Take on Me เป็นซิงเกิลเพลงระดับไอคอนของยุค 80s ที่วางแผงเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 1984 และเคยฮิตติดชาร์ตอันดับ 1 กว่า 10 ประเทศทั่วโลก ตั้งแต่อังกฤษ อเมริกา เยอรมนี อิตาลี สวีเดน จรดออสเตรเลีย แต่ที่น่าทึ่งกว่านั้นคือ Take on Me ยังคงเป็นเพลงดังตลอดกาลที่ถูกขับร้องและดัดแปลงมาจนถึงทุกวันนี้
Take on Me เป็นเพลง One Hit Wonder หรือเพลงแบบดังเปรี้ยงเดียวของ a-ha วงซินธ์ป๊อปสัญชาตินอร์เวย์ ซึ่งแม้จะเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ที่แจ้งเกิดวงเต็มตัว แต่ในขณะเดียวกันก็กลายเป็นกำแพงที่ข้ามผ่านได้ยาก แม้วงจะยังคงทำเพลงอยู่จนถึงปัจจุบัน แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะมนต์ขลังที่ตัวเองรังสรรค์ขึ้นได้อีกต่อไป
มิวสิกวิดีโอของเพลงก็เป็นส่วนสำคัญในความสำเร็จ โดยกวาดรางวัลจาก MTV Video Music Awards ไปถึง 6 รางวัล ด้วยความล้ำยุคที่ผสมโลกของความเป็นจริงเข้ากับแอนิเมชันลายเส้นดินสอด้วยเทคนิคโรโตสโคป จนกลายเป็นมิวสิกวิดีโอเรื่องราวความรักทะลุมิติของหญิงสาวคนจริงกับชายหนุ่มในโลกของหนังสือการ์ตูน ความแปลกใหม่นี้ช่วยขับความโดดเด่นของท่วงทำนองสังเคราะห์ของเพลงนี้ได้อย่างดี และนำเสนอภาพของยุค 80s ที่เป็นยุคแห่งการทดลองเทคโนโลยีการทำมิวสิกวิดีโอรูปแบบใหม่ๆ และเสียงอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างสมบูรณ์ระดับที่หากพูดถึงยุค 80s แล้ว Take on Me จะต้องเป็นหนึ่งในภาพจำและท่วงทำนองของยุคสมัยเสมอ
แม้จะผ่านมาแล้วถึง 34 ปี แต่ Take on Me ยังคงวนเวียนอยู่ในแวดวงป๊อปคัลเจอร์เสมอ กระทั่งมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ที่เพิ่งอัปโหลดให้ชมในยูทูบเมื่อปี 2010 ก็มียอดวิวกว่า 750 ล้านครั้ง แซงเพลงยุคเดียวกันและยุคปัจจุบันไปแบบไม่เห็นฝุ่น อีกทั้งยังคงถูกคัฟเวอร์และนำไปใช้ประกอบโฆษณาและหนังจำนวนมากแบบยากจะนับนิ้ว แม้แต่แรปเปอร์อย่าง Pitbull ก็ยังนำทำนองคุ้นหูนี้ไปแปลงและใส่ลงในเพลง Feel This Moment ของเขา
รวมทั้งพ่อมดแห่งวงการหนังอย่าง สตีเวน สปิลเบิร์ก ก็เลือกใช้เพลง Take on Me อยู่ในเทรลเลอร์เรื่อง Ready Player One ที่ทำมาเพื่อคารวะบรรดาป๊อปคัลเจอร์ในยุคเก่าโดยเฉพาะ และยังถูกดัดแปลงเป็นเวอร์ชันอะคูสติกเพื่อประกอบในหนัง Deadpool 2 ขับร้องโดยต้นตำรับเพลงอย่าง a-ha ที่เปลี่ยนอารมณ์ใหม่ให้กลายเป็นเพลงอาลัยรักสุดโศกไปเลย