ปัจจุบันแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างอินสตาแกรม (Instagram) ไม่ได้เป็นแค่พื้นที่แบ่งปันไลฟ์สไตล์หรือเรื่องราวในชีวิตประจำวันของผู้ใช้แต่ละรายอีกต่อไป เพราะถูกต่อยอดให้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญของแบรนด์และผู้ประกอบการธุรกิจเพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคไปจนถึงเริ่มต้นเปิดการขายสินค้าและบริการต่างๆ
วันนี้ (18 เม.ย.) อินสตาแกรม ประเทศไทย เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่าปัจจุบันอินสตาแกรมมีผู้ใช้งานมากกว่า 1 พันล้านแอ็กเคานต์ทั่วโลก (ในจำนวนนี้มากกว่า 80% เป็นผู้ใช้งานนอกสหรัฐอเมริกา) ขณะที่ฟีเจอร์อย่าง Stories ก็มีผู้ใช้สูงมากกว่า 500 ล้านรายต่อวัน ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงเกินครึ่งหนึ่งของผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม
ชวดี วงศ์พยัต หัวหน้าฝ่ายธุรกิจขนาดกลางและย่อม เฟซบุ๊ก ประเทศไทย เผยว่าสาเหตุที่อินสตาแกรมเป็นที่นิยมในไทยเนื่องจากพฤติกรรมผู้ใช้งานส่วนใหญ่ชอบถ่ายรูปและชอบแชร์เรื่องราวไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ซึ่งภาพที่ถูกแชร์หรือส่งต่อออกไปบนแพลตฟอร์มก็กลายเป็นภาษาสากลที่ผู้ใช้กว่าพันล้านรายทั่วโลกสามารถมีปฏิสัมพันธ์ร่วมได้
ชวดีบอกว่าทุกวันนี้อินสตาแกรมไม่ได้เป็นแค่แพลตฟอร์มแชร์รูปเท่านั้น เพราะเครื่องมือต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาอย่าง Business Profile, Feed, IG TV หรือ Stories ได้กลายเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อกับผู้ใช้คนอื่นๆ รวมถึงประยุกต์สร้างประโยชน์ต่างๆ ทางธุรกิจได้อย่างมหาศาล
สถิติที่น่าสนใจบนแพลตฟอร์มคือคอนเทนต์ที่มีผู้ใช้งานเอ็นเกจมากที่สุดใน 3 อันดับแรก ได้แก่ 1. สินค้าเครื่องใช้ส่วนตัว (Personal Goods) 2. แฟชั่น (Fashion) และ 3. ความสวยความงาม (Beauty) ขณะที่ในทุกๆ สัปดาห์จะมีผู้ใช้งานสูงกว่า 2 ล้านรายที่ค้นหาแฮชแท็กที่เกี่ยวข้องกับความสวยความงาม ข้อมูลล่าสุดในเดือนนี้ยังพบอีกด้วยว่า #กางเกงขายาว #เสื้อผ้าแนวสตรีท #กางเกงวินเทจ และ #พร้อมส่ง คือแฮชแท็กยอดฮิตบนแพลตฟอร์ม (ข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา)
นอกจากนี้เมื่อมองในแง่พฤติกรรมการใช้งานจะพบว่า 80% ของผู้ใช้งานอินสตาแกรมกดติดตามแอ็กเคานต์ฝั่งธุรกิจ แต่ละวันมีการเข้าเยี่ยมชมแอ็กเคานต์ธุรกิจอย่างน้อย 1 โปรไฟล์มากกว่า 200 ล้านบัญชี เกิดการสนทนากับฝั่งธุรกิจความสวยความงามและแฟชั่นถึง 150 ล้านครั้งต่อเดือน สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสที่ดีในการประยุกต์แพลตฟอร์มเป็นพื้นที่สร้างตัวตนหรือเริ่มต้นดำเนินธุรกิจอย่างจริงจัง
จิตพล ศิริวัฒนเมธางกูร ผู้ร่วมก่อตั้งมัลติแบรนด์สโตร์ CAMP BKK และหนึ่งในผู้ประกอบการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จบนแพลตฟอร์มบอกว่าอินสตาแกรมได้เปลี่ยนแปลงธุรกิจแฟชั่นไปอย่างมาก ทั้งยังเป็นแค็ตตาล็อกออนไลน์ให้ผู้ที่สนใจสินค้าได้มาอัปเดตข้อมูล การสร้างความต่อเนื่อง และตัวตนที่ชัดเจน เสมือนว่าแบรนด์เป็นมนุษย์ที่จะช่วยให้สารที่ส่งต่อออกไปเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายและเกิดความ Loyalty กับแบรนด์
นับเป็นครั้งแรกที่เฟซบุ๊ก ประเทศไทย จัดงานที่เกี่ยวข้องกับอินสตาแกรมอย่างจริงจัง ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าต่อจากนี้พวกเขาจะเริ่มโปรโมตแพลตฟอร์ม IG ในประเทศไทยและการใช้ประโยชน์ถี่ขึ้น สนใจข้อมูลเพิ่มเติมในการประยุกต์แพลตฟอร์มเพื่อเริ่มทำธุรกิจ ศึกษาข้อมูลได้ที่ business.instagram.com/?locale=th_TH
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
