ย้อนกลับไปในปี 2546 เมื่อภาพยนตร์เรื่อง แฟนฉัน เข้าฉายและได้กลายเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของวงการหนังไทย นับเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เพียงพิสูจน์ว่าภาพยนตร์แนวรักวัยใสก็ทำเงินได้ แต่ยังก่อให้เกิดคลื่นลูกใหม่ของคนทำหนังไทยที่ยังคงสร้างสรรค์ผลงานและทรงอิทธิพลมาจนถึงทุกวันนี้ คลื่นที่ว่าก็คือการก่อตั้งบริษัท จีเอ็มเอ็ม ไท หับ จำกัด หรือชื่อย่อที่ทุกคนคุ้นเคยอย่าง GTH
หลังจากความสำเร็จของ แฟนฉัน ซึ่งเกิดจากการร่วมทุนสร้างของ 3 บริษัท ได้แก่ จีเอ็มเอ็ม พิคเจอร์, ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ และหับโห้หิ้น ฟิล์ม ก็ได้มีการรวมตัวเพื่อจัดตั้งเป็นบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2547 โดยนำตัวอักษรแรกของชื่อบริษัทร่วมหุ้นทั้งสามมาเรียงกันจนกลายเป็นชื่อ GTH (G = จีเอ็มเอ็ม พิคเจอร์, T = ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ และ H = หับโห้หิ้น ฟิล์ม)
ตลอดเวลากว่า 10 ปี GTH ได้ผลิตภาพยนตร์หลากหลายแนวออกสู่สายตาผู้ชมชาวไทย ทั้งโรแมนติก คอเมดี้ และสยองขวัญ โดยภาพยนตร์แต่ละเรื่องมักจะประสบความสำเร็จและได้รับคำชมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ, รถไฟฟ้า มาหานะเธอ, กวน มึน โฮ, ลัดดาแลนด์, ATM เออรัก..เออเร่อ, คิดถึงวิทยา ซึ่งล้วนเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ทะลุ 100 ล้านบาท รวมไปถึง พี่มาก…พระโขนง ที่ทำรายได้กว่า 1,000 ล้านบาททั่วประเทศ จนได้ตำแหน่งหนังไทยที่มีรายได้สูงที่สุด
ช่วงปี 2558 GTH เกิดข้อขัดแย้งเกี่ยวกับแนวทางในการบริหาร เนื่องจากผู้ก่อตั้งมีความเห็นไม่สอดคล้องกันเรื่องการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เป็นผลให้ยุติการรวมตัวกันเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2558 โดยจีเอ็มเอ็มและหับโห้หิ้นแยกมาเปิดบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ จีดีเอช ห้าห้าเก้า ซึ่งมีผลงานเด่นๆ ทั้ง ฉลาดเกมส์โกง, น้อง.พี่.ที่รัก และล่าสุดอย่าง Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน ส่วนไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ แยกตัวมาตั้ง บริษัท ที โมเมนต์ จำกัด โดยมีผลงานซึ่งเป็นกระแสอย่าง App War แอปชนแอป และ The Pool นรก 6 เมตร
ภาพ: GTH