ฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. แถลงผลการดำเนินการไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม) ปี 2562 โดยสามารถปล่อยสินเชื่อได้กว่า 4.4 หมื่นล้านบาท จำนวนเกือบ 3.6 หมื่นบัญชี ทำให้ยอดสินเชื่อคงค้างแตะ 1.12 ล้านล้านบาท มีกำไรสุทธิกว่า 2.8 พันล้านบาท ส่วนเดือนเมษายนปล่อยสินเชื่อได้ราว 9 พันล้านบาท และช่วงครึ่งเดือนแรกของเดือนพฤษภาคมปล่อยสินเชื่อได้กว่า 4 พันล้านบาท คาดว่าจะปล่อยสินเชื่อลดลง 30-35% ในเดือนนี้
สาเหตุสำคัญที่ทำให้การปล่อยสินเชื่อไตรมาส 2 หดตัว เนื่องจากผลกระทบของมาตรการสินเชื่อบ้านใหม่ของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจกู้ของผู้กู้ เนื่องจากภาระทางการเงินในการซื้อที่อยู่อาศัยสูงขึ้น โดย ธอส. เป็นธนาคารของรัฐ มีข้อจำกัดในการทำการตลาดมากกว่าธนาคารพาณิชย์โดยทั่วไป และลูกค้าของ ธอส. ก็มีคุณลักษณะที่แตกต่างออกไปด้วย ช่วงที่ผ่านมาไม่สามารถปล่อยกู้ในลักษณะสินเชื่อเพิ่มเติมหรือ On Top ได้แบบธนาคารอื่น เนื่องจากเป็นลักษณะสินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ (Commercial Loan)
เมื่อประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเป้าหมายสินเชื่อปี 2562 ที่ตั้งไว้ที่ 2 แสนล้านบาท คาดว่าจะกระทบประมาณ 30% หรือราว 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง เพื่อเจรจาหาทางออกกับธนาคารแห่งประเทศไทย โดยผู้บริหารของ ธอส. ยืนยันว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ของ ธอส. ไม่ใช่กลุ่มผู้ที่แสวงหาผลตอบแทนสูงสุด (Search for Yield) แต่อย่างใด สำหรับเป้าหมายสินเชื่อ 2 ไตรมาสแรกของปีนี้ คาดว่าจะใกล้เคียงกับเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 1 แสนล้านบาท ส่วนโครงการบ้านล้านหลังเฟส 2 ก็จะเริ่มได้ในเดือนกันยายนปีนี้ ภายใต้กรอบวงเงิน 5 หมื่นล้านบาท
สิ่งที่น่าจับตาคือ สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุหรือ Reverse Mortgage ซึ่งกำหนดให้ผู้สูงอายุที่มีบ้านเป็นของตนเองและปลอดภาระหนี้ สามารถนำบ้านมาจำนองเพื่อรับเงินเป็นรายเดือน เพื่อนำมาใช้จ่ายในการดำรงชีพได้ เบื้องต้นกำหนดกรอบวงเงินไว้ที่ 1 พันล้านบาท ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยผู้กู้ต้องอายุ 60-80 ปี ไม่เป็นผู้ไร้ความสามารถ กู้ได้สูงสุดไม่เกิน 50% ของราคาบ้าน (ราคาประเมิน) และไม่เกิน 10 ล้านบาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 6.25% ต่อปี ซึ่ง ธอส. จะยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ ค่าประเมินราคาหลักประกัน ค่าจดทะเบียนสิทธิ์และนิติกรรม และค่าจดทะเบียนนิติกรรมจำนองให้ โดยฉัตรชัยกล่าวว่า มาตรการดังกล่าวของ ธอส. สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศและนโยบายที่ให้ความสำคัญกับเรื่องสังคมผู้สูงอายุในอนาคต
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล