เราอาจจะคุ้นเคยกับซูเปอร์ฮีโร่ที่สามารถเหาะเหินเดินอากาศ มีพละกำลังเหนือมนุษย์ หรือปล่อยลำแสงทำลายล้างได้ แต่จะเป็นอย่างไรเมื่อคนธรรมด๊าธรรมดา ก็อยากจะเป็นซูเปอร์ฮีโร่กับเขาบ้าง นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นใน Kick-Ass ภาพยนตร์ฮีโร่ขวัญใจสายเกรียน ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมันปนฮา จนกลายมาเป็นกระแสไปทั่วโลก ก่อนลงเอยด้วยความสำเร็จมหาศาล
Kick-Ass ดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนในชื่อเดียวกันของ มาร์ก มิลลา และ จอห์น โรมิตา จูเนียร์ เข้าฉายครั้งแรกที่ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2010 โดยได้ แมทธิว วอห์น มานั่งแท่นผู้กำกับ พร้อมทีมนักแสดงวัยรุ่นหน้าใหม่ ทั้ง แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน, คริสโตเฟอร์ มินท์ซ-พลาสส์, โคลอี มอเรตซ์ มาขึ้นจอร่วมกับดารารุ่นเก๋าอย่าง นิโคลัส เคจ และ มาร์ก สตรอง
ตัวหนังเล่าเรื่องราวของ เดฟ ไลซูวสกี เด็กหนุ่มสุดเห่ย ผู้มีความฝันอันแรงกล้าว่าอยากจะเป็นฮีโร่สักครั้งในชีวิต โดยเขาเชื่อว่าการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ไม่จำเป็นต้องมีพลังวิเศษ เดฟจึงตัดสินใจใส่คอสตูมเขียว คลุมหน้า และออกไปปราบเหล่าโจรผู้ร้ายภายใต้สมญานามว่า ‘Kick Ass’ แต่เหตุการณ์กลับเริ่มวุ่นวาย เมื่อเดฟต้องเข้าไปพัวพันกับ ‘Big Daddy’ อดีตตำรวจผู้ปลอมตัวในชุดแบทแมน เพื่อไล่กวาดล้างแก๊งอาชญากรรมของ D’Amico และ Red Mist ลูกชายของเขา โดยมีกำลังเสริมอย่าง Hit Girl ลูกสาวสุดโหดวัย 11 ปี ที่ Big Daddy เทรนด์จนมีฝีมือการต่อสู้ขั้นเทพ
Kick-Ass กลายเป็นหนังขวัญใจวัยรุ่นที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยทำรายได้ไปมากกว่า 96 ล้านเหรียญสหรัฐทั่วโลก จากทุนสร้าง 28 ล้านเหรียญสหรัฐ ในส่วนคำวิจารณ์ ตัวหนังได้รับคำชื่นชมโดยส่วนใหญ่ ซึ่งต่างให้เครดิตงานภาพ ฉากบู๊เลือดสาด และบทพูดสุดกวน นอกจากนี้ Kick-Ass ยังเป็นเหมือนการแจ้งเกิดให้กับนักแสดงวัยรุ่นทั้ง 3 ก่อนจะตามมาด้วยภาคต่ออย่าง Kick-Ass 2 ซึ่งเข้าฉายในปี 2013
ภาพ: @kickass.lefilm / Facebook