วันนี้ (1 ธันวาคม) ทีมข่าว THE STANDARD ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา จากการสำรวจพบว่า พื้นที่ดังกล่าวมีน้ำท่วมขังมาตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน จนถึงปัจจุบัน (1 ธันวาคม) ยังคงมีมวลน้ำล้อมรอบที่พักอาศัย โดยเฉพาะจุดที่อยู่ในระดับต่ำ ประชาชนที่มีที่พักอาศัยริมคลองระบายน้ำระบุว่า ในปีนี้กระแสน้ำมีความรุนแรงและมีปริมาณมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้อำเภอเทพาเป็นจุดที่น้ำท่วมขังเป็นเวลานานและระบายออกได้ช้ากว่าอำเภออื่นในจังหวัดสงขลา ประกอบด้วย อำเภอเทพาเป็นพื้นที่รับมวลน้ำมหาศาลที่ไหลหลากมาจากอำเภอตอนบน ทั้งจากอำเภอสะบ้าย้อย และอำเภอนาทวี และ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำและอยู่ติดชายฝั่งทะเล ทำให้เมื่อมวลน้ำจากตอนบนไหลมารวมกัน ประกอบกับมีภาวะน้ำทะเลหนุนสูง จะส่งผลให้การระบายน้ำออกสู่ทะเลทำได้ยาก ทำให้เกิดภาวะท่วมก่อนและลดทีหลังพื้นที่อื่น
ทีมข่าวพบความแตกต่างระหว่างที่อยู่อาศัยและสถานที่ราชการ โดยบ้านเรือนประชาชนส่วนใหญ่มีการปรับตัวโดยสร้างเป็นบ้านยกใต้ถุนสูงหรือบ้านสองชั้น ทำให้ลดความเสียหายต่อการอยู่อาศัยได้ระดับหนึ่ง ในขณะที่โรงเรียนในพื้นที่ส่วนมากเป็นอาคารชั้นเดียว จึงได้รับความเสียหายอย่างหนักจากมวลน้ำที่เข้าท่วม
ในช่วงที่ระดับน้ำขึ้นสูง การช่วยเหลือเบื้องต้นดำเนินการโดยผู้นำชุมชน ทั้งผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ที่ใช้เรือสัญจรนำอาหารและน้ำดื่มเข้าไปแจกจ่ายให้ลูกบ้าน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในระยะเร่งด่วน
