วันที่ 3 กรกฎาคม 2560 ประธานาธิบดี Emmanuel Macron ของฝรั่งเศสกล่าวบทสุนทรพจน์เป็นเวลา 90 นาที ที่พระราชวังแวร์ซายส์ เกี่ยวกับอนาคตของฝรั่งเศสและสหภาพยุโรป ตั้งแต่การเปลี่ยนกฎหมายคุ้มครองแรงงาน การลดความเหลื่อมล้ำ การรื้อโครงสร้างของรัฐสภาฝรั่งเศส ด้วยการลดจำนวน ส.ส. ลง 1 ใน 3 และลดจำนวนสมาชิกวุฒิสภาลง 116 ที่นั่ง ไปจนถึงการเขียนกฎหมายป้องกันการก่อการร้ายให้คำนึงถึงสิทธิมนุษยชนมากขึ้น
ด้านอนาคตของสหภาพยุโรปในสายตาของผู้นำรุ่นใหม่อย่าง Emmanuel Macron นั้น คือ สหภาพยุโรปต้องการ ‘ผู้นำรุ่นใหม่’ และโครงสร้างระบบบริหารจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงเช่นกัน
อย่างไรก็ตามการกล่าวสุนทรพจน์ในสถานที่อย่างพระราชวัง
ได้ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดาพรรคฝ่ายซ้ายอย่างกว้างขวางว่า Emmanuel Macron พยายามใช้สัญลักษณ์แห่งสถาบันกษัตริย์เพื่อกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้ โดยก่อนหน้านี้ตำรวจฝรั่งเศสได้จับกุมชายอายุ 23 ปีที่วางแผนเตรียมลอบสังหาร Emmanuel Macron ในวันชาติฝรั่งเศสที่ 14 กรกฎาคม ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอเมริกาจะเดินทางมาเยือนฝรั่งเศสด้วยเช่นกัน
ผมยังเชื่อมั่นในยุโรป แต่ยังมีข้อสงสัยหลายข้อที่ต้องถูกชี้แจง การลงประชามติของสหราชอาณาจักรปีที่แล้วนั้นคือ อาการที่บ่งบอกถึงความล้มเหลวของสหภาพยุโรป แต่เราต้องรวบรวมความกล้าเพื่อเผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านี้
ลดจำนวนสมาชิกสภา ยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน เขียนกฎหมายป้องกันการก่อการร้ายใหม่
ประธานาธิบดี Emmanuel Macron ประกาศว่า การรื้อโครงสร้างรัฐสภาของประเทศ ด้วยการลดจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของฝรั่งเศสลงจาก 348 คน เหลือ 232 คน และจำนวนสมาชิกวุฒิสภาจาก 577 คน เหลือ 385 คน เพราะเชื่อว่าจะทำให้รัฐบาลฝรั่งเศสทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
หากข้อเสนอนี้ไม่ผ่านการอนุมัติจากรัฐสภาภายในปีนี้ ประธานาธิบดี Emmanuel Macron ประกาศว่า เขาอาจจะจัดให้มีการทำประชามติต่อประเด็นนี้ต่อไป
นอกจากนี้เขายืนยันว่า จะยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินในฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้ ซึ่งถูกประกาศใช้ตั้งแต่เหตุการณ์ก่อการร้ายในกรุงปารีสปี 2015 ด้านกฎหมายที่เกี่ยวกับการป้องกันการก่อการร้ายจะต้องถูกตรวจสอบจากคณะผู้พิพากษา เพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดสิทธิมนุษยชน
เขายังให้คำมั่นว่า เขาจะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำที่มีมาอย่างยาวนานในฝรั่งเศส ที่ทำให้ชาวฝรั่งเศสจำนวนมากถูกจองจำจากสถานะทางสังคม
อนาคตของสหภาพยุโรปในสายตาผู้นำรุ่นใหม่อย่างมาครง
ส่วนหนึ่งของบทสุนทรพจน์ของประธานาธิบดี Emmanuel Macron ได้กล่าวถึงสหภาพยุโรปว่า
“ตลอดช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมาถือเป็นช่วงเวลาที่โหดร้ายสำหรับยุโรป แม้เรากำลังจัดการกับวิกฤตที่เกิดขึ้น แต่เรากำลังหลงทาง ผมยังเชื่อมั่นในยุโรป แต่ยังมีข้อสงสัยหลายข้อที่ต้องถูกชี้แจง การลงประชามติของสหราชอาณาจักรปีที่แล้วนั้นคือ อาการที่บ่งบอกถึงความล้มเหลวของสหภาพยุโรป แต่เราต้องรวบรวมความกล้าเพื่อเผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านี้”
เขากล่าวว่า ยุโรปต้องการผู้นำรุ่นใหม่และต้องปรับปรุงโครงสร้างการบริหาร นอกจากนี้เขาเปิดเผยว่า เยอรมนีกับฝรั่งเศสอาจจะจัดการประชุมทั่วยุโรปภายในสิ้นปีนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับอนาคตของสหภาพยุโรป ซึ่งอาจจะเป็นในรูปแบบของการโต้วาทีระดับชาติ
การกล่าวสุนทรพจน์ในพระราชวังแวร์ซายส์ที่มาพร้อมกับคำวิพากษ์วิจารณ์
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดี Emmanuel Macron เรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกรัฐสภาของฝรั่งเศสเข้ามาฟังบทสุนทรพจน์ของเขาในพระราชวังแวร์ซายส์ ซึ่งเขาไม่ใช่ประธานาธิบดีคนแรกที่จัดการประชุมในพระราชวังแวร์ซายส์ อย่างไรก็ตามภาพการประชุมในพระราชวังครั้งนี้ถือว่าเป็นอีกภาพประวัติศาสตร์ของการเมืองฝรั่งเศส
สมาชิกสภาจากพรรคฝ่ายซ้ายปฏิเสธที่จะเข้าร่วมฟังบทสุนทรพจน์ของประธานาธิบดี โดยกล่าวหาประธานาธิบดีว่า ต้องการใช้สัญลักษณ์ของราชวงศ์ฝรั่งเศสเพื่อโน้มน้าวสิ่งที่เขาพูด และการที่ประธานาธิบดีตัดสินใจพูดเรื่อง ‘การปฏิรูป’ บนเก้าอี้ของอดีตกษัตริย์ฝรั่งเศสได้ทำให้บรรดาพรรคฝ่ายซ้ายโกรธ และยังทำให้พรรคฝ่ายกลางกังวลเช่นกันว่า การตัดสินใจครั้งนี้ของประธานาธิบดีนั้นคุ้มค่าหรือไม่
บรรดาหนังสือพิมพ์ฝ่ายซ้ายของฝรั่งเศสได้ขึ้นปกรูปประธานาธิบดี Emmanuel Macron ในลักษณะของการเป็นพระเจ้า และกล่าวว่าสุนทรพจน์ในพระราชวังครั้งนี้คือสัญลักษณ์ที่สะท้อนความเผด็จการในตัวประธานาธิบดี
ในการเลือกตั้งทั่วไปของฝรั่งเศสครั้งล่าสุด Emmanuel Macron ได้นำพรรค La République En Marche พรรคการเมืองใหม่ที่ประกาศตัวว่าไม่ใช่ทั้งฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา กวาดเสียงคะแนนข้างมากของสภาไปได้ นโยบายการปฏิรูปเศรษฐกิจและสังคมของ Emmanuel Macron จึงมีโอกาสสูงที่จะได้รับการสนับสนุนจากเสียงส่วนใหญ่ของสภาฝรั่งเศส