ต้องบอกว่า ‘ตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่’ เป็นตลาดที่ค่อนข้างปราบเซียนอยู่เหมือนกัน ด้วยมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท ทำให้ใครๆ ก็อยากเข้ามา จนวันนี้มีอยู่วางขายมากกว่า 10 แบรนด์ แต่ใช่ว่าทุกแบรนด์จะอยู่รอด ช่วงที่ผ่านมามีผู้ยกทัพกลับไปแล้ว 2-3 ราย
และที่บอกว่าเป็นตลาดปราบเซียนนั้น เพราะในสังเวียนนี้มีเจ้าตลาดที่เป็นเหมือนกำแพงกั้นอยู่ นั่นคือ ‘สปอนเซอร์’ ภายใต้กลุ่มธุรกิจ TCP ซึ่งอยู่ในตลาดยาวนานกว่า 30 ปี และวันนี้มีส่วนแบ่งตลาดกว่า 90% นอกเหนือจากเจ้าตลาดที่แข็งแกร่งแล้ว ‘ราคา’ เป็นอีกหนึ่งกำแพงที่ทำให้รายหลายต้องคิดหนักก่อนจะเข้ามา เพราะราคา 10 บาท ถือเป็นราคาที่ฐานลูกค้าหลักอย่างคนที่ออกกำลังกาย หรือคนที่ต้องทำงานอยู่กลางแจ้งสามารถจ่ายได้โดยไม่คิดมาก
ขณะเดียวกันความได้เปรียบนี้ได้กลายเป็นจุดอ่อนของตลาดรวมไปถึงโจทย์ใหญ่ของเจ้าตลาดอยู่เช่นกัน เพราะเมื่อเศรษฐกิจไม่ดีทำกำลังซื้อหดหาย สินค้าที่ไม่ได้จำเป็นต้องใช้ทุกวันอย่างเครื่องดื่มเกลือแร่จึงกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ผู้บริโภคจะตัดออก และหากแบรนด์ใดขึ้นราคาลูกค้าก็พร้อมจะเลือกแบรนด์อื่นทันที เมื่อสปอนเซอร์เลือกที่จะแบกต้นทุนเอาไว้เอง แบรนด์อื่นๆ ก็ขยับตามไม่ได้ เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ตลาดไม่เติบโตมากว่า 2 ปีแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น การที่ทุกแบรนด์ต่างโหมกระหน่ำโฆษณาด้วยภาพลักษณ์ของการดื่มหลังออกกำลังกาย หรือหลังทำงานในที่กลางแดด ทำให้ฐานลูกค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ไม่อยากหยิบขึ้นมาดื่ม ด้วยมองว่าไม่จำเป็นสำหรับตัวเอง ไม่เพียงเท่านั้นขวดแก้วที่เราคุ้นเคยกัน ยิ่งทำให้วัยรุ่นไม่อยากถือเพราะมองว่าไม่เท่
เมื่อธุรกิจต้องไปต่อพร้อมกับสร้างการเติบโตไปด้วย สปอนเซอร์จึงเลือกแก้โจทย์นี้ด้วยการออกสินค้าใหม่โดยใช้ ‘สปอนเซอร์ แอคทีฟ ซีรีส์’ โดยเป็นการรีซับแบรนด์ตัวอื่นๆ มาใช้ชื่อนี้ให้หมดพร้อมกับแตกออกเป็น 3 แบรนด์ย่อย ได้แก่ 1. สีเขียว-สปอนเซอร์ แอคทีฟ วิตามินซี 2. สีฟ้า-สปอนเซอร์ แอคทีฟ ซิงค์ และ 3. สีแดง-สปอนเซอร์ แอคทีฟ แมกนีเซียม มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาท มีแบบขวดราคา 10 บาท และแบบกระป๋องราคา 13 บาท
ศุภชัย จุนเกียรติ ผู้อำนวยการสายงานการตลาดโกลเบิล กลุ่มธุรกิจ TCP อธิบายว่า การใช้ชื่อ ‘สปอนเซอร์ แอคทีฟ ซีรีส์’ เพื่อสื่อให้กับคนรุ่นใหม่ทราบว่า ไม่จำเป็นต้องดื่มเฉพาะออกกำลังกายหรือไปทำงานกลางแจ้งเท่านั้น ไปเรียนมาหรือทำกิจกรรมอื่นๆ ก็สามารถกินได้เช่นเดียวกัน โดยสปอนเซอร์เตรียมงบการตลาดกว่า 300 ล้านบาทสำหรับโปรโมต และดึง เก้า-สุภัสสรา ธนชาต มาเป็นพรีเซนเตอร์ นอกจากนี้ยังได้ขยายช่องทางจำหน่ายไปสู่มหาวิทยาลัยและตู้กดอัตโนมัติอีกด้วย
“เครื่องดื่มเกลือแร่แทบจะไม่โตเลย บางแบรนด์ตกด้วยซ้ำ นอกจากกำลังซื้อแล้วอากาศก็มีผลเหมือนกัน ดังนั้นหากเราต้องการเติบโตจึงต้องขยายฐานไปหากลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งเมื่อกลุ่มเป้าหมายเปลี่ยน วิธีการทำตลาดก็เปลี่ยนด้วย เช่น นอกจากเดิมที่เน้นโปรโมตขวดแก้ว ยังโปรโมตกระป๋องให้ลูกค้าทราบด้วย”
สำหรับครึ่งปีแรก สปอนเซอร์เติบโต 17% ส่วนตลาดกลับมาโต 15% สำหรับเป้าหมายในปีนี้สปอนเซอร์คาดทั้งปีจะเติบโตไม่น้อยกว่า 10% โดยยอดขายหลักกว่า 90% มาจากรสชาติออริจินัลสีเหลือง
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า