เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ขบวนรถไฟฟ้าบีทีเอสต้องหยุดให้บริการกะทันหันทั้งสองฝั่ง เนื่องจากเกิดเหตุมีผู้โดยสารสุภาพสตรีตกลงไปในรางรถไฟฟ้า
ทั้งนี้ ทวิตเตอร์ทางการของ รถไฟฟ้าบีทีเอส ได้รายงานสถานการณ์การเดินรถไฟฟ้าในช่วงเวลาดังกล่าว โดยระบุว่ามีเหตุผู้โดยสารคนหนึ่งเกิดเป็นลม และตกรางรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีราชเทวี โดยระบุว่า
- 08.15 มีเหตุผู้โดยสารตกลงในรางที่สถานีราชเทวี ฝั่งมุ่งหน้าปลายทางสำโรง และได้ทำการช่วยเหลือผู้โดยสารขึ้นจากรางเรียบร้อย ขออภัยในความไม่สะดวก
- 08.17 เหตุผู้โดยสารลงในราง ขบวนรถที่กำลังเข้าที่สถานีราชเทวีต้องหยุดฉุกเฉินทั้ง 2 ฝั่ง มุ่งหน้าสถานีปลายทางสำโรง และสถานีปลายทางหมอชิต ขณะนี้ผู้โดยสารขึ้นพื้นที่ปลอดภัย เรียบร้อย ขออภัยในความไม่สะดวก
- 08.25 เหตุผู้โดยสารหญิงตกลงในราง เนื่องจากผู้โดยสารเป็นลม การเดินรถในสายสุขุมวิทที่สถานีราชเทวี กลับสู่สภาวะปกติ แต่ยังคงมีขบวนรถห่างระยะในบางช่วง ขออภัยในความไม่สะดวก
ขณะมีประชาชนจำนวนหนึ่งได้ทวีตแสดงความคิดเห็นต่อมาตรการรักษาความปลอดภัยของบีทีเอสว่า ในอนาคตควรจัดทำที่กั้นทุกสถานี โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนจะมีประชาชนใช้บริการจำนวนมาก ทำให้พื้นที่แออัดเสี่ยงต่อการเกิดเหตุเหมือนกรณีที่เกิดในวันนี้
อย่างไรก็ตาม THE STANDARD ตรวจสอบข้อมูลพบว่า สถานีราชเทวี ยังไม่มีการจัดทำที่กั้น โดยก่อนหน้านี้ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส เคยออกมายอมรับว่า ไม่ได้ติดตั้งแผงกั้นให้ครบทุกสถานี แต่รับปากว่าในอนาคตจะมีการพิจารณาอีกครั้งว่าจะติดตั้งแผงกั้นให้ครบทุกสถานีหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าระบบความปลอดภัยเป็นเรื่องที่บีทีเอสให้ความสำคัญที่สุด และเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นอันดับแรก
สำหรับเหตุการณ์ที่มีผู้ใช้บริการตกลงไปในรางของบีทีเอสครั้งนี้ไม่ใช่หนแรก เคยมีกรณีที่สุภาพสตรีพลัดตกลงไปในรางเมื่อปี 2557 และจากเหตุการณ์นี้ทำให้บีทีเอสตัดสินใจเข้าปรึกษาเรื่องการติดตั้งประตูกั้นชานชาลาเพิ่มเติมกับกรุงเทพมหานคร ยังไม่นับรวมเหตุขัดข้องอื่นที่เกี่ยวกับการให้บริการในช่วงเดือนมิถุนายนปีนี้ ที่รถไฟฟ้าบีทีเอสเกิดเหตุขัดข้อง 9 ครั้งภายในเดือนนั้นเดือนเดียว
ภาพ: ทวิตเตอร์ @n_wilawan
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
