์น คาราเมลไลซ์ ออนเนี่ยน เบอร์เกอร์ ราคา 479 บาท และ 4. บียอร์น ชิลลี่ ด็อก ราคา 479 บาท ทุกเมนูรวมสลัดบาร์ ซุป และของหวาน เช่นเดียวกับเมนูปกติ
ถ้ามองจากราคาอย่างเดียวอาจจะเห็นว่าค่อนข้างสูงไปสักนิด แต่ Sizzler ยืนยันว่า นี่เป็นราคาของเมนูปกติ ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 300-500 บาท ในขณะที่ยอดใช้จ่ายต่อหัวเฉลี่ยอยู่ที่ 300 กว่าบาท เบื้องต้นทั้ง 4 เมนูเริ่มวางขายตั้งแต่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ใน 30 สาขาจากทั้งหมด 56 สาขาที่มีอยู่ ส่วนใหญ่จะอยู่ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองหลัก โดยจะวางขายไปจนถึงสิ้นปี หลังจากนั้นจะฟังฟีดแบ็ก ก่อนนำมาปรับปรุงและเลือกบางเมนูในเมนูประจำต่อไป
Sizzler คาดหวังว่าต่อไปฐานลูกค้าอย่างน้อย 20% จะกลายมาเป็นสาวกของเมนู Plant-Based Meat โดย 10% แรกมาจากกลุ่มที่มักเดินเข้ามากินสลัดอย่างเดียว ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 30% หรือประมาณ 2 แสนคนต่อเดือน จากจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเดือนละ 7-8 แสนคน ซึ่งเป็นจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่มีสัดส่วนเพียง 10% เท่านั้น
อีก 10% จะมาจากลูกค้าที่เดินเข้ามาเพื่อกินสเต๊กอยู่แล้ว Sizzler เชื่อว่ากลุ่มนี้มีโอกาสที่จะหันมาสั่งเมนู Plant-Based Meat เนื่องจากเทรนด์สุขภาพที่มาแรง ผู้บริโภคบางคนจะเลือกรับประทานอาหารที่ไม่ได้ทำจากเนื้อสัตว์สัปดาห์ละ 1 วัน หรือบางมื้อใน 1 สัปดาห์
ทั้งนี้ตัวเลข 20% ที่กล่าวไปข้างต้นยังไม่รวมกับฐานลูกค้าใหม่ๆ ที่อาจเดินเข้ามาในร้านเพราะอยากลองกินเมนู Plant-Based Meat อีก
ผู้บริหาร Sizzler ย้ำว่า การลุกขึ้นมาขายอาหาร Vegan จะไม่ทำให้ Positoning ของแบรนด์เสีย เพราะสิ่งที่อยู่เหนือกว่านั้นคือ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จุดนี้เลยกลายเป็นความท้าทายของ Sizzler ซึ่งอยู่ในธุรกิจอาหารจะสามารถปรับตัวและเดินไปพร้อมกับพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างไร
“ไม่จำเป็นว่า Sizzler จะต้องเสิร์ฟเมนูเหมือนเดิมตลอดเวลาอย่างที่ทำอยู่ แต่สิ่งสำคัญจะต้องจับเทรนด์ให้ทันและเดินไปพร้อมกับลูกค้า อีกทั้งยังสามารถรักษา Core Value ของ Sizzler คือ Healthy และ Wellbeing ได้”
Sizzler จึงไม่สามารถละเลย ‘เดลิเวอรี’ ได้
อย่างไรก็ตาม นี่ถือเป็นการขยับตัวครั้งใหญ่ครั้งที่ 2 ในรอบปีของ Sizzler หลังจากช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้เปิดตัวขายผ่าน ‘เดลิเวอรี’ ผ่านเบอร์และแอปพลิเคชัน 1112 เดลิเวอรี โดยเป็นที่แรกของโลกที่เปิดตัวผ่านเดลิเวอรี
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ Sizzler ต้องลงมาลุยเดลิเวอรีด้วย เป็นเพราะภาพรวมตลาดอาหารกำลังแข่งขันกันอย่างร้อนแรง คู่แข่งของ Sizzler ไม่ใช่ร้านสเต๊กด้วยกันเท่านั้น แต่เป็นทุกร้านที่ขายอยู่ในศูนย์การค้า ที่สำคัญผู้บริโภควันนี้เริ่มคุ้นชินกับการสั่งอาหารที่บ้าน การแข่งขันจึงสูงขึ้นเป็นคนละเรื่องกับเมื่อก่อน Sizzler จึงไม่สามารถละเลยเดลิเวอรีได้
ล่าสุด ได้หันมาจับมือกับกลุ่มฟู้ดเดลิเวอรี เช่น LINE MAN, Grab และ GET ทำให้ปัจจุบันพื้นที่ส่งครอบคลุมกรุงเทพฯ 100% เรียบร้อยแล้ว และกำลังขยายไปยังหัวเมืองอื่นๆ “แม้วันนี้สัดส่วนรายได้จากเดลิเวอรีจะยังไม่ถึง 10% แต่ต่อไปก็อยากให้ได้อยากน้อย 10%” นี่คือสิ่งที่ผู้บริหาร Sizzler คาดหวังจากเดลิเวอรี
ความท้าทายของ Sizzler ยังไม่หมดเท่านั้น ด้วยภาวะตลาดที่เปลี่ยน ทุกแบรนด์ก็ต้องปรับตัวเองตามให้ทัน การเซกเมนต์ลูกค้ายังต้องทำอย่างต่อเนื่อง Journey ของลูกค้าเป็นแบบไหนต้องตอบสนองให้ได้ จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมจึงต้องมีเมนูที่หลากหลายเพื่อสร้างตัวเลือกให้กับผู้บริโภคอยากได้อะไรก็มีตรงนั้นให้
ไล่มาตั้งแต่ปรับราคาสลัดในวันธรรมดาจาก 199 บาท เหลือ 139 บาท พร้อมกับขายเมนูอาหารกลางในราคาเริ่มต้น 209 บาท นอกจากนี้ยังเพิ่มรีลอนช์การซื้อแบบกลับบ้าน โดยปรับราคาลงอีกเมนูละ 100-200 บาท เพื่อสร้างความคุ้มค่า ด้วยราคาที่ปรับนี้ได้ตัดสลัดออกไป
สำหรับทิศทางในปีหน้า ผู้บริหาร Sizzler ระบุว่า จะเติมเริ่มสุขภาพเข้าไปให้มากขึ้น พร้อมกับลุยเดลิเวอรี โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาฐานลูกค้าที่อยู่ไปพร้อมกับดึงลูกค้าใหม่ๆ ให้เข้ามาลิ้มลอง Sizzler
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: