วันนี้ (4 ส.ค.) ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า กรณี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา โดยกล่าวถ้อยคำไม่ครบถ้วน บางถ้อยคำขาดหาย แต่กลับมีบางถ้อยคำเพิ่มขึ้นมา ซึ่งไม่ตรงกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ม.161 ซึ่งขาดหายไปเป็นสาระสำคัญในประโยคที่ว่า “ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ” ซึ่งในเรื่องนี้เป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาถกเถียงกันอย่างมากว่า การถวายสัตย์ปฏิญาณของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น
ปัญหาที่ตามมาจึงเกิดการถกเถียงกันอย่างมากจากกระแสสังคมนักวิชาการและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่า การถวายสัตย์ปฏิญาณดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายและมีผลสมบูรณ์หรือไม่ และมีผลกระทบทางการเมือง ทำให้คณะรัฐมนตรีเข้ารับทำหน้าที่โดยถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่
ถ้อยคำที่คณะรัฐมนตรีต้องถวายสัตย์ให้ครบ เป็นบทบัญญัติที่กำหนดไว้ตายตัวตามรัฐธรรมนูญ เพราะถือว่าเป็นสาระสำคัญอันเป็นองค์ประกอบของการถวายสัตย์ที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ แต่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรัฐมนตรี กลับกล่าวคำถวายสัตย์ไม่ครบถ้วน อาจมีผลกระทบทางการเมืองอย่างรุนแรง ถึงขนาดอาจทำให้รัฐบาลชุดนี้เป็นโมฆะ ไม่สามารถทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินได้ต่อไป อีกทั้งถือได้ว่าการปฏิบัติไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญ ตามบทบัญญัติ ม.53 ในหมวดว่าด้วยหน้าที่ของรัฐด้วย
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจึงต้องหาความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว โดยจะนำความไปร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินตาม ม.230 และ ม.231 เพื่อขอให้ส่งเรื่องไปยังศาลปกครองหรือศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีการวินิจฉัยชี้ขาดโดยเร็วต่อไป
โดยจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม 2562 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ห้อง 502 ชั้น 5 ศูนย์ราชการ อาคาร B แจ้งวัฒนะ หลักสี่ กทม.
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล