กว่าที่ยานยนต์คุณภาพสักแบรนด์จะก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาเป็น Global Brand หรือแบรนด์ดังระดับโลก ที่ทุกคนต่างรู้จักกันดี แถมยังได้รับความไว้วางใจจากคนทั้งโลกนั้น ย่อมไม่ใช่เรื่องราวที่ธรรมดานัก เฉกเช่นเดียวกับตำนานอันน่าสนใจของ Subaru ยานยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งก่อตั้งมากว่า 60 ปีล่วงมาแล้ว แต่รู้กันหรือไม่ว่า อันที่จริงแล้วประวัติความเป็นมาของยานยนต์จากแดนอาทิตย์อุทัยแบรนด์นี้มีประวัติยาวนานสืบย้อนได้นับกว่าร้อยปีเลยทีเดียว ซึ่งวันนี้ THE STANDARD จะมาบอกเล่าเรื่องราวตำนานดังกล่าวของซูบารุให้ฟัง
ย้อนตำนานซูบารุ: เป้าหมายสร้างยานยนต์ที่บินทะยานข้ามฟ้าได้
ใครจะรู้บ้างว่า ตำนานบทแรกของซูบารุเริ่มต้นเมื่อมีการเปิดตัวหน่วยวิจัยทางด้านการบินที่ชื่อ ‘Aircraft Research Laboratory’ ซึ่งอยู่ภายใต้บริษัท Fuji Heavy Industries Ltd. โดยมีเป้าหมายคือ ‘สร้างยานยนต์ที่สามารถบินทะยานข้ามฟ้าได้’ ฟังดูแล้วหลายๆ คนน่าจะเห็นด้วยว่า ช่างเป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ท้าทาย และทะเยอทะยานเหลือเกิน สำหรับสมัยเมื่อกว่า 6 ทศวรรษที่แล้ว อย่างไรก็ตาม จิตวิญญาณอันเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะผลิตยานยนต์ที่บินได้ ก็ได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจในการผลักดันให้ซูบารุก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง จนกระทั่งบริษัทได้ถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการในประเทศญี่ปุ่นเมื่อ ค.ศ. 1953
Iconic Logo รูปกลุ่มดาวลูกไก่
โลโก้ของแบรนด์ซูบารุที่คนทั้งโลกต่างจดจำกันได้จนติดตานั้นมีลักษณะเป็นรูปดวงดาว 4 แฉก จำนวน 6 ดวง หากสังเกตกันดีๆ จะมีดวงใหญ่ 1 และดวงเล็กอีก 5 ดวง กลุ่มดาวทั้งหมดถูกล้อมรอบด้วยวงรี ชื่อและตราสัญลักษณ์ของซูบารุถือกำเนิดขึ้นมาในช่วงทศวรรษที่ 1950 เมื่อประธานคนแรกของบริษัทซูบารุ หรือบริษัทที่ในอดีตรู้จักกันในชื่อ ฟูจิ เฮฟวี อินดัสทรีส์ คุณคิตะ เคนจิ ผู้มีความมุ่งมั่นแรงกล้าในการที่จะผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลให้สำเร็จ และใน ค.ศ. 1954 เขาก็ทำได้จริง ด้วยการผลิตต้นแบบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขึ้นมาได้เป็นครั้งแรก โดยใช้ชื่อว่า P-1
คุณคิตะยืนยันอย่างหนักแน่นว่า “รถของญี่ปุ่นควรใช้ชื่อภาษาญี่ปุ่น” หลังจากที่ได้รับการเสนอชื่อมาหลายชื่อ คุณคิตะจึงตัดสินใจใช้ชื่อ ‘ซูบารุ’ ซึ่งเป็นชื่อภาษาญี่ปุ่นอันไพเราะที่ได้มาจากชื่อของกลุ่มดวงดาวในกลุ่มดาววัว โดยจะสามารถมองเห็นดาว 6 ดวงได้ด้วยตาเปล่า และสามารถเห็นดาวสีอมน้ำเงินได้ประมาณ 250 ดวง หากมองผ่านกล้องโทรทรรศน์ ชาวตะวันตกเรียกกลุ่มดาวนี้ว่า ไพลยาดีส (Pleiades) ชาวจีนเรียกว่าเหม่า (Mao) ส่วนชาวญี่ปุ่นเรียกว่า ซูบารุ ซึ่งหมายถึง การปกครอง การรวมตัวกัน หรือการรวมเป็นหนึ่ง ในญี่ปุ่นกลุ่มดาวนี้ยังมีอีกชื่อคือ ‘มุทสึระโบชิ’ ที่แปลว่า ‘ดาว 6 ดวง’ โดยชื่อนี้ปรากฏบ่อยครั้งในบันทึกโบราณของญี่ปุ่น