สื่อในสหรัฐฯ รายงานว่า คณะกรรมการการค้าแห่งสหรัฐอเมริกา (FTC) มีมติเห็นชอบ 3 ต่อ 2 เสียง ในการสั่งปรับเงิน Facebook จำนวนสูงเป็นสถิติถึง 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อยุติการสอบสวนจากกรณีอื้อฉาวที่บริษัท Cambridge Analytica นำข้อมูลผู้ใช้ Facebook มากถึง 87 ล้านบัญชี ไปใช้ทำแคมเปญหาเสียงในสหรัฐฯ อย่างไม่เหมาะสม จนมีข้อครหาว่า มีส่วนช่วยให้ โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2016
อย่างไรก็ตาม ทั้ง Facebook และคณะกรรมการการค้าแห่งสหรัฐฯ ยังไม่ให้ความเห็นเกี่ยวกับรายงานข่าวดังกล่าว
คณะกรรมการการค้าฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคในอเมริกา เริ่มสอบสวน Facebook ตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว หลังมีรายงานว่า Cambridge Analytica ได้เข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้หลายสิบล้านคน โดยการสืบสวนที่ผ่านมาโฟกัสไปที่ Facebook ว่ามีการละเมิดข้อตกลงปี 2011 หรือไม่ ซึ่งกำหนดไว้ว่า Facebook ต้องแจ้งให้ผู้ใช้ทราบอย่างชัดเจน และต้องแสดงความยินยอมก่อนที่จะสามารถแชร์ข้อมูลของพวกเขาได้
สำหรับ FTC ประกอบด้วยสมาชิกจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ซึ่งมีความเห็นไม่สอดคล้องกันต่อกรณีดังกล่าว โดย New York Times รายงานว่า สมาชิกรีพับลิกันเห็นชอบให้สั่งปรับเงินในจำนวนนี้ แต่สมาชิกเดโมแครตมองว่า ค่าปรับน้อยเกินไป และต้องการบทลงโทษที่เข้มงวดกว่านี้
“หาก FTC ไม่สามารถหรือไม่เต็มใจวางแนวป้องกันที่สมเหตุสมผลเพื่อสร้างหลักประกันว่า ความเป็นส่วนตัวและข้อมูลของผู้ใช้จะได้รับความคุ้มครอง ก็ถึงเวลาแล้วที่สภาคองเกรสจะต้องดำเนินการเอง” มาร์ก วอร์เนอร์ วุฒิสมาชิกเดโมแครตจากรัฐเวอร์จิเนีย กล่าว
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวเผยว่า เงินค่าปรับดังกล่าวจะต้องผ่านความเห็นชอบจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ก่อน ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะต้องใช้เวลาดำเนินการนานเท่าใด แต่หากมีการอนุมัติ ก็จะถือเป็นเงินค่าปรับสูงที่สุดในประวัติศาสตร์สำหรับบริษัทเทคโนโลยี
แต่กระนั้นข่าวดังกล่าวไม่ได้สร้างความตื่นตระหนกในตลาดมากนัก เนื่องจากมีการประเมินก่อนหน้านี้แล้วว่า ค่าปรับที่ Facebook ต้องจ่ายเพื่อยุติคดีจะอยู่ที่ราวๆ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยนักลงทุนมองเป็นบวกต่อข่าวดังกล่าว ซึ่งหนุนราคาหุ้น Facebook พุ่งขึ้น 1.8% เมื่อคืนนี้
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
