วันนี้ (13 พฤศจิกายน) ในการประชุมคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ. ความมั่นคงฯ) ที่มีรังสิมันต์ โรม เป็นประธาน ได้มีการนัดบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิจารณาศึกษาปัญหาและแนวทางการปฏิรูประบบราชการตำรวจด้านการบริหารงาน บุคคล กรณีคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) มีมติชี้มูลความผิดทางวินัยร้ายแรง พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกกว่า 200 นาย ในกรณีรับส่วยจากขบวนการเว็บพนันออนไลน์(BNK MASTER) ซึ่งกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
พิมพ์วิไล ผู้เคยถูกระบุว่าเป็นบัญชีม้า และพยานปากสำคัญในคดีเว็บพนันออนไลน์ BNK MASTER ได้ปรากฎตัวเป็นทางการครั้งแรกต่อสาธารณะ เพื่อให้ข้อมูลในส่วนข้อสงสัยของการประชุม กมธ. โดยที่ผ่านมาพิมพ์วิไล ได้เคยให้ข้อมูลที่ชี้ให้เห็นถึงเส้นทางการเงินส่วยที่กล่าวอ้างว่าเชื่อมโยงไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงและหน่วยงานต่างๆ
ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เคยระบุว่า พิมพ์วิไล คือต้นทางของเงินส่วยจากเว็บพนันวีนัสและบีเอ็นเค มาสเตอร์ ซึ่งได้ทำการโอนเงินจ่าย ค่าสินบน เกือบ 10 เส้นทาง โดยมีรายงานว่าเส้นทางการเงินเหล่านี้มีความเชื่อมโยงถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และภริยา
ก่อนหน้านี้พิมพ์วิไลได้เข้าให้ข้อมูลดังกล่าวกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาล(สน.)เตาปูน และ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) โดยเธอยืนยันว่าข้อมูลทั้งหมดเป็นความจริง และยอมรับว่าตนเองเป็นผู้โอนเงินจ่ายหลักล้านจริง แม้จะได้รับค่าตอบแทนเพียงเดือนละ 20,000 บาท และอ้างว่าไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับเว็บพนันผิดกฎหมาย
ทนายตั้มเคยระบุว่าบทบาทของเธอคือการเป็นคนจ่ายส่วย หรือตัวแทนจ่ายส่วยของเว็บพนัน โดยมีการเปิดเผยผังเส้นทางการเงินถึง 34 เส้นทางที่มาจากเธอ โยงไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับต่างๆ รวมถึงญาติของผู้บังคับบัญชาระดับสูง (นายพล ต.) และมีการจ่ายให้กับตำรวจไซเบอร์เดือนละ 1 ล้านบาท และหน่วยงานตำรวจอีกหลายหน่วยงาน ซึ่งการเข้าให้การของเธอเป็นการทำด้วยความสมัครใจ แต่ยอมรับว่าตัวเธอมีความกังวลเรื่องความปลอดภัย
นอกจาก พิมพ์วิไล แล้ว ยังมีสายลับ อีกรายซึ่งเป็นพยานบุคคลสำคัญที่เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบการจ่ายส่วยที่กว้างขวางขึ้น โดยสายลับถูกระบุว่าเป็นทีมแม่บ้านของตำรวจ ที่รู้ว่ามีการจ่ายส่วยให้กับบุคคลใด ที่ห้องไหน และใครเป็นคนเก็บเงิน ทีมงานที่สายลับสังกัดนี้ถูกระบุว่าเป็นทีมที่เก็บเงินส่วยมากที่สุด ไม่ต่ำกว่า 8-9 ล้านบาทต่อเดือน และมีส่วนเกี่ยวข้องในคดีส่วย 18 ธุรกิจ นอกเหนือจากคดีเว็บพนัน