เช่น โคจิกิ (Kojiki) และมันโยชู (Manyoshu) ตลอดจนในวรรณคดีอย่าง มากุระ โนะ โซชิ (Makura-no-soshi) เห็นได้อย่างชัดเจนว่า กลุ่มดาววัวมีความโด่งดังเป็นอย่างมากในญี่ปุ่นสมัยโบราณ และที่น่าสังเกตคือ บริษัท ฟูจิ เฮฟวี อินดัสทรีส์ ก็เกิดจากการรวมตัวของบริษัท 6 แห่งเช่นกัน บริษัทใหม่นี้จึงใช้กลุ่มดาว ‘ซูบารุ’ เป็นตราสัญลักษณ์อย่างเป็นทางการสำหรับผลิตภัณฑ์ยานยนต์มานับแต่นั้น
โลโก้ดั้งเดิมที่ใช้สำหรับรถ Subaru 360
แสดงถึงการวางตำแหน่งดาว
โลโก้ในปัจจุบัน
หลังจากฟูจิ เฮฟวี อินดัสทรีส์ได้ทดสอบรถต้นแบบมานานหลายปี ก็ได้ผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลคันแรกออกจำหน่ายในปี 1958 คือรุ่น Subaru 360 ด้วยรูปร่างอันเป็นเอกลักษณ์ จึงได้รับการขนานชื่อเล่นว่า ‘Ladybird’ อีกทั้งรถยนต์รุ่นนี้ก็ได้กลายเป็นรถยนต์ยอดนิยมในระยะเวลาอันรวดเร็วนานกว่าทศวรรษ นับเป็นจุดเริ่มต้นครั้งประวัติศาสตร์ของวงการรถยนต์
Subaru 360 หรือ Ladybird
คือรถรุ่นแรกของแบรนด์ที่วางจำหน่ายในปี 1958
หลังจากที่ Subaru 360 วางจำหน่าย ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงเวลาดังกล่าว ทาง FHI ก็ไม่ได้หยุดยั้งที่จะพัฒนา และยังคงมองหาโอกาสในตลาดยานยนต์อยู่เสมอ จึงได้พัฒนา Subaru Sambar ซึ่งเป็นไมโครแวนออกมา เพื่อบุกตลาดรถยนต์บรรทุกขนาดเล็กในปี 1961 ไมโครแวนรุ่นดังกล่าวนี้มีความโดดเด่นตรงที่สามารถลัดเลาะไปตามทางแคบๆ ได้ แถมเมื่อเปรียบเทียบกับรถสเปกใกล้เคียงกันรุ่นอื่นๆ ในตลาด ก็ถือว่ามีพื้นที่กว้างขวางสำหรับบรรทุกสัมภาระ
Subaru Sambar
ไมโครแวนที่บุกตลาดรถยนต์บรรทุกขนาดเล็กในปี 1961
จุดเด่นด้านเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์ของซูบารุที่ครองใจผู้ขับขี่ทั่วโลก
หลังจากที่ออกรถรุ่นแรก ซูบารุมีรถขายดีที่ได้รับความนิยมออกมาอีกหลายต่อหลายรุ่นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทั้งนี้ สิ่งสำคัญประการหนึ่งที่ทางแบรนด์ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามคือ การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ซึ่งจุดเด่นด้านเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์ของซูบารุที่ครองใจผู้ขับขี่ทั่วโลกนั้น สร้างขึ้นมาจาก 4 องค์ประกอบหลัก โดยเทคโนโลยีหลักจะทำงานร่วมกัน เพื่อให้การควบคุม พร้อมทั้งความสามารถในการขับเคลื่อนและสมรรถนะที่เหนือชั้น เทคโนโลยีหลักที่ซูบารุให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ได้แก่
1. ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบสมมาตร
ให้การยึดเกาะถนนอย่างเหนือชั้น มาพร้อมสมรรถนะสุดเร้าใจที่จะพาผู้ขับขี่พุ่งทะยานข้ามผ่านไปในทุกเส้นทาง ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบสมมาตรของซูบารุ จะคอยตรวจสอบและปรับกำลังล้อทั้งสี่อย่างต่อเนื่อง ให้มีการยึดเกาะถนนในระดับสูงสุดในทุกสภาวะ
2. เครื่องยนต์ Boxer
