คุณรับมือกับ ‘วิกฤต’ ของชีวิตอย่างไรบ้าง
เมื่อชีวิตเดินทางมาถึงช่วงเวลายากลำบาก เชื่อว่าความรู้สึกของทุกคนที่เคยผ่านพ้นเหตุการณ์นี้มาน่าจะต้องรู้สึกว่าไม่ต่างอะไรกับการตกลงไปอยู่ในเหวลึก สิ่งที่ต้องเผชิญคือความท้อแท้สิ้นหวัง ยากจะหาทางปีนกลับขึ้นมา การเผชิญหน้ากับภาวะที่ดูมืดมนไม่เจอหนทางแก้ไขใดๆ ให้กับชีวิตนั้นยากเกินกว่าจะยิ้มรับมันได้
แต่เมื่อเราก้าวผ่านพ้น ‘วิกฤต’ ของชีวิตนี้มาได้ นอกจากรอยยิ้มที่จะเกิดขึ้นบนใบหน้าเราแล้ว การให้คำชมกับตัวเองที่ข้ามผ่านเรื่องเลวร้ายนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องที่จะมาเขินอายเลยที่จะทำ
ผู้คนมักชอบฟังเรื่องราวการประสบความสำเร็จจากคนที่ล้มเหลวมาก่อน เพราะพวกเขาเหล่านั้นมีประสบการณ์และบทเรียนมากมายระหว่างหนทางในการปีนกลับขึ้นมาจากจุดที่ต่ำที่สุดของชีวิต
อธิบายอย่างสั้นกว่านั้นก็เหมือนกับชีวิตมี 3 เฟส – เมื่อ ‘ล้ม’ ต้อง ‘ลุก’ ให้ ‘เร็ว’
‘ล้ม’
ไม่มีใครที่ล้มทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้ออกเดินหรือออกวิ่ง ในยุคที่ชีวิตต้องมีการแข่งขัน การก้าวข้ามผ่านอุปสรรคเพื่อให้ไปถึงเส้นชัยแห่งความประสบความสำเร็จนั้นไม่ได้ง่ายเหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ก็ไม่ได้ยากเสียทีเดียว
แน่นอนล่ะว่าคุณต้องล้มบ้าง และเมื่อคุณล้ม สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการต้องยอมรับว่าคุณล้ม รู้ตัวว่าตอนนี้คุณกำลังล้ม รับรู้ถึงความเจ็บปวดและความทุกข์ที่เกิดขึ้นจากการล้มนี้
คุณต้องยอมรับและพร้อมที่จะเดินต่อหรือวิ่งต่อไป เดินหรือวิ่งไปพร้อมๆ กับปัญหาและความเจ็บปวดเหล่านี้นี่แหละ เมื่อนั้นมันจะมาพร้อมกับการเรียนรู้และการเปลี่ยนแปลง
‘ลุก’
เมื่อคุณยอมรับแล้วว่าตัวเองล้ม ก็ได้เวลาของการลุก และการเคารพตัวคุณเอง เคารพที่ว่าหมายถึงการกลับมาเชื่อมั่นและศรัทธาในตัวเอง มั่นใจว่าตัวเองสามารถกลับมาลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง
คำว่า Move On มีความหมายชัดเจนในตัวของมันเอง คือเราต้องมูฟต่อไป ชีวิตต้องเดินและต้องวิ่งต่อไป ถึงนาทีนี้คือการบอกกับตัวเองได้แล้วว่า หมดเวลาจมปลักหมดหนทางอยู่กลางเหวลึก ได้เวลาปีนกลับขึ้นมาได้แล้ว
และที่น่าสนใจก็คือ ในทุกโมเมนต์ของการล้มแล้วลุกนั้น นอกจากที่เราจะพบว่าเราลุกขึ้นมาได้ด้วยตัวเองแล้ว เรายังพบว่าในทุกๆ การลุกขึ้นมายืนใหม่ของชีวิตนั้น มักได้แรงผลักดันจากอะไรสักอย่าง หรือใครสักคนเสมอ
‘เร็ว’
ฟังดูเป็นการเร่งเร้า แต่เร็วในความหมายของเราก็คือตัวกระตุ้นบางอย่างที่จะทำให้คุณกล้าที่จะออกเดินและออกวิ่งอย่างมั่นใจ
เสียงร้องว่า ‘เร็ว’ ที่ฟังดูช่างน่าขยาดและเกรงขามในเวลาเดียวกัน ซึ่งดังอยู่ข้างหลังเรานั้น เป็นแรงผลักดันชั้นดีที่จะทำให้เราก้าวไปข้างหน้า ข้ามผ่านอุปสรรคนานาได้อย่างไร้กังวล
‘เร็ว’ ที่ว่านี่แหละคือแรงผลักดันชั้นดีจากคนรอบข้าง เรามักได้คำแนะนำที่ดีๆ และช่วยเสริมสร้างกำลังใจระดับดึงสติ เรียกความเชื่อมั่นในตัวเองให้กลับมาอีกครั้งจากคนที่รายล้อมเราเสมอ
และในที่สุด เห็นตรงหน้านั้นไหม… เส้นชัยอยู่ไม่ไกล ที่ตรงนั้นมีความสำเร็จรอเราอยู่
‘ก้าว’
ภาพยนตร์โฆษณาระดับยิ่งใหญ่ที่จะมาบอกกับทุกคนถึงแนวคิดใหม่ของ ธนาคารธนชาต ที่แตกต่างจากธนาคารอื่นๆ ในแง่ของการเป็นแรงผลักดันสำคัญที่จะ ให้ชีวิตก้าวหน้าได้ทุกวัน – ‘Your Everyday Progress’
และสุดยอดกว่านั้นด้วยการเป็นภาพยนตร์โฆษณาผลงานการกำกับโดยผู้กำกับโฆษณาระดับโลกอย่าง ต่อ-ธนญชัย ศรศรีวิชัย ที่บอกกับเราว่า นี่คือความกล้าของธนาคารธนชาต ที่เปิดกว้างให้เสนอมุมมองและวิธีสื่อสารอย่างเต็มที่
ออกมาเป็นภาพยนตร์โฆษณาที่ทำให้เราเห็นความเอาจริงเอาจังของพนักงานว่าช่างดุดันจนไม่มีใครคาดคิดว่าจะกล้าทำ แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่ทำไปก็เพราะว่าเขาคือคนที่อยู่กับคุณในทุกช่วงชีวิต เห็นกันมาตลอด หวังดีมาตลอด
เมื่อทำทุกอย่างแล้วแต่ไม่ดีขึ้น ก็ต้องเรียกสติกระตุ้นกันเสียหน่อย พุชกันหนักๆ แต่ทั้งหมดทำไปก็เพื่อให้คุณนั่นแหละก้าวหน้า ก้าวไปด้วยกัน ไปเรื่อยๆ แม้จะวันละนิด แต่หากก้าวหน้าในทุกวัน ในที่สุดเราก็จะถึงเป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้
เหมือนกับที่ธนาคารธนชาตที่อยู่กับคุณในทุกๆ จุดของชีวิต เมื่อคุณล้ม เราจะเป็นแรงผลักดันชั้นดีที่จะทำให้คุณลุกขึ้นมาใหม่ได้อีกครั้ง และพร้อมพาคุณไปสู่ความก้าวหน้าของชีวิตในทุกวัน
https://www.youtube.com/watch?v=tn0vVmd36ZA&feature=youtu.be
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า