วันนี้ (19 เม.ย.) พรรคเศรษฐกิจใหม่ นัดสื่อมวลชน ณ ที่ทำการพรรค ย่านถนนพระราม 3 แถลงข่าวภายหลังถูกผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคยื่นหนังสือถึง กกต. ขอให้ยุบพรรคตัวเองด้วยข้อกล่าวหามีนายทุนเป็นบุคคลอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคครอบงำกำหนดทิศทางพรรค
นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ พร้อมด้วย นายสุภดิช อากาศฤกษ์ และกรรมการบริหารพรรค แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนตอบคำถามทั้งประเด็นที่ถูกลูกพรรคยื่นยุบพรรค และจุดยืนทางการเมืองหลังเลือกตั้ง
นายมิ่งขวัญแถลงข่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและอารมณ์ดี ชี้แจงว่า นายสุภดิชเป็นผู้ก่อตั้งพรรคร่วมกับเพื่อนสนิท และดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคคนแรก
ทั้งนี้ ตนตอบรับคำเชิญให้มาร่วมพรรคเศรษฐกิจใหม่ เพราะทางพรรคเสนอเงื่อนไขให้ตนมีอิสระผู้เขียนนโยบาย โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจใหม่ และเสนอให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพียงคนเดียว และเสนอให้ตำแหน่งหัวหน้าพรรค
นายมิ่งขวัญอธิบายต่อว่า การบริหารจัดการในพรรคแบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนการร่างนโยบาย การเตรียมตัวออกดีเบต และการออกไปพูดกับสาธารณชนหาเสียงโดยภาพรวม ซึ่งส่วนนี้ตนเป็นผู้รับผิดชอบ
ส่วนการบริหารกิจการภายในพรรค การคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. มีนายสุภดิชและทีมงาน เป็นผู้รับผิดชอบบริหารจัดการ
ขณะที่นายสุภดิชกล่าวว่า พรรคเศรษฐกิจใหม่ก่อตั้งมาโดยกลุ่มเพื่อนสนิทของตน ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นพูดตรงๆ คือช่วยๆ กันออก
“ท่านจะเห็นว่าป้ายหาเสียงต่างๆ เราแทบไม่มี เงินสนับสนุนพรรคเราแทบไม่มี เราไม่มีการจัดปราศรัยเลยเพราะว่ามันใช้เงินมาก เราไม่มีรถแห่หาเสียง เราหาเสียงจากความชัดเจนของนโยบายเศรษฐกิจ และเราใช้เวทีที่ไม่ต้องจ่ายสตางค์ ซึ่งก็คือเวทีดีเบต” นายสุภดิชกล่าว
ส่วนกรณีที่มีผู้สมัคร ส.ส. ในพรรคไปยื่นยุบพรรคตัวเองด้วยข้อกล่าวหาว่ามีนายทุนคนหนึ่งซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรคครอบงำพรรคนั้น
นายสุภดิชยืนยันว่านายทุนที่ถูกพาดพิงคือ นายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของตนที่ก่อตั้งพรรคมา และเป็นสมาชิกพรรคตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2562 ขณะที่พี่ชายของเขาก็ยังเป็นผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อของพรรค
ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่านายมิ่งขวัญไม่ได้จัดประชุมและอบรมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. นั้นยืนยันว่าไม่เป็นความจริง พรรคมีการจัดอบรมแบ่งเป็นรายภาค
พร้อมยืนยันว่าพรรคนี้มีเอกภาพและยึดมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ รักษาคำพูด และไม่มีงูเห่า พรรคนี้ไปทางเดียวกันหมด
เมื่อถามว่า คิดว่าการยื่นยุบพรรคครั้งนี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือไม่
นายมิ่งขวัญตอบว่า ไม่ทราบ และจะไม่ไปสืบหาเบื้องหลัง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ กกต.
หลังจบประเด็นการร้องเรียนให้ยุบพรรค ประเด็นที่สื่อมวลชนถามต่อมาคือ ‘จุดยืนทางการเมืองหลังการเลือกตั้งของพรรคเศรษฐกิจใหม่’
‘จะไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่’ นักข่าวถาม
“คำตอบนะครับ ไม่ร่วม ชัดเจนไหมครับ” นายมิ่งขวัญตอบเสียงดัง
พร้อมย้อนไปถึงจุดยืนที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะไม่ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะอุดมการณ์การเมืองต่างกัน และจะร่วมกับฝ่ายประชาธิปไตย
ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้รังเกียจหรือมีความขัดแย้งกับพรรคพลังประชารัฐ แต่อุดมการณ์ทางการเมืองต่างกัน และยืนยันว่าไม่เคยมีการเจรจากับพรรคพลังประชารัฐ
นักข่าวถามต่อว่า การตัดสินใจของพรรคชัดเจนแล้วหรือไม่ว่าจะอยู่กับฝ่ายพรรคเพื่อไทย
นายมิ่งขวัญตอบว่า “ชัดเจน ไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่ต้นจนจบ”
นักข่าวถามต่ออีกว่า แม้ไม่ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ แต่ในขั้นตอนการเลือกนายกรัฐมนตรีในรัฐสภา ส.ส. ของพรรคจะยกมือโหวตให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อหรือไม่
นายมิ่งขวัญย้อนถามว่า “พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อใครเป็นนายกฯ ผมบอกว่าจะไม่ร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ แล้วจะไปโหวตให้ พล.อ. ประยุทธ์ ได้อย่างไร และไม่ว่าพรรคจะได้ ส.ส. 6 หรือ 7 คน ก็จะเดินไปทางเดียวกันโดยไม่มีงูเห่า”
ทั้งนี้ในช่วงท้ายนายมิ่งขวัญกล่าวด้วยว่า เราอยู่ในระบอบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัริย์ทรงเป็นพระประมุข และประเทศไทยมีลักษณะเฉพาะตัวของการบริหารจัดการ ขณะที่ปณิธานในการก่อตั้งพรรคนี้คือเราจะซื่อสัตย์สุจริต จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และเราจะมีอุดมการณ์เพื่อระบบเศรษฐกิจที่ดีงาม พร้อมเชิญชวนให้คนไทยมีความสุขในช่วงพระราชพิธีที่สำคัญยิ่งของคนไทย และอยากให้ช่วงนี้เป็นวาระแห่งความสุข เป็นวาระแห่งความปลื้มปีติ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
