เมื่อวานนี้ (19 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ คาร์ล ราซิน อัยการสูงสุดของกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้เดินหน้ายื่นฟ้องร้องเอาผิดเฟซบุ๊กเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฐานทำข้อมูลผู้ใช้งานกว่า 87 ล้านรายรั่วไหลไปยัง Cambridge Analytica ในปี 2013 ที่ผ่านมา (แต่เพิ่งมาถูกเปิดโปงความผิดพลาดในช่วงต้นปี 2018) เพื่อเอาผิดแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียรายนี้ที่ไม่สามารถปกป้องผู้ใช้งานได้
อัยการสูงสุดได้ยื่นฟ้องเฟซบุ๊ก เนื่องจากมองว่าผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียรายนี้ละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานผ่านการนำข้อมูลส่วนตัวไปใช้ประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาต และระบุไว้ชัดเจนเลยว่าเป็นการ ‘นำข้อมูลไปขาย’ ให้บริษัทรับให้คำปรึกษาข้อมูลทางการเมือง Cambridge Analytica เพื่อช่วยให้พรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่งนำไปใช้ประโยชน์ต่อในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2016 และปิดบังข้อมูลมานานกว่า 2 ปีโดยไม่แจ้งผู้ที่ได้รับผลกระทบ
“เฟซบุ๊กล้มเหลวในการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานของพวกเขา ทั้งยังหลอกลวงพวกเขาว่าข้อมูลของพวกเขาถูกเขาถึงโดยใครและนำไปใช้อย่างไร
“เฟซบุ๊กผลักความเสี่ยงให้กับผู้ใช้งานในการเปิดช่องให้บริษัทอย่าง Cambridge Analytica และบริษัทผู้พัฒนาแอปพลิเคชันเจ้าอื่นๆ บนแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กเพื่อเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับความยินยอม การฟ้องร้องในวันนี้จึงเป็นไปเพื่อต้องการให้เฟซบุ๊กสัญญาว่าจะปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานแพลตฟอร์มพวกเขาเสียที”
ทั้งนี้โฆษกของเฟซบุ๊กให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่า หลังถูกยื่นฟ้องร้อง บริษัทกำลังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการตรวจข้อมูลรายละเอียดการถูกฟ้องร้องอยู่ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้หารือร่วมกับอัยการสูงสุดของกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
ก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพิ่งถูกหนังสือพิมพ์ The New York Times แฉไปหมาดๆ ว่า พวกเขาได้อนุญาตให้บริษัทเทคโนโลยี รวมถึงยักษ์ใหญ่ในหลายๆ อุตสาหกรรมเข้าถึงข้อมูลได้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้งาน
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
