เวลานี้หากจะให้พูดถึงศิลปินวัยรุ่นที่กระแสมาแรงมากๆ ชื่อของ ทรอย ซีวาน จะต้องปรากฏขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นศิลปินที่เปรียบเสมือนกระบอกเสียงสำคัญของคนกลุ่ม LGBTQ ผู้คอยเดินหน้าเปลี่ยนแปลงทัศนคติของสังคมที่มีต่อคนกลุ่มนี้ไปพร้อมๆ กับการผลิตผลงานเพลงอยู่เสมอ
จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา (8 พ.ค.) สำหรับ ‘Troye Sivan The Bloom Tour Bangkok 2019’ คอนเสิร์ตครั้งแรกในกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ซึ่งเป็นหมุดหมายสุดท้ายสำหรับการทัวร์เอเชียของ ทรอย ซีวาน โดยก่อนหน้านี้เขาก็เพิ่งไปเปิดคอนเสิร์ตมาหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น, เกาหลี, ไต้หวัน, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์ และฮ่องกง ซึ่งก็ได้กระแสตอบรับที่ดีมากจากทุกที่ที่ไป
สำหรับบรรยากาศของโชว์ที่กรุงเทพฯ ก็ต้องบอกว่าเต็มไปด้วยความคึกคัก มีแฟนเพลงมากหน้าหลายตาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมไปถึงเหล่าแฟนคลับที่เป็น LGBTQ ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่เดินทางมาร่วมงานในครั้งนี้จนเต็มฮอลล์ และถึงแม้ว่าโชว์จะเริ่มเลตจากกำหนดการไปประมาณ 20 นาที แต่นั่นก็ไม่ได้สร้างความน่าหงุดหงิดใจอะไรให้กับเหล่าผู้ชมที่กำลังรอคอยการปรากฏตัวของทรอยเลย
ทรอย ซีวาน ปรากฏตัวขึ้นมาบนเวทีพร้อมกับใบหน้าหวานๆ ก่อนจะเปิดโชว์ด้วย Seventeen หนึ่งในเพลงจากอัลบั้มชุดล่าสุด ‘Bloom’ ซึ่งเรียกเสียงกรี้ดได้กระหึ่มฮอลล์ ก่อนจะต่อด้วยเพลงจังหวะสนุกสนานชวนโยกอย่าง Bloom และ Plum ณ จุดนี้ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็จะเห็นแต่ภาพของคนที่ไม่อยู่นิ่ง ยืนโยกไปกับจังหวะของดนตรีอย่างสนุกสนาน ระหว่างโชว์เราจะสังเกตเห็นว่ามีแฟนเพลงอยู่จำนวนไม่น้อยที่โบกธงสีรุ้งผืนเล็กเพื่อสนับสนุนความหลากหลายทางเพศอยู่ตลอดเวลา ซึ่งภาพนี้ก็ถือเป็นสิ่งที่ตอกย้ำและสะท้อนให้เห็นอีกครั้งว่าทรอยมีอิทธิพลมากขนาดไหนกับการสร้างความเปลี่ยนแปลงทางความคิดเกี่ยวกับมุมมองต่อกลุ่มคน LGBTQ ของสังคมยุคปัจจุบัน
ตลอดเวลาของโชว์ ทรอย ซีวาน ขนเอาเพลงฮิตจากอัลบั้มทั้ง 2 ชุดอย่าง Blue Neighborhood (2015) และ Bloom (2018) มาเล่นอย่างจุใจแฟนเพลง ไล่ตั้งแต่ Heaven, Fools, Lucky Strikes, Bite, Dance To This, Wild, I’m So Tired โดยเฉพาะ 2 เพลงหลังสุดที่เล่นสดได้สนุกมากๆ
ส่วนเซตเพลงเศร้าที่ประกอบไปด้วยบทเพลงอย่าง Postcard, The Good Side, What A Heavenly Way To Die และ Animal ก็มีความทรงพลัง ทำออกมาได้ดีจนใครหลายคนแอบมีน้ำตาไหลกันเลยทีเดียว
สิ่งหนึ่งที่เราสัมผัสได้ในตัวของ ทรอย ซีวาน คือเขาเป็นคนที่เต็มไปด้วยพลังงานล้นเหลือ และพร้อมจะแบ่งปันพลังงานเหล่านั้นให้กับแฟนเพลงทุกคนที่อยู่ในคอนเสิร์ตของเขา ทรอยเป็นคนน่ารัก เป็นกันเอง เห็นได้จากโมเมนต์ที่เขาขอให้แฟนเพลงคนหนึ่งในคอนเสิร์ตสอนพูดคำว่าขอบคุณเป็นภาษาไทย, การรับของขวัญจากแฟนเพลงซึ่งเป็นกางเกงมวยไทย และการเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายวิดีโอร่วมกับแฟนๆ นอกจากจะเป็นคนน่ารักเข้าถึงง่ายแล้ว เขายังเป็นคนที่มีเสน่ห์และเต้นเก่งชนิดที่ไม่ว่าจะขยับตัวหรือเต้นท่าไหนก็ดูเหมือนว่าทุกคนในฮอลล์พร้อมจะกรี๊ดให้เขาอยู่เสมอ
นอกจากความยอดเยี่ยมของตัวทรอยแล้ว วงแบ็กอัพของเขาก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ดีงามไม่แพ้กัน เพลงหลายๆ เพลงของทรอยที่เราเคยฟังผ่านบริการสตรีมมิงต่างๆ เมื่อมาฟังแบบสดๆ โดยที่มีวงแบ็กอัพระดับคุณภาพมาเล่นให้ มันให้อารมณ์ความรู้สึกดีมากกว่าเป็นร้อยเท่า
ไฮไลต์สำคัญของคอนเสิร์ตครั้งนี้ขอยกให้ช่วง Encore 2 เพลงสุดท้ายอย่าง Youth เพลงดังจากอัลบั้มชุดแรกที่ทุกคนร้องตามกันได้ตั้งแต่ต้นจนจบ โดยเฉพาะประโยค My youth, my youth is yours ก่อนจะปิดท้ายคอนเสิร์ตครั้งแรกในประเทศไทยไปด้วยความสวยงามและประทับใจกับ My My My! อีกหนึ่งเพลงฮิตจากอัลบั้มชุดล่าสุด พร้อมกับยิงคอนเฟตติหลากสีเป็นการส่งท้าย
จากเด็กหนุ่มที่ทำคลิปยูทูบเล่าประสบการณ์เปิดเผยกับครอบครัวว่าตัวเองเป็นเกย์เมื่อ 6 ปีที่แล้ว สู่การเป็นศิลปินป๊อปไอคอนของวัยรุ่นยุคปัจจุบัน ผู้เป็นเหมือนแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนกล้าที่จะเปิดเผย รักตัวเอง และเป็นตัวของตัวเอง ในอนาคตที่โลกจะยิ่งเปิดกว้างความหลากหลายทางเพศ เราต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเพลงและแรงบันดาลใจที่ได้รับจากศิลปินคนนี้ ทรอย ซีวาน
ภาพ: BEC-Tero Entertainment
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า