ความสมดุลเป็นจุดแข็งของซูบารุเสมอมา ด้วยโครงสร้างที่แบนราบและลูกสูบทำงานตามแนวนอนของเครื่องยนต์ ทำให้จุดศูนย์ถ่วงของเครื่องยนต์อยู่ในระดับต่ำ เพิ่มเสถียรภาพการทรงตัว ช่วยทำให้สามารถควบคุมรถได้อย่างเฉียบคม เครื่องยนต์ Boxer เปรียบเสมือนเป็นหัวใจของรถยนต์ซูบารุทุกคันที่สร้างความสมดุล พร้อมให้การควบคุมรถและเสถียรภาพการทรงตัวได้อย่างเหนือชั้น ให้ความสมดุลที่เหนือกว่าเครื่องยนต์ประเภทอื่น และนอกจากนี้ยังช่วยลดแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นจากการทำงานของเครื่องยนต์อีกด้วย
3. โครงสร้างตัวถังสุดปลอดภัย Subaru Global Platform
หนึ่งในสี่ของเทคโนโลยีหลัก ที่ช่วยเพิ่มทั้งระดับความปลอดภัยและสมรรถนะให้สูงขึ้นได้อย่างน่าทึ่ง ความแข็งแกร่งของโครงสร้างที่เพิ่มขึ้น ทำให้สามารถดูดซับแรงกระแทกได้ดีกว่าเคย ในขณะที่การยกสูงของตัวรถช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย และทำให้มีทัศนวิสัยที่ชัดเจนยิ่งขึ้น โครงสร้างที่แข็งแกร่งของ Subaru Global Platform ทำให้วิถีการขับขี่ การควบคุมรถ และความรู้สึกที่ผู้ขับขี่ได้ปรับเปลี่ยนไปจากเดิม โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยที่สำคัญที่สุด ซึ่งจะช่วยป้องกันทั้งตัวคนขับและผู้โดยสารให้ปลอดภัยยิ่งกว่า แพลตฟอร์มสุดล้ำสมัยนี้ของซูบารุได้รับการพัฒนาให้มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 100% เมื่อเทียบกับโครงสร้างแบบเดิม และนอกจากนี้ Subaru Global Platform ยังช่วยดูดซับแรงกระแทกและยังช่วยลดการสั่นสะเทือนลงไปได้ถึง 50% เนื่องจากเหล็กกันโคลงด้านหลังที่ยึดติดเข้ากับแชสซีโดยตรง การขับขี่จึงมีเสถียรภาพในการทรงตัวอย่างดีเยี่ยม ผลลัพธ์ที่ได้คือ ผู้ขับขี่และผู้โดยสารเดินทางอย่างสะดวกสบายมากขึ้น ปลอดภัยมากขึ้น
4. ระบบ EyeSight เทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่
ระบบ EyeSight เปรียบเสมือนดวงตาคู่พิเศษที่พร้อมจะช่วยตรวจสอบสภาวะรอบตัว และแจ้งเตือนให้ทราบในทันทีที่พบว่าอาจมีอันตรายเกิดขึ้นได้ อาทิ ระบบเตือนเมื่อขับเบี่ยงออกนอกเลน ระบบเตือนและเบรกอัตโนมัติก่อนการชน และระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบแปรผันอัตโนมัติ ทำให้ช่วยอำนวยความสะดวกสบายได้อย่างดีเยี่ยม และช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้อย่างน่าทึ่ง
เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยที่ฝังลึกอยู่ใน DNA
นอกจาก 4 เทคโนโลยีหลักที่ได้กล่าวไปข้างต้น ซูบารุยังเป็นแบรนด์ที่กล้าเคลมว่า มีเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ดีที่สุด ด้วยความเชื่อที่ว่า ‘ความปลอดภัยต้องมาก่อน’ เป็นสิ่งที่ฝังลึกอยู่ในดีเอ็นเอของซูบารุ ทางแบรนด์ภูมิใจเป็นอย่างมากกับวิศวกรรมด้านความปลอดภัยที่มี
ซูบารุคำนึงถึงความปลอดภัยตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการออกแบบรถทั้งในรูปแบบโครงสร้างและการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่เน้นเรื่องทัศนวิสัย ดีไซน์เบาะที่ช่วยลดความเมื่อยล้าเมื่อต้องขับขี่ในระยะทางไกลๆ หรือสร้างหน้าจอและปุ่มต่างๆ ที่ใช้งานง่าย เพื่อให้ผู้ขับมีสมาธิตลอดการเดินทาง ทางแบรนด์มี ‘ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน’ ที่เป็นเสมือนมาตรวัดหลักด้วยการติดตั้งระบบควบคุมแรงบิดอัตโนมัติขณะเข้าโค้ง พร้อมระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว เพราะระบบความปลอดภัยไม่ควรเป็นแค่เพียงฟีเจอร์หรือออปชันเท่านั้น
และสุดท้าย ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบสมมาตร ที่จะช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างมั่นคง ด้วยเชื่อมั่นว่า สมรรถนะต้องมาควบคู่ไปกับความปลอดภัยเสมอไปทุกครั้ง เช่นนี้เอง จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ซูบารุในปัจจุบันจะได้รับการจัดอันดับความปลอดภัยให้อยู่ในลำดับที่ดีที่สุดจากสถาบันต่างๆ ทั่วโลก
The All-New Subaru Forester
SUV ที่ตอบโจทย์ครอบครัวรุ่นใหม่ที่รักการเดินทาง
สำหรับใครที่กำลังมองหารถยนต์คู่ใจสักคัน ไม่ว่าจะเป็นไลฟ์สไตล์สุดลุยที่ต้องบุกตะลุยผ่านดินโคลน หรือขับพาเด็กๆ ไปโรงเรียน คุณสมบัติทั้งหมดล้วนผสานอยู่ในคันเดียวกัน Subaru Forester คือ SUV สุดพิเศษที่ครอบคลุมในทุกด้าน พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของคุณ เพราะนอกจากทัศนวิสัยที่ดี ใต้ท้องรถมีความสูงเหมาะสมแล้ว ยังมีพื้นที่ภายในและที่เก็บสัมภาระเหลือเฟือเพียงพอสำหรับทุกคนในครอบครัว ก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า Forester ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ของครอบครัวรุ่นใหม่ที่รักการเดินทาง และให้ความสำคัญกับเรื่องของความปลอดภัยและสมรรถนะมากกว่าปัจจัยอื่น
ล่าสุด ซูบารุประเทศไทยได้มีการเปิดเผยข้อมูลว่า รถยนต์รุ่น The All-New Subaru Forester ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากผู้บริโภคในตลาดรถประเทศไทย สังเกตได้จากที่มียอดจองที่พุ่งสูงขึ้นมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 500 คัน ส่งผลให้ตอนนี้เมื่อผ่านพ้นช่วงครึ่งแรกของปี 2562 ก็มีคนไทยจองรถยนต์ The All-New Subaru Forester ไปแล้วถึงกว่า 1,800 คัน
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเร่งส่งมอบรถยนต์ The All-New Subaru Forester รุ่น EyeSight ซึ่งจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ยอดขายรวมของรถยนต์ Subaru ในประเทศไทยของทั้งปี 2562 อาจสูงถึง 4,500 คัน นอกจากนี้ทางบริษัทฯ ยังมีแพลนที่จะเพิ่มจำนวนศูนย์ให้บริการให้ครบ 45 แห่งทั่วประเทศ และยกระดับคุณภาพการให้บริการ เพื่อเพิ่มความพึงพอใจและพร้อมที่จะดูแลลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ในวันนี้ ซูบารุเป็นหนึ่งในยนตรกรรมที่ได้รับความไว้วางใจเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ทั้งในตลาดโลกและประเทศไทย
ภายในกว้างขวาง
The All-New Subaru Forester เป็น SUV ที่มีพื้นที่จุสัมภาระมากมาย
ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และเหมาะกับทุกการเดินทางของคุณและครอบครัว
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล